ขึงขังปราบโกงให้สิ้นซาก เล็งฟันนักการเมือง5คดี

"บิ๊กตู่" ประกาศปราบโกงให้สิ้นซาก ยันทำงานตลอด 8 ปี ระวังตัวเต็มที่ปฏิบัติตาม กม. ไม่เคยเข้าไปก้าวล่วง  "ประธาน ป.ป.ช." ปัดชี้มูลคดี "เสี่ยเอ๋"  ช่วงใกล้เลือกตั้ง ทำตามพยานหลักฐาน  แย้มสิ้นเดือนนี้จ่อเชือด "บิ๊กเนม" การเมือง 3-5 คดี

ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ  รมว.กลาโหม มอบโล่เกียรติยศให้แก่คณะผู้แทนหน่วยงานภาครัฐที่ได้รับรางวัลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity & Transparency Assessment : ITA) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565

นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมร่วมมือกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อแก้ปัญหาทุจริตที่เป็นวาระของชาติ เพื่อส่งเสริมหน่วยงานรัฐให้มีคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงาน ซึ่งการทำงานของภาครัฐมีคนเกี่ยวข้องมาก จึงไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะตนมีเจตนารมณ์ที่จะแก้ไขปัญหาการทุจริตให้ได้มากที่สุด ไม่ให้มีเหลืออีกเลย ส่วนตัวระมัดระวังตนเองอย่างเต็มที่ที่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว ไม่เข้าไปก้าวล่วง และยืนยันว่าได้ดำเนินการอย่างนี้มาโดยตลอด 8 ปีที่ผ่านมา และหวังว่าพวกเราทุกคนจะช่วยกันทำให้ได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากประชาชนในชาติ ซึ่งขณะนี้มีปัญหาเยอะพอสมควรในเรื่องของความเข้าใจ และ ป.ป.ช.ต้องรักษามาตรฐานในการปฏิบัติงานให้ได้ เพื่อให้เป็นภาพลักษณ์ที่ดี และขอให้ทุกคนรักษาความดีนี้ไว้ ทำต่อไปเรื่อยๆ ชักชวนเพื่อนฝูงพี่น้องให้ทำต่อไป เพื่อให้ประเทศไทยมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ

ทั้งนี้ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล พยายามทำทุกเรื่อง นำมาขับเคลื่อน ยืนยันว่าจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อให้ตอบรับกับกระแสสังคมและความร่วมมือต่างๆ จากภายนอกประเทศ พร้อมขอให้การดำเนินงานทุกอย่างดำเนินไปด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุด เนื่องจากกระบวนการตรวจสอบเยอะมากในปัจจุบัน ตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการใดๆ เลย เพราะเป็นเรื่องคนละอำนาจกันอยู่แล้ว นายกฯ มีหน้าที่บริหารส่วนราชการให้โปร่งใส ให้ดีที่สุดอย่างที่ตั้งใจไว้ การที่ตนเป็นนายกฯ อาจดูยาวนาน แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับตนนิดหนึ่งว่าอยากทำทุกอย่างด้วยเจตนาบริสุทธิ์ ต้องฝากเรื่องเหล่านี้ไว้กับทาง ป.ป.ช.ด้วยว่าจะทำอย่างไรให้เกิดการยอมรับ ให้เป็นกลไกและหน่วยงานองค์การอิสระที่ได้รับความเชื่อมั่นและน่าเชื่อถือ

"ในระดับของผมก็ระวังตัวอย่างที่สุด ในการที่จะเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร และอำนาจบริหารเป็นคนละแท่งกับอำนาจนิติบัญญัติและตุลาการ ผมพร้อมที่จะทำงานให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎระเบียบทุกประการ เพราะนั่นคือชีวิตผมตลอดระยะเวลารับราชการที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นจะพยายามทำอย่างยิ่งยวด ทำให้ทุกหน่วยงานนั้นเป็นหน่วยงานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ มีประสิทธิภาพ ใช้งบประมาณอย่างประหยัด คุ้มค่า ซึ่งเป็นข้อสั่งการของนายกฯ เวลาที่มีการเสนอขออนุมัติโครงการต่างๆ จะเขียนกำกับไว้ตลอด หน่วยปฏิบัติต้องรับไปดำเนินการให้ได้ตามนั้น ไม่เช่นนั้นก็จะถูกกระบวนการทางกฎหมายดำเนินการ" พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ

ด้าน พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ     ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ว่า นายกฯ ได้เน้นย้ำอยากให้ใช้ไอทีเอเป็นเครื่องมือเป็นตัวขับเคลื่อนการบริหารจัดการ ซึ่งการวัดไอทีเอเป็นการตรวจสุขภาพตัวเอง ดังนั้น หน่วยงานจะได้รับรู้ว่าการทำงานของผู้ใต้บังคับบัญชาในหน่วยงาน ประชาชนรู้สึกอย่างไร รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานรู้สึกอย่างไร ที่สำคัญคือเรื่องการเปิดเผยข้อมูลต้องฉับไว ซึ่งประชาชนผู้รับบริการจะได้เป็นหูเป็นตา ช่วยสอดส่องหน่วยงาน เพื่อจะได้ลดปัญหาเรื่องความล่าช้าและความไม่ถูกต้อง

พล.ต.อ.วัชรพลปฏิเสธกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตการชี้มูลนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม แกนนำกลุ่มปากน้ำ ครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ คดีทุจริตการจัดสรรเงินอุดหนุนแก่วัดใน จ.สมุทรปราการ ในช่วงใกล้เลือกตั้งว่า ยืนยันว่าไม่ใช่ โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาไปตามพยานหลักฐานอย่างแท้จริง เพราะผู้วินิจฉัยจะต้องสามารถเปิดเผยและรับผิดชอบในสิ่งที่วินิจฉัย โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไต่สวนมาเป็นเวลานาน ก่อนหน้านี้ได้มีมติให้ไปไต่สวนบางประเด็นให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งเขารวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้นแล้ว โดยเวลานี้มีเรื่องรอเข้าที่ประชุมหลายร้อยเรื่อง ทุกอย่างเป็นไปตามกรอบกฎหมาย  

เมื่อถามว่า การพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง ไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ต้องดูช่วงเวลาหรือไม่ ประธาน ป.ป.ช.กล่าวว่า หัวใจสำคัญคือ ความครบถ้วนในพยานหลักฐานมากกว่า และผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบเสนอขึ้นมา มีกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย เพื่อให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.วินิจฉัย ข้อสำคัญคือ คนที่เป็นเจ้าหน้าที่ เมื่อทำเสร็จอยากให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณา หากเราไปดึงเขาจะมาร้องเรา หาว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.ไม่พิจารณา ระบบถูกตรวจสอบกันเองอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้มีคดีที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองที่จะพิจารณาอีกหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า มีเรื่องสำคัญที่รอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.อยู่ 3- 5 เรื่อง เป็นเรื่องใหญ่ คดีสำคัญ ซึ่งมีไทม์ไลน์เรียบร้อยแล้ว น่าจะเข้าภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้

เมื่อถามย้ำว่า เป็นระดับ ส.ส.หรือรัฐมนตรีใช่หรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า เป็นระดับนักการเมืองสำคัญ เป็นคดีสำคัญ แต่ยังไม่ขอเปิดเผย ทั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นอดีตผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่สำคัญ

เมื่อถามว่า หากเปิดคดีออกมาอีก จะถูกกล่าวหาว่ามีการเมืองเข้ามาเอี่ยวหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า ถูกถามเป็นของธรรมดา เราก็ตอบไป คณะกรรมการ ป.ป.ช.เป็นอย่างนี้ ไปซ้ายก็โดน ก็ไปขวาโดน อยู่เฉยๆ ก็โดน เรายิ่งต้องระวังตัว และต้องทำ ต้องหนักแน่น ทุกอย่างตอบได้.