ภท.ยํ้าคุมกัญชาได้/ปชป.ซัดเสรีสุดขั้ว

ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทยยังซดเกาเหลากัญชาชามใหญ่   "อนุทิน" ประกาศภารกิจปลดกัญชาออกจากยาเสพติดเรียบร้อยตั้งแต่เดือนกุมภา.  ยันสูบเสพในที่สาธารณะผิดกฎหมาย มีบทลงโทษ ทั้งจำทั้งปรับ ควบคุมได้หมดไม่ต้องกังวล ด้าน "สาทิตย์" ถล่มแหลก! กัญชาเสรีสุดขั้ว กฎกระทรวงเอาไม่อยู่ ขายเกลื่อนถนน เปิดช่องนันทนาการมากกว่าใช้ทางการแพทย์ เพื่อไทยผสมโรง เหล้าเสรีขจัดความยากจน สร้างรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ

 เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงกรณีปัญหาความขัดแย้งระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ.... ว่า "เป็นเรื่องของสภานะจ๊ะ"

ผู้สื่อข่าวพยายามถามอีกว่า แต่เป็นปัญหาระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถามดังกล่าว ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์มีสีหน้ายิ้มแย้มกล่าวทักทายสื่อมวลชน "สวัสดีจ้ะ" อย่างอารมณ์ดี

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ทุกวันนี้ทุกอย่างในการปฏิบัติเพื่อให้เกิดประโยชน์ทางการแพทย์เรามีการควบคุมอย่างเต็มที่อยู่แล้ว และการสูบเสพในที่สาธารณะเป็นสิ่งต้องห้าม ผิดกฎหมาย มีบทลงโทษ ทั้งจำทั้งปรับ ฉะนั้นมีการควบคุมไว้หมดอยู่แล้ว ก็ไม่มีความกังวลใดๆ

"ก็หวังว่าเราฟังพี่น้องประชาชน เราก็ควรจะเร่งผลักดันให้มีกฎหมายกัญชง กัญชา มาเพื่อให้เกิดความเข้าใจกันในวงกว้าง ง่ายต่อผู้ปฏิบัติ แต่ถ้ายังดึงดันกันอยู่แบบนี้ ด้วยเหตุผลอื่นๆ ด้วยเหตุผลทางการเมือง อันนี้ก็ต้องให้พี่น้องประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจว่าใครตั้งใจทำงานให้เขา ใครต้องการทำให้เกิดความเป็นอุปสรรค แต่ว่ามาบล็อกกระทรวงไม่ได้หรอก เพราะว่าภารกิจกระทรวงก็คือปลดกัญชาออกจากยาเสพติด โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. เป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์แล้ว"

ส่วนพรรคภูมิใจไทยยังจะมีการร่วมทางกับพรรคที่ออกมาคัดค้านต่อไปนั้น นายอนุทินชี้แจงว่า ตรงนี้เป็นเรื่องของการเมือง เรื่องนี้เราก็จะร่วมกับคนที่ฟังประชาชน คนที่เห็นประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ตรงนี้มันตอบอะไรแบบตรงไปตรงมาฟันธงไปเลยไม่ได้  เพราะเรื่องนี้อาจเป็นเรื่องของคนบางคน ไม่ได้เป็นเรื่องขาดความเข้าใจ เราก็ไปอธิบายไปชี้แจงแล้ว ถ้าชี้แจงแล้วยังไม่เข้าใจ ยังหาเรื่องอื่นๆ อยู่ อันนั้นค่อยว่ากัน

"ถ้าในเรื่องของความเป็นพรรคการเมือง ผมเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นโยบาย สัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนไว้ก็คือกัญชาเสรีทางการแพทย์ ซึ่งเราได้ปลดกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติดเรียบร้อยแล้ว ภารกิจนโยบายนั้นเรียบร้อยไปแล้ว ส่วนที่ว่าไปรับงานมาคือมีคนอยู่เบื้องหลังหรือเปล่านั้น มันคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากเรื่องของการขัดกันทางการเมือง ซึ่งตรงนี้ผมก็ไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกของพรรคอื่นๆ ได้ เพราะว่าพรรคที่ผมกำกับดูแลอยู่คือพรรคภูมิใจไทย เราไม่เคยคิดเล่นการเมืองโดยเอาประชาชนเป็นตัวประกัน หรือทำให้ประชาชนเกิดความเสียหาย" นายอนุทินกล่าว

กัญชาเสรีสุดขั้ว

ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า แปลกใจกับท่าทีของนายอนุทินมาก แต่ย้ำจุดยืนของพรรคว่ากัญชามีทั้งประโยชน์และโทษมหันต์ที่มีการนำไปใช้นันทนาการ เพราะขณะนี้สถานการณ์กัญชากลายเป็นกัญชาเสรีสุดขั้ว ที่มีการปลดล็อกออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 โดยไม่มีกฎหมายบังคับ จึงขอเรียกร้องให้มีกฎหมายที่ดีรองรับ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น แต่ปัญหาคือกฎหมายที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) จัดทำอยู่ไม่เน้นเรื่องประโยชน์ทางการแพทย์ แต่เปิดช่องให้นำไปใช้นันทนาการ และยังสามารถบิดเบือนไปใช้ในด้านอื่นๆ ได้อีกมาก

"สถานการณ์ขณะนี้คุณอนุทินรู้ดี และต้องยอมรับว่ากัญชาเสรีสุดขั้วไปแล้ว เพราะสามารถซื้อได้ง่าย เราจึงเสนอให้นำกัญชากลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติดดีหรือไม่ ในฐานะ ส.ส. เรามีหน้าที่ทำกฎหมาย และทำหน้าที่แทนประชาชนในการติดตามนโยบาย หากเห็นสิ่งใดไม่ถูกต้องก็ต้องช่วยกันติเตือนเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด"

นายสาทิตย์กล่าวว่า ที่บอกว่ารับงาน รับเงินใครมาล้มกฎหมายกัญชา ก็ต้องบอกว่ารับงานจากประชาชนที่มีลูกหลานติดกัญชา อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่ากฎหมายที่อยู่ในสภาขณะนี้มีโอกาสที่จะมีโอกาสพิจารณาไม่ทันในยุครัฐบาลนี้ หากกฎหมายกัญชาผ่านในสัปดาห์นี้ โดยรัฐธรรมนูญก็ต้องส่งไปให้วุฒิสภาพิจารณา ซึ่งมีเวลาพิจารณาถึง 60 วัน หรือถึงช่วงเดือนธันวาคม กว่าจะกลับมาสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งก็จะตกในช่วงเดือนมกราคม 2566 ถ้าเกิดกรณีที่วุฒิสภาแก้ไข ก็จะต้องตั้งกรรมาธิการร่วม หากไม่ทันอายุสภา มีทางเดียวคือการทำกฎหมายให้ดีที่สุด และปิดสุญญากาศการใช้กัญชา ขอให้นายอนุทินไปถามคนในกระทรวงสาธารณสุขดูว่าที่กำลังหนักใจกับผู้ป่วยจิตเวชที่ติดยาเสพติดมีความรู้สึกอย่างไร เราอย่าทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องการเมืองแล้วทะเลาะกันเลย เมื่อเห็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องตนจึงต้องพูด

นายสาทิตย์กล่าวอีกว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้า นโยบายจะเป็นเรื่องใหญ่ และเป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรคที่จะขับเคลื่อน หากร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ไม่เสร็จ ก็อาจจะนำไปสู่การจัดทำนโยบายที่จะใช้ในการเลือกตั้ง แต่พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่ากัญชาต้องใช้ในทางการแพทย์เท่านั้น เราไม่เห็นด้วยกับกัญชาเสรีสุดขั้ว

ถามถึงกรณีพรรคภูมิใจไทยยืนยันว่าไม่ใช่กัญชาเสรี แต่เป็นกัญชาเพื่อทางการแพทย์นั้น นายสาทิตย์กล่าวว่า เห็นด้วยหากใช้กัญชาเพื่อทางการแพทย์ แต่ขณะนี้ไม่ใช่ เพราะกฎกระทรวงสาธารณสุขคุมไม่อยู่ และตำรวจจับไม่ได้ ขายกัญชากันเกลื่อนเมือง หาซื้อง่ายตามข้างถนนโดยไม่ต้องใช้บัตรประชาชน

ถามว่า นายอนุทินระบุว่าหลังจากการเลือกตั้งครั้งหน้าอาจมีการเปลี่ยนขั้วไม่ขอจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ นายสาทิตย์กล่าวว่า ไกลไปที่จะพูดถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะยังไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร ขณะนี้เอาปัญหาเฉพาะหน้าก่อน มารยาททางการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาลคือการเดินตามแนวทางที่ได้ร่วมตกลงกันไว้ และหากเห็นสิ่งไม่ถูกต้อง เป็นโทษ และไม่เป็นประโยชน์กับประชาชน ก็ต้องติเตือนและต้องฟังกันบ้าง

