เมินเลิกปลดล็อก! ข้องใจหมอสมิทธิ์

"อนุทิน" ยันไม่ถอย ปลดล็อกกัญชา วันนี้ประเทศเดินหน้า มีนักลงทุนเข้ามาดำเนินการเรื่องนี้เป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท หากไทยโลเล  จะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ ส่วนเลขาฯ รัฐมนตรีชี้ถ้าย้อนให้กัญชาเป็นยาเสพติด คนไทยนับล้านต้องเข้าคุก ซัด "หมอสมิทธิ์" ใช้ตำแหน่งในแพทยสภาเพื่อตัวเอง

จากกรณีที่ นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ กรรมการแพทยสภา และนายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย พร้อม ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ยื่นฟ้องนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ต่อศาลปกครองกลาง          เพื่อขอให้มีคําพิพากษาเพิกถอนประกาศกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ลงวันที่ 8 ก.พ.2565 เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ.2565 ทั้งนี้ เพื่อให้เพิกถอนประกาศปลดล็อกกัญชา พร้อมขอให้ศาลมีคําสั่งคุ้มครองชั่วคราวนั้น

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าจะทำให้กัญชากลับมาเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 อีกนั้นก็ต้องแก้กฎหมายอีก เพราะได้ถอดออกไปจากพระราชบัญญัติแล้ว แต่ถ้าต้องการจะควบคุมให้เข้มงวด ก็น่าจะสามารถมีวิธีอื่นที่ควบคุมได้โดยไม่ต้องไปแก้กฎหมาย โดยที่ได้ผลใกล้เคียงกัน เพราะวันนี้มีประกาศกระทรวงสาธารณสุขอยู่ หากต้องการยกเลิกประกาศดังกล่าว อาจจะสามารถกลับมาสู่มาตรการคล้ายๆ กับจะเป็นยาเสพติดประเภท 5 ได้ แต่ถ้าจะเอากลับไปสู่ยาเสพติดประเภท 5 โดยตรงเลย จะต้องแก้กฎหมาย เพราะเดินไปถอดออกเสียแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลมีแนวคิดที่ต้องการให้กลับไปเป็นยาเสพติดประเภท 5 อีกหรือไม่ รองนายกฯ ปฏิเสธว่า ไม่ทราบ ต้องถามทางกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ อำนาจเด็ดขาดอยู่ที่คณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงสาธารณสุขจะต้องเป็นผู้เสนอ

เมื่อถามว่า การที่ พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ ยังไม่ผ่านสภา ทางออกที่เร็วและง่ายที่สุดคือกระทรวงสาธารณสุขปรับแก้ระเบียบให้รัดกุมขึ้น และนำข้อห่วงใยต่างๆ เข้ามาเขียนในประกาศใหม่ได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ถูกต้อง ง่ายกว่าเยอะ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเขาก็รู้

ถามว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเองก็ระบุว่ากระทรวงออกประกาศมาครอบคลุมทั้งหมดแล้ว นายวิษณุกล่าวว่า ตนเองไม่แน่ใจ เนื่องจากไม่ได้ตามดูเรื่องนี้ แต่ในการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ในสัปดาห์หน้านี้ จะมีการนำเรื่องนี้ขึ้นมาพูดคุยกัน

ซักถามว่า แต่ขณะนี้ผลกระทบต่อสังคมที่เกิดขึ้นมีมาก รองนายกฯ แจงว่า เราก็รู้กันอยู่ และพูดถึงเรื่องนี้กันมานานหลายเดือนแล้ว ในขณะที่ทุกคนจะต้องรับผิดชอบร่วมกัน ก็ขอให้ในเบื้องต้นกระทรวงสาธารณสุขควรจะต้องเป็นคนคิดและเสนอ ส่วนเรื่องที่มีการยื่นศาลก็ว่ากันไป

ด้านนายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย เราทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องรอกระบวนการยุติธรรม ส่วนที่ นพ.สมิทธิ์ระบุว่าเพราะไม่มีการคุ้มครองผู้บริโภค โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนนั้น ก็เป็นเพียงความเห็นของเขา แต่ในส่วนของ สธ.มีความมั่นใจว่าตามประกาศ สธ.ที่ออกมานั้นมีผลตามกฎหมาย ลดความเป็นกังวลของสังคม ป้องกันการเข้าถึงของเด็ก เยาวชน ใครทำนอกเหนือจากนี้ ถือเป็นความตั้งใจทำผิด เจ้าหน้าที่ต้องไปดำเนินคดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมามีภาพเด็ก เยาวชน ใช้กัญชา แต่ไม่เคยปรากฏว่ามีการลงโทษเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง ทำให้ถูกมองว่ามีการเพิกเฉย ละเลย และทำให้กัญชาเสรีเกินไป รมว.สาธารณสุขยืนยันว่า สธ.ไม่เพิกเฉยแน่นอน ประกาศ สธ.ก็คือส่วนหนึ่งของกฎหมาย อยู่ภายใต้พ.ร.บ.การสาธารณสุข เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่ฝ่าฝืนหรือกระทำเกินจากบทบัญญัติ เท่ากับจงใจทำผิดกฎหมาย ต้องดำเนินการเอาผิด ผู้มีหน้าที่ในการเอาผิดคือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใครพบเห็น ถ้าจะเอาเรื่องก็ต้องแจ้งให้ดำเนินการเอาผิด เหมือนกับ พ.ร.บ.จราจร ห้ามขับเกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อธิบดีกรมทางหลวงก็ไม่ได้ไปไล่จับ แต่คนเอาผิดก็คือตำรวจ

เมื่อถามว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นว่าสามารถทำเป็นกฎกระทรวงเพื่อควบคุมกัญชาเสมือนเป็นยาเสพติดในระยะนี้ไปก่อนได้ นายอนุทินกล่าวว่า หากมีใครมาร้องอะไร แล้วเราต้องทำตามหมด คงไม่ใช่

"ไม่ใช่ว่าต้องเป็น พ.ร.บ.ถึงจะผิด เป็นประกาศ สธ.ไม่ผิด นี่เป็นเรื่องที่ฝ่ายค้าน ผู้เห็นต่าง พยายามเอามาทำให้ประชาชนไขว้เขว แต่ สธ.เป็นผู้ออกประกาศและควบคุมการใช้สิ่งเหล่านี้ ดังนั้น สธ.ก็ทำตามหน้าที่ตามประกาศของกระทรวง วันนี้ประเทศเดินหน้า มีนักลงทุนเข้ามาดำเนินการเรื่องนี้เป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท หากประเทศไทยโลเล วันนี้ทำได้ อีก 3 เดือนบอกทำไม่ได้ก็จะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ และไม่มีความน่าเชื่อถือในการลงทุน" นายอนุทินกล่าว

นายภราดร ปริศนานันทกุล โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวอย่าใช้ประเด็นความแตกต่างทางนโยบายของพรรคการเมือง ในเรื่องกัญชาเป็นประเด็นหาเสียงเลือกตั้งกรรมการแพทยสภา เพราะจะเป็นการนำการเมือง เข้าไปในองค์กรแพทยสภา ซึ่งทราบว่าคณะกรรมการแพทยสภา หลายท่านอึดอัดกับพฤติกรรมเช่นนี้

นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าย้อนกลับไปเป็นยาเสพติด คนไทยนับล้านจะทำอย่างไร ต้องเข้าคุกเข้าตะรางกันหรือไม่ แล้วนานาชาติเขาทยอยปลดล็อกกัญชากันหมด ไทยได้รับการยกย่องว่ามีความก้าวหน้าในเรื่องนี้ คนป่วยได้ยารักษา คนธรรมดามีพืชเศรษฐกิจใหม่ แต่อยู่ดีๆ ก็จะกลับไปอยู่ ณ จุดเดิม จากจะนำหน้า ก็มาดึง มาฉุดกันให้ล้าหลัง

"หมอคนนี้ ก็ไม่แปลกใจที่ออกมาค้าน เพราะท่านเป็นของท่านแบบนี้อยู่แล้ว เมื่อก่อนหมอสมิทธิ์ ผมเห็นร่วมชุมนุมกับกลุ่มหมอไม่ทนบ้าง อะไรบ้าง ก็รู้เบื้องหน้า เบื้องหลังกันดี หมอสมิทธิ์ก็คนหน้าเดิม กลุ่มเดิมนี่แหละ เป็นพวกขาประจำ แต่วันนี้เล่นใหญ่หน่อย มาอยู่กับพรรคการเมืองฝ่ายค้าน เปิดตัวกันเต็มคาราเบลเลย เข้าใจได้ เพราะก่อนหน้านี้ เห็นระดมชื่อต้านกัญชาผ่านโลกออนไลน์ แล้วล้มเหลวไม่เป็นท่า มันก็ต้องหาทาง คิดใหม่ ทำใหม่ แต่นึกไม่ถึงว่าจะมาอยู่ในวงนักการเมืองขนาดนี้ เพราะมีแต่ทำให้เครดิตตัวเองดูแย่ลง จะถูกกล่าวหาเป็นพวกเดียวกัน เคลื่อนไหว เพื่อเล่นเกมการเมือง ชิงเหลี่ยมอำนาจ เป็นหมอ แต่ไม่เป็นกลาง เลือกข้าง เลือกฝ่าย ไปอยู่เคียงข้างนักการเมือง ซึ่งคนเขาก็คิดกันไปแล้ว เพราะภาพมันชัด ผมเตือนหมอด้วยความหวังดี ระวังจะถูกเขาหลอกใช้เป็นเครื่องมือ เครดิตที่สั่งสมมาจะเสียหมด" นายวัชรพงศ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อมูลไปยังกรรมการแพทยสภาหลายคน ถึงประเด็นดังกล่าว โดยทุกคนให้ข้อมูลตรงกันว่า จากกรณีดังกล่าว กรรมการแพทยสภาคนอื่นๆ ไม่ได้มีส่วนรับทราบกับการกระทำของ นพ.สมิทธิ์ และไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว ทั้งนี้ เท่ากับ นพ.สมิทธิ์กระทำในนามส่วนตัว เพียงแต่มีการใช้ตำแหน่งกรรมการแพทยสภาเท่านั้น

นอกจากนั้น กรรมการแพทยสภายังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การที่ นพ.สมิทธิ์ใช้ตำแหน่งในแพทยสภา ก็เพื่อให้เป็นที่สนใจ เนื่องจากช่วงนี้อยู่ในระหว่างการลงคะแนนเลือกตั้งกรรมการแพทยสภา ซึ่ง นพ.สมิทธิ์เป็นแพทย์นิติเวช ที่เป็นหนึ่งในผู้สมัครกรรมการแพทยสภาอิสระ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง