ไทยพร้อมดูแลประชุมเอเปก100%

“บิ๊กป้อม” ประชุม ผบ.เหล่าทัพ-หน่วยงานความมั่นคง ติดตามการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุรองรับการประชุมเอเปก พอใจภาพรวมมาตรการความปลอดภัยพร้อม 100% “โฆษกบัวแก้ว” เผยนายกฯ เตรียมผลักดันเป้าหมายกรุงเทพว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG “ตำรวจ” ไม่ปิดกั้นกิจกรรมชุมนุม แต่ขอให้อยู่ในกรอบกฎหมาย “ธนกร” วอนอย่าให้ซ้ำรอยซัมมิตที่พัทยา

ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ วันที่ 11 พ.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจร การจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ (เอเปก) ร่วมกับผู้บัญชาการเหล่าทัพและผู้แทนเหล่าทัพ  อาทิ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.), พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.), พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.),  พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และหน่วยงานด้านความมั่นคง เข้าร่วมการประชุม  ก่อนชมการสาธิตการฝึกทดสอบระบบบัญชาการตามแผนเผชิญเหตุ

ทั้งนี้ การซักซ้อมแผนเผชิญเหตุเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมของการทดสอบระบบบัญชาการในการรักษาความปลอดภัย และการต่อต้านการก่อการร้าย เพื่อให้กำลังพลทั้งกองอำนวยการตอบโต้สถานการณ์ หน่วยตอบโต้สถานการณ์ฯ และผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบได้ทบทวนกลไก กระบวนการ และขั้นตอนการตอบโต้สถานการณ์ในการแก้ไขปัญหาการก่อการร้ายและทดสอบระบบควบคุมบังคับบัญชาสั่งการ รวมถึงระบบการติดต่อสื่อสารให้มีความพร้อมรองรับการจัดการประชุม

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ผลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่วันนี้ แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการรักษาความปลอดภัย อันจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพขีดความสามารถของประเทศไทยและการยอมรับต่อผู้นำ รวมทั้งผู้แทนนานาประเทศและองค์กรต่างๆ ที่เข้าร่วมประชุม

 “สิ่งสำคัญที่ต้องการให้พวกเราได้ตระหนักอยู่ตลอดเวลาคือ การป้องกันและควบคุมไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อการประชุม ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องช่วยกันปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จลุล่วง เพื่อเกียรติยศและศักดิ์ศรีของประเทศไทย” พล.อ.ประวิตรกล่าวกับผู้เข้าร่วมซักซ้อมการปฏิบัติในครั้งนี้

จากนั้น พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ว่า พอใจในภาพรวมทั้งหมด หลังจากที่ได้รับฟังรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนรายละเอียดต่างๆ ให้ฟังทาง ผบ.ตร. อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทุกหน่วยงานมีความพร้อมเต็ม 100% รวมทั้งไม่กังวลที่อาจจะมีกลุ่มต่างๆ ออกมาเคลื่อนไหวในช่วงที่จัดการประชุมเอเปก

ถามถึงกรณีวันนี้กลุ่มกรีนพีซประเทศไทยมาทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เรียกร้องให้การประชุมเอเปกหยุดฟอกเขียวประเทศกำลังพัฒนาที่สร้างผลกระทบวิกฤตสภาพภูมิอากาศ แต่ พล.อ.ประวิตรไม่ตอบคำถามดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ พล.อ.ประวิตรจะเดินทางมาตรวจความพร้อมการรักษาความปลอดภัยการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ที่บริเวณสวนเบญจกิติ กลุ่มกรีนพีซประเทศไทยแถลงข้อสังเกตการณ์เชิงวิพากษ์วิจารณ์และจุดยืนการที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก (APEC 2022) และท่าทีกรอบการเจรจาของรัฐบาลไทยต่อการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP 27)

ด้านนายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ประชุมซักซ้อมการเตรียมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกในทุกด้านที่เกี่ยวข้อง ทั้งด้านพิธีการและสารัตถะ  ด้านการสื่อสารและประชาสัมพันธ์  ตลอดจนการเยือนอย่างเป็นทางการของผู้นำเขตเศรษฐกิจต่างๆ ติดตาม กำกับ ดูแลการเตรียมการต้อนรับบุคคลสำคัญและรับเสด็จผู้นำและแขกผู้มีเกียรติให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมเกียรติ

นายธานีกล่าวว่า ในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก นายกฯ จะหารือแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกในยุคหลังโควิด-19 ให้ครอบคลุมและยั่งยืน ท่ามกลางบริบทโลกที่ท้าทายและผลักดันให้ผู้นำร่วมกันเสนอรับรองเป้าหมายกรุงเทพว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG   เพื่อให้เอเปกมีทิศทางการทำงานที่ชัดเจนสามารถสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สมดุลและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในระยะยาว นอกจากนี้ คณะกรรมการจัดการเงินกองทุนระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ จะเข้าร่วมการประชุมเพื่อเสนอภาพรวมเศรษฐกิจโลกในปี 2565 ด้วย รวมทั้งนายกฯ ได้เชิญแขกพิเศษคือ กัมพูชา ในฐานะประธานอาเซียน ซาอุดีอาระเบียและฝรั่งเศส เข้าร่วมการประชุมในฐานะแขกพิเศษของนายกรัฐมนตรีด้วย 

 “ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จออกทรงรับผู้นำเอเปก พร้อมคู่สมรสและแขกพิเศษ ในวันที่ 18 พฤศจิกายน ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าว

ที่ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วยผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมประชุมตรวจความพร้อมในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร การบริหารจัดการขบวนรถผู้เข้าร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ (เอเปก)

พล.ต.ท.ประจวบกล่าวว่า บช.น.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความพร้อมเต็มที่ในการจัดการจราจรในการประชุมครั้งนี้ โดยที่ผ่านมาได้มีการประชุมซักซ้อมมาอย่างต่อเนื่อง และจะมีการซ้อมใหญ่แบบเต็มรูปแบบ ทั้งขบวนผู้นำจากสนามบินไปที่พัก จากที่พักไปยังสถานที่จัดการประชุม และจะมีการสรุปอีกครั้งว่าติดขัดตรงไหนอย่างไร การซ้อมแผนจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย. ตลอดทั้งวัน-ทั้งคืน และข้ามไปสู่รุ่งเช้าของวันที่ 13 พ.ย.นี้

 “ตำรวจไม่ปิดกั้นการจัดกิจกรรมหรือชุมนุม แต่ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมายและคำนึงถึงประเทศชาติ พร้อมขอให้คนไทยทุกคนร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดี ให้การประชุมครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเพื่อชื่อเสียงของประเทศ” ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าว

พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. กล่าวว่า ในการประชุมเอเปก จะมี 2 เส้นทางที่จะปิดการจราจรตลอด 24 ชม. คือเส้นทางถนนรัชดาภิเษก จากแยกพระราม 4-อโศกมนตรี และจุดตัดพระราม 4 ถึงถนนสุขุมวิท ซึ่งได้เปิดให้ประชาชนที่พักอาศัยลงทะเบียนเพื่อรับบัตรผ่านเข้า-ออกเส้นทางดังกล่าวแล้ว มีประชาชนลงทะเบียนกว่า 2 หมื่นราย ส่วนบางเส้นทางที่ปิดบางช่วงได้จัดเดินรถทางเดียวเพื่อแก้ปัญหาการจราจร

วันเดียวกัน นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ขณะนี้ถือว่าประเทศไทยมีความพร้อมในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้เกือบ 100% แล้ว โดยเฉพาะเรื่องการรักษาความปลอดภัยและการจราจร ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการทดสอบระบบต่างๆ กรณีเผชิญเหตุฉุกเฉินมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นขอให้คนไทยทุกคนร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดีในครั้งนี้

“กรณีที่มีผู้ชุมนุมบางกลุ่มประกาศเตรียมเคลื่อนไหวจัดการชุมนุมคู่ขนานนั้น แม้บ้านเราจะยังคงมีคนบางกลุ่มที่มีความเห็นแตกต่างกันอยู่บ้างในทางการเมือง แต่อยากจะขอร้องให้หยุดพักเรื่องการเมืองเอาไว้ก่อน แล้วหันมาร่วมกันเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมระดับโลกครั้งนี้ ทำให้การประชุมเอเปกครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยความราบรื่น อย่าให้เหมือนฝันร้ายในอดีต ที่มีกลุ่มคนบางกลุ่มไปสร้างความวุ่นวายในการประชุมอาเซียนซัมมิตที่พัทยา” นายธนกรกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ยิ่งลักษณ์’ กลับคุก ‘บิ๊กเสื้อแดง’ รู้มา! ว่าไปตามราชทัณฑ์ไม่ใช้สิทธิพิเศษ

“เลขาฯ แสวง” ยันเดินหน้าคดี “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างการปกครองต่อ เพราะใช้กฎหมายคนละฉบับกับศาล รธน. "จตุพร" ลั่นยังไม่จบ! ต้องดูสถานการณ์เป็นตอนๆ ไป