โวกินรวบพังงา-กระบี่

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย แถลงว่า สิ่งที่นายสาทิตย์พูดเป็นเพราะไม่เข้าใจกฎหมาย พยายามกล่าวหาเรื่องนี้ว่าเป็นความผิดพลาดและบกพร่องของนายอนุทิน ทั้งที่การปลดล็อกจากยาเสพติด ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ทุกคนก็ลงมติปลดล็อกมาตั้งแต่ต้น ต่อมา รมว.สาธารณสุขได้ออกประกาศควบคุม และพรรคภูมิใจไทยยังได้เสนอร่างกฎหมายกัญชาฯ ให้มีการควบคุมที่รัดกุมมากขึ้น  แต่นายสาทิตย์กลับเสนอให้สภาทบทวนเนื้อหาใหม่ โดยยังไม่ทันได้พิจารณารายมาตรา และเชื่อว่านายสาทิตย์ยังไม่ได้อ่านร่างกฎหมายอย่างครบถ้วน

 “ถ้าพูดเรื่องการเลือกตั้ง เราก็พร้อมสู้เต็มที่อยู่แล้ว จ.พังงา เราจะยกจังหวัดอยู่แล้ว จ.กระบี่เราก็จะยกจังหวัดอยู่แล้ว และอาจจะได้เขตนายสาทิตย์เพิ่มมาอีกคน ก็ค่อยว่ากัน แต่วันนี้เป็นนายสาทิตย์เองที่เป็นคนดึงการเมืองเข้ามา” นายศุภชัยกล่าว

ขณะที่พรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์กรณีที่สภามีมติคว่ำร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่…) พ.ศ. … หรือพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ระบุว่า พรรคเพื่อไทยขอเรียนว่า พรรคผิดหวังกับผลโหวต แต่จะเดินหน้าผลักดันนโยบาย "สุราประชาชน" โดยผ่านกฎหมายให้ประชาชนสามารถต้มหรือผลิตสุราในท้องถิ่นเพื่อจำหน่ายได้ ซึ่งแนวนโยบายนี้เคยมีมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทยแล้ว แต่มีการรัฐประหารในปี 2549 พรรคเพื่อไทยจะเดินหน้านโยบายนี้เพื่อหยุดการผูกขาด ปลดปล่อยศักยภาพของชุมชน ธุรกิจเอสเอ็มอี ร้านค้าทั่วประเทศในการสร้างรายได้ ขยายโอกาสนำรายได้เข้าประเทศ โดยมีมาตรฐานความปลอดภัยและการคุ้มครองเยาวชนเฉกเช่นการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในขณะนี้

พรรคเพื่อไทยเชื่อมั่นว่า วาระเร่งด่วนของประเทศคือการขจัดความยากจน  สร้างรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ ด้วยการสร้างโอกาส นโยบายสุราประชาชนจึงเป็นหนึ่งในอีกหลายนโยบายที่พรรคจะเสนอขอการสนับสนุนจากพี่น้องคนไทยผ่านการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ เพื่อเดินหน้า เพื่อไทยแลนด์สไลด์ เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เผยว่า ได้มีการวิเคราะห์กันว่าต่อไปการทำงานในสภาน่าจะมีปัญหา เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นสัญญาณ ปัญหาเรื่องความเป็นเอกภาพของซีกรัฐบาล เพราะหากการประชุมสภาเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน หากรัฐบาลมีเอกภาพเสียงจะไม่ออกมาเช่นนั้น ส่วนซีกฝ่ายค้านไม่ได้มีปัญหา เพียงแต่คิดว่าอาจจะต้องทำหน้าที่หนักขึ้นในช่วงที่เหลือ และจะต้องมีการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้น เพราะช่วงสุดท้ายของสภาในอดีตเท่าที่มีมา รัฐบาลมักจะทำเพื่อการหาเสียง ใช้งบประมาณเพื่อการหาเสียง และการโยกย้ายก็เพื่อวางฐานเสียง รวมทั้งทรัพยากรต่างๆ ของประเทศก็จะถูกนำไปใช้ เพื่อการหาเสียงในมือของผู้ถืออำนาจรัฐ ซึ่งเป็นการพรากประโยชน์ไปจากประชาชน ฝ่ายค้านก็ต้องทำหน้าที่เข้มข้นขึ้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง