ปชป.ยก‘กยศ.’อบรม‘ภท.’ปมกัญชา

กัญชายังเดือด! "จุรินทร์"      ลั่นแจงครั้งสุดท้าย เป็นปัญหาอนาคต   บ้านเมืองไม่ใช่ปมการเมือง ยันไม่ใช่กฎหมายรัฐบาล พรรคร่วมมีสิทธิค้าน  "ชินวรณ์" ย้อนคราว "พ.ร.บ.กยศ." ภูมิใจไทยยังเห็นต่างได้ สอนเคารพกระบวนการนิติบัญญัติ พท.ย้ำจุดยืน ไม่ใช้ทางการแพทย์ไม่ให้ผ่านแน่

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาร่างพระราชบัญญติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง (ฉบับที่…) พ.ศ.… ที่มีการกระทบกระทั่งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลว่า  เรื่องนี้โฆษกพรรคพูดไปแล้ว ตนโตเกินกว่าที่จะไปพูดเรื่องเสาไฟฟ้าแล้ว ขออนุญาตที่จะไปพูดเรื่องนี้อีก แต่แน่นอนว่าไม่ต้องห่วง เวลาประชาธิปัตย์ตัดสินใจอะไร ทำอะไร พร้อมตอบคำถามประชาชนอยู่แล้ว ทั้งหมดก็ฟังประชาชนมาว่าเขามีความรู้สึกอย่างไรกับเรื่องกัญชาเสรี แล้วเป็นห่วงบ้านเมือง เป็นห่วงอนาคตขนาดไหน ทั้งหมดนี้เป็นไปเพราะต้องการทำหน้าที่พรรคการเมืองที่จะให้เป็นที่พึ่งของประชาชนได้

 “ประชาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมือง การจะทำอะไร คิดถึงทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ ตอบเฉพาะครั้งนี้ แล้วก็ไปตายเอาดาบหน้า ไม่ใช่พวกเรา เพราะฉะนั้นขอให้มั่นใจว่าถ้าประชาธิปัตย์ตัดสินใจอะไร คำนึงหมดแล้ว คิดทั้งหน้า ทั้งหลัง ทั้งหมด ครบถ้วน แล้วก็เป็นประโยชน์สูงสุดกับบ้านเมืองแน่นอน เพราะเรายังต้องตอบคำถามวันหน้าด้วย ไม่ใช่ตอบเฉพาะที่จะลงมติวันสองวันนี้เท่านั้น ประชาธิปัตย์ยังต้องอยู่อีกนาน” นายจุรินทร์ระบุ

ส่วนที่มีการระบุว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาทางการเมืองนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาอนาคตของบ้านเมืองระยะยาว ไม่ใช่ปัญหาการเมือง ไม่ได้แปลว่าใครตัดสินใจอะไรไม่ตรงกับเราแล้วจะเป็นเรื่องการเมือง ถ้าเป็นอย่างนั้นตนเห็นว่าตื้นเกินไป และปรามาสคนอื่นมากเกินไป คนอื่นก็มีความคิดเป็นของตัวเอง คำนึงถึงประโยชน์บ้านเมืองเหมือนกัน เพราะฉะนั้นตัดสินใจทำอะไรจึงไม่ใช่การเมือง แต่เป็นเรื่องบ้านเมือง เรื่องนี้ตนไม่ประสงค์จะพูดแล้ว เพราะต่อความยาวสาวความยืดไปก็ไม่มีประโยชน์

 “ขอให้อยู่ที่การตัดสินใจ การลงมือทำของพวกเรา แล้วมันจะเป็นเครื่องพิสูจน์ เป็นคำตอบต่อไปอีกยาวนานในอนาคตว่าสิ่งที่เราตัดสินใจ มันถูกต้องหรือไม่ เพื่อประโยชน์บ้านเมืองระยาวจริงหรือไม่ ตรงกับใจประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศขณะนี้เป็นห่วงใช่หรือไม่ มันจะมีคำตอบในตัวของมันเอง ที่เราตัดสินใจนี้ ประโยชน์ส่วนตัวมีหรือไม่ หรือว่าเป็นเรื่องประโยชน์ส่วนรวมแท้ๆ เราห่วงอนาคตบ้านเมืองจริงๆ ใช่หรือไม่ มันมีคำตอบแน่นอน ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องมาบอกเรา เราคิดเป็น เราตัดสินใจเองเป็น แล้วเราคำนึงประโยชน์บ้านเมืองเองเป็น ไม่อย่างนั้นอยู่มาไม่ได้ถึงวันนี้ ตั้ง 76 ปี จะไป 78 79 ปีต่อไป แล้วจะไม่พูดอีกแล้วนะ” นายจุรินทร์กล่าว

ผู้สื่อข่าวยังถามอีกว่า เรื่องนี้จะกลายเป็นปัญหารอยร้าวต่อไปหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เราต้องเคารพจุดยืนทางการเมืองในการทำงานร่วมกัน ไม่ว่าในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล หรือในฐานะสมาชิกรัฐสภาด้วยกัน เราต้องเคารพความเห็นอื่นที่เป็นความเห็นต่าง ไม่ใช่ใครไม่เห็นด้วยกับเรา คิดไม่ตรงกับเราแล้วเรามาใช้อารมณ์กับคนที่เขาไม่เห็นด้วยกับเรา อันนี้นับหนึ่งก็คิดผิดแล้ว หรือนับหนึ่งก็ทำผิดแล้ว ถ้าใช้วิธีนี้ ถ้าเราไม่เคารพกัน บ้านเมืองจะเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร เพราะประชาธิปไตยจะต้องเคารพความเห็นต่าง

ส่วนคำถามที่ถามว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีโอกาสพูดคุยเพื่อปรับความเข้าใจกันหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เป็นไร การตัดสินใจอะไรบนพื้นฐานความถูกต้อง นำไปสู่สิ่งที่ดีงามเสมอ ไม่ว่าจะด้วยวิธีทางการเมืองอย่างไร หรือด้วยวิถีทางไหนอย่างไร ตนมีวุฒิภาวะ ไม่ต้องห่วง ทำงานการเมืองมายาวนาน รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ถูก อะไรคือสิ่งที่ควร อะไรคือประโยชน์ส่วนรวม อะไรคือประโยชน์ส่วนตัว การทำงานร่วมกันอะไรควรทำอย่างไรไม่ต้องห่วง ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลเราก็มีหน้าที่ที่จะต้องทำให้รัฐบาลเดินหน้าต่อไปได้

"พ.ร.บ.กัญชาฯ ไม่ใช่กฎหมายที่ ครม. เสนอ ไม่ใช่กฎหมายรัฐบาล แต่เป็นกฎหมายเฉพาะของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ซึ่งพรรคอื่นก็มีสิทธิ์ที่จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย สำหรับผม หากไม่จำเป็นก็จะไม่พูดแล้ว อธิบายไปตามสมควรแล้ว ก็เป็นหน้าที่สมาชิกพรรค ซึ่งเขามีสิทธิ์พูด มีสิทธิ์ให้ความเห็น ในสภาเขาก็คงต้องพูด ต้องชี้แจง อธิบายเหตุผลว่าทำไมเขาเป็นห่วงบ้านเมือง ทำไมเขาไม่สนับสนุนกัญชาเสรีเพราะอะไร อันนั้นเป็นหน้าที่ ถ้าเขาไม่พูดเขาก็ไม่ทำหน้าที่ แต่สำหรับผม ถ้าจะมาตอบโต้ทางการเมืองนั้น ผมคิดว่าไม่จำเป็นผมจะไม่พูด ยกเว้นว่าถ้ามีประเด็นใหม่ที่มันจำเป็นขึ้นมา ไม่อธิบายเดี๋ยวเข้าใจผิด เข้าใจไขว้เขว อันนั้นก็ค่อยว่ากัน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุ

ด้านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ วาระ 2-3 ในสภาว่า ขณะนี้ยังมีร่าง พ.ร.บ.การเข้าชื่อเสนอท้องถิ่นค้างการพิจารณาอยู่ จากนั้นจะตามด้วยร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางราง และร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ตามระเบียบวาระ โดยเรื่อง พ.ร.บ.กัญชาฯ ทางวิปรัฐบาลได้หารือกันตั้งแต่สัปดาห์แรกแล้วว่าเป็นเรื่องที่ถือหลักเช่นเดียวกับร่าง พ.ร.บ.อื่น คือเมื่อเข้าสู่การพิจารณาวาระ 2-3 จะต้องดำเนินการตามระเบียบวาระ ซึ่งเป็นเรื่องของคณะกรรมาธิการกับสภาว่าจะเป็นอย่างไร

ขอย้ำอีกครั้งว่า ต้องเคารพเอกสิทธิ์ของ ส.ส. เพราะตามรัฐธรรมนูญ ส.ส.มีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นและแปรญัตติได้ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โดยไม่อยู่ในอาณัติของใคร ฉะนั้นการที่จะไปกล่าวหาใครว่าไม่มีมารยาทนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะนี่เป็นเรื่องของกระบวนการนิติบัญญัติที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือตรวจสอบเพื่อให้กฎหมายออกมาดีที่สุด และเรื่องนี้มีกรณีตัวอย่างที่เห็นได้ชัดอยู่แล้วคือเรื่องร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ซึ่งเป็นร่าง ครม. ที่คณะกรรมาธิการฯ ได้พยายามแปรญัตติให้เหลือดอกเบี้ยน้อยที่สุด ปรับโครงสร้างหนี้ แต่พรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วย อยากให้เป็นไปตามนโยบายของพรรคตัวเองคือไม่มีดอกเบี้ย ซึ่งเป็นเรื่องที่เห็นไม่ตรงกัน ตอนนั้นเสียงข้างมากและพรรคภูมิใจไทยก็ชนะไป

"พวกผมก็ไม่ได้กล่าวหาอะไรพรรคภูมิใจไทยเลย แต่วันนี้พอเรื่องกัญชา ก็ไม่แน่ใจว่าทำไมต้องไม่เคารพความเห็นต่างหรือมีการพูดจาก้าวล่วงฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งเราก็จะได้หารือกันในวิปรัฐบาลว่าขอให้ยึดหลักที่เราเคยยึดถือกันมาในการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายนิติบัญญัติต้องรับผิดชอบ เหมือนที่ท่านนายกรัฐมนตรีพูดว่าเป็นเรื่องของสภา ซึ่งผมก็เห็นตรงกับท่านว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของสภา ทุกฝ่ายควรจะให้สภาได้ตรวจสอบกฎหมายให้ดีที่สุด ไม่เช่นนั้นหากไปถึงวุฒิสภาก็จะมีการแก้ไขเนื้อหาสำคัญมาก ก็จะทำให้กฎหมายนั้นมีปัญหา ซึ่งเรื่องนี้ผมก็ไม่กล่าวหาพรรคภูมิใจไทย แต่ผมคิดว่าฝ่ายนิติบัญญัติเราต้องมีความรับผิดชอบด้วยกัน" นายชินวรณ์ระบุ

นายชินวรณ์กล่าวว่า พรรคมีที่มามีรากเหง้าไม่เหมือนกัน มีหลักแนวคิดที่แตกต่างกันระหว่างพรรคที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ เป็นของประชาชน กับพรรคที่มีนายทุนพรรค มีความเป็นเจ้าของแตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงไม่กระทบต่อการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เพราะการทำงานฝ่ายนิติบัญญัติจะต้องเห็นต่างกันแน่นอน

ขณะที่นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า โอกาสที่จะได้พิจารณาร่างกฎหมายกัญชาในสัปดาห์นี้ถือว่ามีโอกาสที่ 50:50 ต้องดูว่าสามารถพิจารณาร่างกฎหมายสองฉบับก่อนหน้าเสร็จทันหรือไม่ ทั้งนี้ ในส่วนของฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย มีจุดยืนชัดเจนว่าหากกัญชาไม่ได้ถูกใช้ในกรอบทางการแพทย์ เราไม่ให้ผ่านอย่างแน่นอน.