ดัชนีผู้บริโภค สูงสุดรอบ10ด. เชื่อมั่นศก.ฟื้น

“หอการค้าไทย” เผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ต.ค.65 อยู่ที่ 46.1 สูงสุดในรอบ 10 เดือน อานิสงส์ขึ้นค่าแรง-ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวสูง หนุนประชาชนเชื่อมั่นเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่อง ลุ้นปีนี้จีดีพีโต 3.3-3.5% ส่วนปี 2566 พุ่งแตะ 3.5-4% อ้อนรัฐลุยอัดมาตรการกระตุ้นโค้งสุดท้ายปลายปี

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ต.ค.อยู่ที่ระดับ 46.1 จากเดือน ก.ย.65 อยู่ที่ระดับ 44.6 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และสูงสุดในรอบ 10 เดือน ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวม อยู่ที่ 40.0 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำ อยู่ที่ 43.6 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 54.8

สำหรับปัจจัยบวกได้แก่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19, ครม.เห็นชอบการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ โดยจะมีผลตั้งแต่ 1 ต.ค.2565, การส่งออกเดือน ก.ย.ขยายตัว 7.83% และราคาพืชผลทางการเกษตรปรับตัวสูงขึ้น เป็นต้น ส่วนปัจจัยลบ ได้แก่ ผู้บริโภคยังกังวลว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าที่ยังทรงตัวในระดับสูง, ความกังวลต่อสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัด, ความกังวลสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่อาจส่งผลต่อราคาน้ำมันโลกให้ปรับตัวสูงขึ้น, เงินบาทปรับตัวอ่อนค่า และความกังวลต่อการระบาดของโควิด-19 ที่ยังเกิดขึ้นทั่วประเทศ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี การที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมยังคงเคลื่อนไหวคงอยู่ต่ำกว่าระดับปกติที่ 100 เนื่องจากผู้บริโภคยังคงเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังคงฟื้นตัวช้าจากวิกฤตโควิด-19 อัตราเงินเฟ้อสูง และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในประเทศไทยและทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีปัญหาสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนเข้ามาซ้ำเติม ยิ่งส่งผลกระทบทางจิตวิทยาในเชิงลบอย่างมากต่อกำลังซื้อภายในประเทศ ภาคการท่องเที่ยว ภาคการส่งออก ธุรกิจโดยทั่วไป และการจ้างงานในอนาคต โดยยังคงมีโอกาสบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั้งในปัจจุบันและในอนาคตได้อย่างต่อเนื่องในระยะอันใกล้นี้

 “ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ต.ค.นี้ ถือว่าอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน และปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องทุกรายการ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่มกลับมาเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น โดยมองว่าประเทศไทยกำลังหลุดพ้นจากวิกฤตโควิด-19 และเศรษฐกิจกำลังกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยคาดว่าจีดีพีปีนี้จะขยายตัวได้ที่ 3.3-3.5% ส่วนปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.5-4%” นายธนวรรธน์กล่าว

นายธนวรรธน์กล่าวอีกว่า หากไม่มีเหตุการณ์ใดที่รุนแรงเข้ามาเพิ่มเติมอีก ก็เชื่อว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน พ.ย.และ ธ.ค.2565 จะปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ และหากรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงท้ายปี เช่น ช้อปดีมีคืน, เราเที่ยวด้วยกัน รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยมากขึ้น ตลอดจนมีการจัดโปรโมชั่นของห้างร้านต่างๆ ในช่วงถ่ายทอดฟุตบอลโลก 2022 ก็จะเป็นอีกแรงที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภคในช่วงปลายปีนี้ได้ ซึ่งจะทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะเริ่มดีขึ้นอย่างเด่นชัดในช่วงกลางปี 2566 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวชัดเจนในไตรมาส 2/2566.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง