สยบข่าวสส.ทิ้งพรรค พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร4ภาค/ปชป.โวเดินสู่เป้าหมาย

สนามเลือกตั้งคึกคัก!     "พปชร." เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 4 ภาค รวดเดียวครึ่งร้อย ฮือฮา "เด็กบิ๊กแจ๊ด"   โผล่ลงสมัคร ส.ส.ปทุมธานีเพียบ "สันติ" มั่นใจเป้าหมาย 150 ที่นั่งได้แน่  "นิพนธ์" ยอมรับเสียใจมีคนออกจาก "ปชป." แต่ไม่เสียดาย เชื่อพรรคอยู่ได้ด้วยอุดมการณ์มา 77 ปี เชื่อผู้บริหารพาพรรคไปสู่เป้าหมายได้ "รังสิมา" รับหลายพรรคทาบทามจริง ขอรอผลโพลถาม ปชช.ชี้อนาคตอยู่หรือไป "ทนายบิลลี่" อดีตเด็กพรรคส้มโผล่ซบเพื่อไทย

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) วันที่ 10 พ.ย. นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร., นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการบริหารพรรค พปชร., นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ ประธานวิปรัฐบาล ในฐานะกรรมการบริหารพรรค พปชร. ร่วมกันเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 4 ภาค ใน 21 จังหวัด รวม 50 คน แบ่งเป็น ส.ส.เดิม 10 คน และผู้สมัครใหม่ 40 คน  

สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 50 คน ประกอบด้วย จ.พิจิตร คือ นายภูดิท อินสุวรรณ์ ส.ส.พิจิตร เขต 2, จ.นครสวรรค์  นายภิญโญ นิโรจน์ ส.ส.นครสวรรค์ เขต 1 นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ เขต 6 นายพรวิศิษฐ์ แจ่มใส เขต 7 นางจิตรา หมีทอง เขต 8, จ.น่าน นายสักก์สีห์ พลสันติกุล เขต 1, จ.พิษณุโลก นายอดุลวิทย์ วิวัฒน์ธนาฒย์ เขต 5  นายศิริชิน หาญพิทักษ์พงศ์ เขต 2 นายอนุชา น้อยวงศ์ ส.ส.พิษณุโลก เขต 3, จ.เพชรบูรณ์ น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธ์ ส.ส.เพชรบูรณ์ เขต 1 นายจักรัตน์ พั้วช่วย ส.ส.เพชรบูรณ์ เขต 2 นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ ส.ส.เพชรบูรณ์ เขต 3 นายสุรศักดิ์ อนรรฆพันธ์ ส.ส.เพชรบูรณ์ เขต 4 นายเอี่ยม ทองใจสด ส.ส.เพชรบูรณ์ เขต 5 นายบุญชัย กิตติธาราทรัพย์ เขต 6, จ.เลย นายสุภาพ พุทธทองศรี เขต 2, บึงกาฬ นายวิทยา เสนจันทร์ฒิไชย เขต 1 น.ส.ฌาณิการ์ เมืองแทน เขต 3

จ.มุกดาหาร น.ส.กัลยกร สุขสานต์ เขต 1 นายวิทยา บุตรดีวงศ์ เขต 2, จ.อุดรธานี นายอฤเดช แพงอะมะ เขต 4 นายชัชวาลย์ ลือคำหาญ เขต 8, จ.มหาสารคาม นายสุชาติ ศรีสังข์ เขต 2 นายโกศล คาดพันโน เขต 5, จ.ร้อยเอ็ด นายธนชัย สินธุไพร เขต 5 นายศราวุธ ศรีนนท์ เขต 7, จ.กาฬสินธุ์ นายวรากรณ์ ภูอาภรณ์ เขต 2 นายจำลอง ภูนวนทา เขต 3 นายชานุวัฒน์ วรามิตร เขต 6, จ.ปัตตานี นายคอซีย์ มามุ เขต 2, จ.นราธิวาส นายรำรี มามะ เขต 3 นายอามิร ซาริคาน เขต 4, จ.สตูล พ.ต.ท.สุริยา บาราสัน เขต 1 นายทินกร ทองใสเกลี้ยง เขต 2, จ.พัทลุง นายประจวบ รามณีย์ เขต 2, จ.สงขลา นายธเนศ ล่องนาวา เขต 7

                    จ.ปทุมธานี นายเสวก ประเสริฐสุข เขต 1 นายคิว อรุโณรส เขต 2 นายยุทรวัตร หาญเกียรติกล้า เขต 3 นายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง เขต 4 นายปรีชา ชื่นชนกพิบูล เขต 5 นายวิรัช พยุงวงษ์ เขต 6 น.ส.กฤษณา วงศ์คำ เขต 7, ลพบุรี พ.อ.สุชาติ คัดสูงเนิน เขต 1 นายณฐพงศ์ นรสิงห์ เขต 2 นายไสว วงษ์ศรี เขต 3 นายสนั่น พรหมสุข เขต 4, จ.นนทบุรี นางเจริญ เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี  นายทศพร เพ็งส้ม และ จ.สมุทรสงคราม นายนพพล ธนิกุล 

 นายสันติกล่าวว่า ในวันที่ 11 พ.ย.จะมีสัมมนาพรรค ขอให้ผู้สมัคร ส.ส. มาเรียนรู้ ศึกษาพี่ๆ ที่เป็น ส.ส.เดิมว่าลงพื้นที่ดูแลประชาชนอย่างไร และขอให้กำลังใจ ในฐานะแม่บ้านพรรค หากมีปัญหาอะไรปรึกษาได้ตลอดเวลา โดยจะมีทีมงานรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากผู้สมัคร 

พปชร.เปิดตัวเด็กบิ๊กแจ๊ด

 มีรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานีหลายคนมีความใกล้ชิดกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ทั้งนายเสวก ประเสริฐสุข อดีตรองนายก อบจ.ปทุมธานี, นายคิว อรุโณรส นายกสมาคมกีฬาจักรยานปทุมธานี, นายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง อดีต ส.ส.ปทุมธานี ที่เดิมย้ายจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ไปพรรคเพื่อไทย (พท.) แต่ปรากฏว่าพรรค พท.ส่งคนอื่นลงสมัครแทน, นายปรีชา ชื่นชนกพิบูล เลขานุการนายก อบจ.ปทุมธานี, นายวิรัช พยุงวงษ์ อดีตผู้สมัคร ส.จ.ปทุมธานี ทีมคนรักปทุมของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ทั้งนี้ เดิมผู้สมัครเหล่านี้จะลงสมัครในนามพรรค พท. แต่พรรคส่งคนอื่นลงแทน พล.ต.ท.คำรณวิทย์จึงส่งลูกทีมมาลงสมัครในนาม พปชร.แทน 

ต่อมานายสันติให้สัมภาษณ์ถึงการย้ายพรรคของ ส.ส.พปชร.ว่า ส.ส.พปชร.เราร่วมสร้างพรรคจนมีความเข้มแข็งมาถึงขนาดนี้ มีความรักพรรคอย่างมาก เพราะเราช่วยกันสร้างมา และยังมีความมั่นใจจนถึงขณะนี้ ที่ได้ถาม ส.ส. แต่ละคนยังไม่เห็นมีใครบอกว่ามีปัญหาอะไร ทุกคนยึดมั่นว่าเราจะอยู่ช่วยกันผลักดันนโยบายต่างๆ ของพรรค ขอย้ำว่าเรายังเข้มแข็งหนักแน่น

"ที่ผ่านมามีข่าวลือเยอะแยะ และผมเองก็ยังเคยถูกข่าวลือนั้น สื่อก็ยังมาถามเป็นประจำ เพียงแต่ผมมีความเด็ดขาด และบอกว่าไม่ไปไหน จะอยู่ช่วยกันดูแลพรรคคนละไม้คนละมือ ดูแลประชาชน" นายสันติกล่าว

ถามถึงการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.วันนี้ 50 คน วางเป้าหมาย ส.ส.ไว้ที่เท่าไหร่ นายสันติกล่าวว่า ความมุ่งมั่นของเราอย่างต่ำ 150 ที่นั่ง เหมือนที่หัวหน้าพรรคเคยให้โจทย์ไว้

ขณะที่นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกระแสข่าว ส.ส.พรรค ปชป.เตรียมย้ายสังกัดไปร่วมงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่ายังไม่ทราบว่าเป็นจริงหรือไม่ เพราะตอนนี้เป็นเพียงกระแสข่าว 

 “หากมีคนไหลออกไป ผู้บริหารก็ต้องพิจารณาด้วยว่าเกิดจากอะไร ยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของคนพรรค เป็นเรื่องที่ผู้บริหารจะต้องเร่งแก้ไข” นายสาธิตกล่าว

ส่วนนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงกระแสข่าว น.ส.รังสิมา รอดรัศมี  ส.ส.สมุทรสงคราม พรรค ปชป. เตรียมย้ายพรรคว่า ไม่ขอแสดงความเห็นอะไร แต่ที่ผ่านมาพรรคก็ดูแลทุกคน ให้ความสำคัญกับทุกคนที่อยู่ในพรรค การที่จะไปอยู่พรรคอื่น เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลที่ตัดสินใจ

“พรรคประชาธิปัตย์คิดว่าวันนี้เราทำดีที่สุดแล้ว ผมยืนยันได้ว่าพรรคให้โอกาสกับคนทุกคน เหตุการณ์นี้เราเคยประสบมาแล้ว แม้ว่าจะมีพรรคบางพรรคที่จ้องพยายามที่จะนำเอาคนในพรรคไป เพื่อทำให้พรรคดูไม่มีความมั่นคงและอ่อนแอ คิดว่าเขาจ้องจะทำลายพรรคอยู่แล้ว ซึ่งเชื่อว่าเราจะผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้แน่นอน เรื่องนี้ก็เป็นบทพิสูจน์ของพรรคในวันข้างหน้า และเป็นอีกบทพิสูจน์หนึ่งที่ให้เห็นว่าพรรคเป็นสถาบันทางการเมืองที่ย่างเข้าสู่ปีที่ 77  พรรคไม่ได้ฝากอนาคตไว้กับคนใดคนหนึ่ง เมื่อคนรุ่นนี้จากไปคนรุ่นใหม่ก็เกิดขึ้น พรรคก็จะมีพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่มากขึ้น ถือเป็นการถ่ายเลือดครั้งใหญ่อีกครั้งของพรรคถ้าเกิดขึ้นตามข่าวจริง”นายนิพนธ์กล่าว

รองหัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า ตนไม่ประสงค์ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นในเวลาอย่างนี้ พรรคต้องการทุกคนช่วยกันสร้างกอบกู้พรรคจากวิกฤตนี้ ใครที่คิดไม่ดีกับพรรคจะเป็นบทพิสูจน์ในวันข้างหน้า  อยากเห็นทุกคนมีความมั่นคงกับพรรค วันนี้พรรคเดินไปข้างหน้าถูกทิศถูกทางแล้ว เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามานำพาพรรคให้มีบทบาทมากขึ้น พรรคจะไม่กังวลกับเรื่องนี้ เราเตรียมคนพร้อมสำหรับเข้าสู่การเลือกตั้งแน่นอน ไม่มีอุปสรรคใดๆ มาขวางการเดินไปข้างหน้า แผนที่วางไว้ก็เดินไปถึงให้ได้ คิดว่าเวลาอย่างนี้ทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจกัน คาดว่ากรณี น.ส.รังสิมา จะไม่เป็นจริง หวังว่าทุกคนยังเป็นกำลังของพรรคที่เน้นเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง

ถามถึงกรณี น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส.นครศรีธรรมราช มีกระแสข่าวจะย้ายไปอยู่พรรค รทสช. นายนิพนธ์กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด ทราบจากข่าวเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา น.ส.พิมพ์ภัทราและ น.ส.รังสิมาได้มีการพูดคุยกับตนอยู่ ซึ่งทั้ง 2 ท่านก็เป็นผู้อาวุโสแล้วในการเป็น ส.ส. 4-5 สมัย ไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว และพรรคเองเห็นว่าการคงอยู่ของพรรคเป็นเรื่องใหญ่กว่าการคงอยู่ของตัวบุคคล บุคคลจากไปได้ แต่พรรคต้องรักษาไว้ ตนเชื่อว่าคนรุ่นใหม่ๆ เข้ามาแบกรับภารกิจนี้ได้ พรรคเคยผ่านวิกฤตแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว มองว่าคนที่ออกจากพรรคประชาธิปัตย์ไปตั้งพรรคใหม่ไม่เคยมีใครประสบความสำเร็จแม้แต่คนเดียว 

ลั่น'ปชป.'ต้องเดินหน้าต่อ

 “ทุกครั้งที่มีคนออกจากพรรค เมื่อถึงเวลาประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินทุกครั้ง เรามีการจับตาเรื่องนี้มาตลอด ยอมรับไม่อยากให้เกิดขึ้น และเสียใจที่มีคนออกไป แต่ไม่เสียดาย ซึ่งเราก็ต้องมีแผนเตรียมรองรับสถานการณ์ไว้ ที่สำคัญที่สุดพรรคประชาธิปัตย์ต้องเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง ไม่มาติดกับดักอยู่กับคนนั้นคนนี้ลาออก ท่ามกลางกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างนี้ เมื่อคนอยู่ล้มลงต้องมีคนใหม่มาแทนที่แบกภารกิจของพรรคต่อไป” รองหัวหน้าพรรค ปชป.กล่าว

ด้าน น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรค ปชป. กล่าวถึงกระแสข่าวการย้ายพรรคว่า ยอมรับได้รับการติดต่อทาบทามจากทุกพรรคการเมือง ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล แต่ไม่ใช่ว่าเราเล่นตัว เพราะการตัดสินใจต้องถามประชาชน เพราะการเมืองเปลี่ยนไปแล้วไม่เหมือนเดิม

 “เมื่อการเมืองเปลี่ยนทุกวัน ดิฉันจึงไปถามประชาชนว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเลือกรังสิมาหรือไม่ ทุกคนก็บอกว่าเลือกเรา ดังนั้นถ้าดิฉันไปถามเอง เขาก็ต้องบอกว่าเลือกเรา จึงต้องให้ทำโพลสอบถามความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ก่อน เพราะดิฉันลงเลือกตั้งมา 6 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่หวั่นไหวที่สุด กลัวจะสอบตก แต่ถ้าสอบตกก็ไม่เป็นไร ยอมรับสภาพ ถ้าประชาชนไม่เลือกก็เลิก บางคนก็ถามว่ารังสิมา ถ้าสอบตกจะไปทำอะไร ก็ตอบไปว่าฉันก็ขายหอยของฉันสิคะ หอยฉันขายได้นะคะ เพราะได้เตรียมอาชีพไว้แล้ว” น.ส.รังสิมากล่าว

ส.ส.ปชป.รายนี้ระบุว่า ในการทำโพลนั้น ได้มีการสอบถามประชาชนว่าถ้ายังอยู่พรรค ปชป. ประชาชนยังเลือกหรือไม่ และถ้าไม่เลือกจะให้เราไปอยู่พรรคไหน และที่ไม่เลือกเพราะอะไร และที่ให้ไปอยู่พรรคใหม่เพราะอะไร โดยต้องทำอย่างละเอียดทุกตำบล ทุกหมู่บ้าน เพราะจะให้แก้ปัญหาได้ถูก เดิมๆเราใช้ไสยศาสตร์ แต่ปัจจุบันต้องใช้วิทยาศาสตร์ เพื่อความมั่นใจ เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมามีคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งเพียง 4 พันคะแนน จากอดีตที่ห่างถึง 4 หมื่นคะแนน แต่หากประชาชนให้อยู่พรรค ปชป. ก็ต้องอยู่ต่อไป เพราะถ้าไปพรรคอื่นก็สอบตก ดังนั้นตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะอยู่หรือจะไป ต้องรอผลโพลว่าจะให้ไปอยู่พรรคไหนก็ไป แต่ไม่ได้ไปเร่งรัดในเรื่องการทำโพล เพราะไม่อยากแทรกแซง กลัวข้อมูลที่ได้มาไม่จริง เสียเงินปล่า และเราก็สอบตกด้วย

 “ยืนยันไม่ได้มีปัญหากับพรรค ปชป. แต่ถ้าโพลไปไม่รอด เราก็บอกกับหัวหน้าพรรคแล้วว่าถ้าโพลออกมาว่าอยู่กับพรรค ปชป.แล้วแพ้ ก็ต้องขออนุญาตออกก่อน และเลือกตั้งครั้งต่อไปก็ไปๆมาๆ ได้ ไม่เป็นไร แต่ถ้าอยู่พรรค ปชป.แล้วรอดก็อยู่ต่อ แต่ถ้าไม่รอดก็ไป เพราะประชาชนเขาไม่เลือกเราจะทำอย่างไรได้ ซึ่งหัวหน้าพรรคบอกว่าขอให้อดทนอยู่ด้วยกัน” ส.ส.ปชป.รายนี้ระบุ

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค, นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ, นายวราวุธ ยันต์เจริญ คณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ, น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรค ร่วมแถลงเปิดตัวนายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ หรือทนายบิลลี่ อดีต ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรค

 นายจิรวัฒน์กล่าวว่า พรรค พท.ในวันก่อนและวันนี้แตกต่างอย่างชัดเจน เฝ้าดูการปรับเปลี่ยนของพรรค มีความทันสมัย เข้าใจคนรุ่นใหม่ โลกเปลี่ยนแปลงเร็ว พรรคต้องปรับเปลี่ยนเร็วเช่นกัน พรรคเพื่อไทยเข้าใจคนรุ่นใหม่ คนรากหญ้าและชุมชนเมืองเมื่อตนเข้ามาสมัครเป็นสมาชิก หวังว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คือการทำงานต้องตอบโจทย์ประชาชน ทั้งด้านเศรษฐกิจ การกินดีอยู่ดี ถ้าได้รับโอกาสจะทำให้ดีที่สุด ส่วนจะได้เป็นผู้สมัครของพรรคหรือไม่ ขึ้นกับกรรมการบริหารและกรรมการสรรหา

 ถามว่าที่มาร่วมงานกับพรรค พท.ส่วนหนึ่งเป็นเพราะจุดยืนแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลใช่หรือไม่ นายจิรวัฒน์กล่าวว่า ไม่ใช่เหตุผลหลัก คิดมาซักพักแล้วการแก้ไขกฎหมายไม่จำเป็นต้องเป็นมาตราดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายใด การแก้ไขกฎหมายมีกระบวนการนิติบัญญัติ ซึ่งต้องอาศัยเสียงข้างมากในสภา รวมถึงเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ที่เห็นตรงกัน

ด้านนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ในวันที่ 12 พ.ย. พรรคชาติพัฒนากล้าจะยกทีมใหญ่ลงไป จ.ภูเก็ต อาทิ นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค, นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรค

นายกรณ์กล่าวว่า จะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 2 คน ซึ่งทั้งสองคนเป็นคนรุ่นใหม่ นักธุรกิจ จิตอาสา มาจากสายอสังหาริมทรัพย์ และสายธนาคาร ตั้งใจทำงาน มีความรู้ความสามารถ ประชาชนในพื้นที่ให้การยอมรับ ตอบรับเสียงคนภูเก็ตที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง