สภาโหวตควํ่า2รอบ สุราก้าวหน้าแพ้ฉิวเฉียด‘ก้าวไกล’ไม่ท้อดันต่อรัฐบาลหน้า

เดือด! ตั้งแต่เปิดสภาวันแรก โหวตร่าง กม.สุราก้าวหน้า คะแนนเฉียดฉิว ฝ่ายค้านขอนับใหม่ สุดท้ายสภาตีตกไม่เห็นด้วย 196 ต่อ 194 เสียง "พิธา" นำทีม "ก้าวไกล" แถลงไม่ท้อ ลั่นเดินหน้าต่อทำเป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง "ชวน" ขอสภาร่วมมือทำงานสมัยประชุมสุดท้าย "วิปรัฐบาล" เสนอวาระแทรก ทำ กม.กัญชาฯ ของ "ภท." อาจเข้าไม่ทันสัปดาห์หน้า "ปชป." แถลงชัดไม่รับร่าง กม.กัญชาฯ "เสี่ยหนู" โยนนายกฯ แก้ปัญหาพรรคร่วมไม่ทำตามมติวิปฯ

ที่รัฐสภา วันที่ 2 พ.ย. เวลา 09.30 น. มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง เป็นวันแรก โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม    ก่อนเข้าสู่วาระได้เปิดให้สมาชิกหารือถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่             

จากนั้นเข้าสู่วาระการประชุม นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะวิปรัฐบาล ได้เสนอให้สภาเลื่อนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับภาษีอากร พ.ศ.... ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอขึ้นมาพิจารณาเป็นเรื่องด่วนในวันที่ 9 พ.ย. ก่อนหน้าเรื่องที่ กมธ. พิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งที่ประชุมเห็นตามที่เสนอ ส่งผลทำให้ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ..... ซึ่ง กมธ.วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้วของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) อาจจะไม่สามารถนำเข้าสู่ที่ประชุมพิจารณาสภาได้ทันสัปดาห์หน้า

เวลา 11.20 น. ที่ประชุมสภาเข้าสู่การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิต หรือ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเสร็จแล้ว มีทั้งหมด 7 มาตรา โดยเป็นการพิจารณาวาระ 2 เรียงตามมาตรา สำหรับมาตรา 3 ให้ยกเลิกความในมาตรา 153 พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 เพื่อไม่ให้เกิดการกีดกันการแข่งขันผ่านกำลังการผลิต กำลังแรงม้า ทุนจดทะเบียน และจำนวนพนักงาน โดยนายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) อภิปรายว่า เท่าที่ตนรับรู้การผลิตสุราที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งบางครั้งมีการจำหน่ายด้วย มีการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน และผลิตที่บ้าน ใช้กรวยสังกะสีเป็นสนิม บางครั้งชาวบ้านใส่กรัมม็อกโซนเพื่อเร่งเกิดการปฏิกิริยา และส่งกลิ่นเหม็นให้พื้นที่ใกล้เคียง จึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง

ทั้งนี้ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะกมธ. ท้วงว่า เรื่องคุณภาพและสิ่งแวดล้อมไม่ได้ระบุในร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้านี้ก็จริง แต่ก็มีกฎหมายฉบับอื่นควบคุมอยู่แล้ว

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายในมาตรา 3 ว่า ศักยภาพของผู้ประกอบการไทยไม่ว่าจะอยู่จังหวัดไหน ก็เป็นผู้ประกอบการระดับโลกทั้งนั้น ถ้าใช้กฎกระทรวงคุม ผู้ประกอบการไทยก็ไม่ได้รับการปลดล็อกเลย แต่มาตรา 3 ที่ให้ยกเลิกความในมาตรา 153 พ.ร.บ.ภาษีสรรพาสามิต 2560 เพื่อที่จะไม่ให้มีการกีดกันการแข่งขันผ่านกำลังการผลิต กำลังแรงม้า ทุนจดทะเบียน และจำนวนพนักงาน ตรงนี้ต่างหากที่จะเป็นการปลดปล่อยศักยภาพของผู้ประกอบการไทยอย่างแท้จริงที่จะไปในระดับโลก ซึ่งนโยบายสุราก้าวหน้าไม่ใช่แค่ความเท่าเทียบทางการผลิต แต่เป็นนโยบายเศรษฐกิจ การเกษตรในการแปรูปสินค้าการเกษตร และเป็นนโยบายการท่องเที่ยวไปในตัวด้วย

จากนั้น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะกมธ.เสียงข้างมาก อภิปรายว่า การแก้กฎกระทรวงเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ทำอย่างเร่งด่วน มีการประกาศในราชกิจจาฯ ภายในวันเดียว ซึ่งไม่ค่อยปรากฏในกระบวนการที่จะออกกฎกระทรวง หรือออกกฎหมายใดๆ แสดงให้เห็นถึงความเร่งรีบ อาจจะเพื่อให้มีผลกระทบกับกระบวนการพิจารณาในสภาก็เป็นได้

นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า วันนี้เป็นการวัดใจ ส.ส.ว่าจะกดตามต้อยๆ ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งมาหรือไม่ ถ้ากฎหมายฉบับนี้ไม่ผ่าน แสดงว่ายังมี ส.ส.เชื่อฟัง พล.อ.ประยุทธ์อยู่ เรื่องนี้เป็นการวัดใจว่าเราจะยืนข้างทุนผูกขาด หรือยืนข้างประชาชน จึงขอให้ประชาชนไปเช็กชื่อส.ส.ที่โหวตได้เลย เรื่องนี้ไม่ต้องรอรัฐบาลหน้าแล้วค่อยทำ จึงอยากขอให้สมาชิกมายืนข้างประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ ส.ส.อภิปรายมาตรา 3 อย่างเข้มข้นนานร่วม 2 ชั่วโมง ที่ประชุมจึงลงมติเห็นชอบมาตรา 3 ด้วยคะแนน 178 ต่อ 4 งดออกเสียง 175 ไม่ลงคะแนน 3 ขณะที่มาตราอื่น อาทิ มาตรา 3/1 มาตรา 3/2 มาตรา 4 มาตรา 5 ก็มีคะแนนเสียงเห็นชอบมากกว่าไม่เห็นชอบ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่ามีคะแนนงดออกเสียงใกล้เคียงกับคะแนนเห็นด้วย มีผลต่างห่างกันไม่เกิน 10 เสียง ทั้งนี้ หลังจากที่ประชุมพิจารณาครบทั้ง 7 มาตราแล้ว

ตีตก'กม.สุราก้าวหน้า'

กระทั่งเวลา 14.45 น. ที่ประชุมจึงลงมติวาระ 3 ปรากฏว่าที่ประชุมกลับมีมติไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ด้วยคะแนน 177 ต่อ 174 งดออกเสียง 11 ไม่ลงคะแนน 4 โดยคะแนนงดออกเสียงในรายมาตราพลิกกลับมาลงคะแนนไม่เห็นด้วย ทำให้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวไม่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุม

อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่านายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ขอใช้สิทธิตามข้อบังคับการประชุมข้อ 85 กรณีที่มีคะแนนต่างกันไม่เกิน 25 เสียง สามารถนับคะแนนใหม่ โดยการขานชื่อรายบุคคลได้ โดยมีส.ส.ให้การรับรองถูกต้อง แต่นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ คัดค้าน โดยขอให้นับคะแนนใหม่ด้วยการเสียบบัตรลงคะแนนเท่านั้น แต่ฝ่ายค้านยืนยันตามข้อบังคับการประชุมตามข้อ 85 ต้องให้นับคะแนนใหม่โดยการขานชื่อเท่านั้น

ในที่สุด นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ตัดสินให้นับคะแนนใหม่โดยการขานชื่อรายบุคคล แต่ก็ยังเกิดความวุ่นวายตามมา เมื่อฝ่ายค้านเสนอให้นับองค์ประชุมก่อนการขานชื่อรายคน โดยที่ระหว่างนั้นส.ส.เดินเข้าเดินออกห้องประชุม มีทีท่าองค์ประชุมจะไม่ครบ จนนายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล สอบถามว่า ขณะนี้ ส.ส.เดินออกจากห้องประชุม ถ้าองค์ประชุมไม่ครบ หมายความว่าการกลับมาโหวตใหม่ในครั้งหน้าจะต้องใช้วิธีเสียบบัตรลงคะแนนใหม่หรือไม่ ซึ่งนายสุชาติชี้แจงทันทีว่า สภาค้างคาเรื่องใดไว้ก็ต้องกลับมาดำเนินการต่อ ไม่สามารถยกเลิกเรื่องใดได้ สุดท้ายเมื่อนับองค์ประชุมเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่ามีองค์ประชุม 257 เสียง ครบองค์ประชุม

เวลา 15.09 น. ที่ประชุมได้เริ่มการลงคะแนนด้วยการขานชื่อเป็นรายบุคคล โดย ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.), พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ส่วนใหญ่ลงมติไม่เห็นด้วย และยังมี ส.ส.หลายคนที่ไม่มีการขานลงมติเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีบางส่วนที่งดออกเสียง อย่างไรก็ตาม มี ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลบางคนที่โหวตเห็นด้วย เช่น นายอิสรพงษ์ มากอำไพ ส.ส.ชุมพร พรรค ปชป., นายวิวรรธน์ นิลวัชรมณี ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรค ปชป., นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป., นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรค ปชป., นายบัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง พรรค ปชป., นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนากล้า, นายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.), นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ศท., นายพรชัย อินทร์สุข ส.ส.พิจิตร พรรค พปชร. เป็นต้น

ขณะที่ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน เช่น พรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ต่างลงมติเห็นด้วยไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อขานชื่อลงคะแนนเรียบร้อยแล้ว ส.ส.จำนวนมากประมาณ 30 คนที่มาโหวตลงคะแนนไม่ทัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็น ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ได้แย่งกันขานชื่อ จนเกิดความชุลมุนวุ่นวายไปหมด ส.ส.บางคนขานชื่อตัวเองถึง 3 รอบ ทำให้นายสุชาติที่ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมต้องบอกให้สมาชิกใจเย็นๆ เพราะเกรงว่ากรรมการที่ทำหน้าที่นับคะแนนจะจดผลคะแนนไม่ทัน และอาจจะทำให้เกิดความคลาดเคลื่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกรรมการใช้เวลารวมคะแนนนานกว่า 1 ชั่วโมง ทำให้นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. พรรค พท. ลุกขึ้นถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมใช้เวลานับคะแนนนานจนผิดสังเกตขนาดนี้ ทั้งที่มีคนนับถึง 6 คน นายสุชาติจึงชี้แจงว่า ไม่ใช่หน้าที่ของประธาน ต้องถามกรรมการที่ได้รับมอบหมาย แต่สุดท้ายการนับคะแนนก็ยังหาข้อยุติไม่ได้ จนนายสุชาติได้สอบถามกรรมการนับคะแนนว่านับคะแนนเสร็จเรียบร้อยหรือไม่ เพราะมีสมาชิกกระวนกระวายใจ และย้ำว่าอยากให้ทำให้ละเอียดจะได้ไม่มีปัญหา

ทั้งนี้ ระหว่างรอคะแนน นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. ได้แจ้งว่าทางพรรคได้ย้อนดูเทปในช่วงการขานชื่อลงคะแนน พบมีสมาชิกหมาย 225 และหมายเลข 255 โหวต 2 ครั้ง ทำให้นางสุเนตตา แซ่โก๊ะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย ลุกขึ้นใช้สิทธิพาดพิงว่า หมายเลขของตนคือ 255 แต่นายธีรัจชัยแย้งว่า ผู้ที่ขานหมายเลข 255 เป็นผู้ชาย โดยนายสุชาติยืนยันว่าอำนาจการนับคะแนนอยู่ที่กรรมการที่ตั้งขึ้น ทำให้ น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป. หนึ่งในกรรมการนับคะแนน แจ้งว่าขอให้วางใจการทำหน้าที่นับคะแนน เพราะกรรมการประกอบด้วยฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล จึงจะทำหน้าที่ด้วยความรอบคอบ แต่นายธีรัจชัยยังคงข้องใจการลงคะแนนของหมายเลย 225 และหมายเลข 255 ทำให้นายสุชาติชี้แจงว่า ถ้ามีใครมีหลักฐานว่าขานชื่อซ้ำโดยทุจริต ก็ไม่ต่างจากการกดบัตรแทนกัน มีสิทธิที่จะไปฟ้องต่อได้

กระทั่งเวลา 17.15 น. ภายหลังการนับคะแนนเรียบร้อยแล้ว นายสุชาติได้ประกาศผลการลงมติ ปรากฏว่าที่ประชุมยังคงโหวตไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ด้วยคะแนน 196 ต่อ 194 งดออกเสียง 15 ถือว่าที่ประชุมไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต

ก้าวไกลไม่ท้อเดินหน้าต่อ

ต่อมาเวลา 17.30 น. พรรคก้าวไกล นำโดยนายพิธา แถลงข่าวหลังสภามีมติคว่ำร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต ฉบับที่.. พ.ศ.… หรือ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า

นายพิธากล่าวว่า ส่วนตัวมีกำลังใจดีไม่เสียใจเลย เพราะเราเดินทางมาได้ไกลขนาดนี้ ส.ส.พรรคก้าวไกลก็ควรที่จะภูมิใจกับผลงานของเขา และควรที่จะยิ้มสู้อยู่ คนที่ร้องไห้ได้คนเดียวคือนายเท่าพิภพ ก็คงจะต้องใช้โอกาสนี้ในการขอบคุณเพื่อน ส.ส. และขอบคุณประชาชนที่คอยให้การสนับสนุนร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้ามาโดยตลอด

"แม้วันนี้เราจะยังไม่สามารถปลดล็อกความเหลื่อมล้ำ แต่ผมเชื่อว่ายังสามารถปักหมุดได้ในระดับหนึ่ง ในการเป็นจุดยืนของพรรคก้าวไกลตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ ถ้าครั้งนี้ ส.ส.ยังไม่สามารถโหวตและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ในรัฐสภา ก็เหมือนกับเป็นการปิดประตูไปบานหนึ่ง และเราต้องเปิดประตูบานใหม่ คือการเลือกตั้งที่จะถึง แน่นอนว่านโยบายสุราก้าวหน้าจะเป็นนโยบายที่เป็นเรือธงของพรรคก้าวไกล ซึ่งหากประชาชนชอบนโยบายนี้ ก็ขอให้เลือกพรรคที่สนับสนุนเรื่องเกี่ยวกับ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า และการทลายกลุ่มทุนผูกขาด และในที่สุดก็จะไปปรับปรุงเค้าโครงด้านเศรษฐกิจใหม่ เพื่อที่จะให้ผู้ประกอบการไทยและเกษตรกรไทยไปสู่เวทีโลกได้ ฉะนั้นขอยืนยันว่าเราเสียดาย แต่ไม่เสียใจ ยังเข้มเเข็งและพร้อมที่จะทำงานต่อเพื่อประชาชนให้มากขึ้น" นายพิธากล่าว

ส่วนนายเท่าพิภพกล่าวว่า แม้จะเป็นตัวเลขเพียง 2 คะแนน แต่ก็ไม่ใช่ข้ออ้างแพ้ก็คือแพ้ แต่การแพ้แบบนี้มันคือความเจ็บปวด ก็อยากจะรับไว้เอง ยิ่งใกล้มันยิ่งเจ็บ ฉะนั้นก็ไม่เป็นไร ขอเศร้าแค่ไม่เกินครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวจะกลับไปทบทวนตัวเองว่าเราได้ทำอะไรไม่เต็มที่ และจะพยายามร่างกฎกระทรวงที่เป็นของพรรคก้าวไกล ที่เราอยากเห็นว่ากฎกระทรวงควรจะเป็นอย่างไร

"ผมยอมรับว่าเสียเหลี่ยมทางการเมืองผู้เฒ่าในทำเนียบฯ ถ้าเรามีกฎกระทรวงที่อยากให้แก้ตั้งแต่แรก เขาก็คงไม่ออกกฎกระทรวงเช่นนี้มา ฉะนั้นผมจะร่างเตรียมไว้เลย และจะเริ่มแคมเปญตั้งแต่เสร็จ และวันนั้นทุกคนก็จะได้รู้ว่าทำไมต้องเลือกก้าวไกล ซึ่งทางการเลือกตั้งครั้งหน้าก้าวไกลเป็นรัฐบาล เราก็แก้ได้ภายใน 2-3 วัน ผมจึงมีความหวังว่าสุดท้ายก็ต้องไปทางนั้นแล้ว" นายเท่าพิภพกล่าว

อย่างไรก็ตาม ก่อนการประชุมสภาในช่วงเช้า นายพิธาพร้อมสมาชิกพรรคก้าวไกลรับหนังสือจาก 3 องค์กรที่ร่วมสนับสนุน พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ได้แก่ กลุ่มประชาชนเบียร์, สมาคมคราฟต์เบียร์ และสมาคมสุราชุมชนไทย โดยนายพิธากล่าวว่า ความแตกต่างของพ.ร.บ.สุราก้าวหน้ากับกฎกระทรวง คือ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าเน้นการปลดล็อก ลดการเอาเปรียบของผู้ผลิตเจ้าใหญ่ แต่กฎกระทรวงกลับเป็นการเปลี่ยนล็อกหนึ่งมาไว้ล็อกหนึ่ง ซึ่งประกาศก่อนที่ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าจะเข้าสภาในวาระ 2 เพียงหนึ่งวันเท่านั้น คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากเป็นเรื่องการเมืองที่ต้องการคว่ำร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า 

ด้าน น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงการประกาศกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ.2565 ว่า มีประโยชน์กับประชาชน 9 ประการ 1.กฎกระทรวงบังคับใช้ได้ทันเหตุการณ์ ทันที เหมาะกับบริบทของธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิตสุราที่เปลี่ยนไป 2.สอดคล้องกับสภาพการณ์ในเชิงธุรกิจและการขออนุญาตจะทำได้ง่ายขึ้น 3.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจให้มากขึ้น เกิดความเท่าเทียมในการเข้าสู่ตลาด ไม่กีดกันทางการค้า 4.สุราได้คุณภาพมาตรฐานและเกิดการแข่งขันด้านกลไกตลาดที่เป็นธรรม 5.คุ้มครองสุขภาพของผู้บริโภคให้ปลอดภัยได้มากกว่า 6.ดูแลสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการผลิต ด้วยมีกฎหมายควบคุมไว้แล้ว 7.รักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นและส่งเสริมอาชีพให้ชุมชน 8.จัดเก็บภาษีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เพิ่มรายได้เข้ารัฐที่จะส่งต่อให้สังคม และ 9.อุดช่องโหว่เรื่องไม่ควบคุมการผลิตสุรา ที่มิใช่เพื่อการค้า

"เมื่อได้พิจารณาศึกษาบทบัญญัติในกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ.2565 และคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนที่จะได้จากการปลดล็อกการผลิตสุรา จะกระจายรายได้ให้ผู้ประกอบการรายย่อย และสร้างประเทศที่ไม่ผูกขาด และผู้บริโภคก็ยังปลอดภัย" รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว

ปชป.-ภท.เดือดกม.กัญชา

วันเดียวกัน ที่รัฐสภา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำโดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง แถลงถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ..... ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.)พิจารณาเสร็จแล้วว่า เป็นที่น่าเสียใจที่คณะ กมธ.ไม่ได้แก้ไขตามที่มีข้อเสนอแม้แต่ข้อเดียว โดยพรรค ปชป.เสนอ 13 ข้อ พรรคเพื่อไทยเสนอ 5 ข้อ และจากแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศูนย์ศึกษาปัญหายาเสพติดที่เสนอให้ทบทวนเป็นรายมาตรา อย่างไรก็ตาม ภายหลังที่มีการถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกไป ทราบว่าทางคณะ กมธ. ได้เรียกประชุม 2-3 ครั้งเท่านั้น และมีสมาชิกพยายามทักท้วงให้หยิบข้อเสนอต่างๆ ขึ้นมาพิจารณา แต่ก็มี กมธ.ไม่สนใจรับฟังข้อเสนอ หรือแม้แต่จะหยิบยกข้อกังวลที่สังคมเป็นห่วงขึ้นมาพิจารณา

"เมื่อกรรมาธิการไม่แก้ไขเลย ก็จะเกิดการอภิปรายมากมาย หากยืนยันโดยเสียงข้างมากก็ดี ด้วย กมธ.ก็ดี คิดว่าก็จะเกิดความโกลาหล เพราะกฎหมายจะออกมาโดยขาดความรอบคอบโดยสิ้นเชิง และจำเป็นที่ประชาธิปัตย์จะต้องพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของประชาชน โดยการลงมติไม่รับกฎหมายดังกล่าว” นายสาทิตย์กล่าว 

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีพรรค ปชป.ประกาศไม่เอาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ว่าเมื่อวันที่ 1 พ.ย. วิปรัฐบาลมีมติออกมาแล้ว ในที่ประชุม ครม.รับทราบมติวิปรัฐบาลแล้ว เชื่อว่าหัวหน้ารัฐบาลคงจะมีแนวทางอีกครั้ง แต่ในส่วนของพรรค ภท.จะปฏิบัติตามมติวิปฯ แน่นอน 

"เมื่อมติวิปฯ ออกมาแล้วไม่ปฏิบัติตาม จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ต่อไปคงไม่ต้องประชุมวิปฯ ใครจะเสนออะไร ใครจะถูกอภิปรายหรือลงมติอย่างไร คงต้องไปนั่งลุ้นกันว่าผลจะเป็นอย่างไร ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อบ้านเมือง ไม่เป็นผลดีต่อสปิริตของพรรคร่วม" นายอนุทินกล่าว

ถามว่าจะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่าง ภท.กับ ปชป.หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ความสัมพันธ์กับพรรคเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ ไม่ต้องคุยกับนายจุรินทร์ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของรัฐบาล ไม่ใช่เป็นเรื่องระหว่างพรรค ถ้ามีปัญหาเรื่องการร่วมรัฐบาลหรือปัญหาของพรรคร่วมเรื่องของมติ นายกฯ ก็คงต้องลงมาแก้ปัญหา มันเกินขอบข่ายหน้าที่และอำนาจที่มีของพรรคร่วมรัฐบาลไปแล้ว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการสัมภาษณ์นายอนุทินอยู่นั้น นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ได้พูดขึ้นว่า “พรรคที่อายุเยอะควรจะมีมารยาทมากขึ้น พรรคเก่าแก่แต่กลับไม่มีมารยาท”.  

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

งัดกม.กดดันนายกฯ พปชร.อ้างข้อบังคับพรรค ทวงใบกรอกประวัติ‘ป๊อด’

"อุ๊งอิ๊ง" ยังเล่นบทเตมีย์ใบ้ "หมอมิ้ง" ขึงขังไม่ขีดเส้นตายรายชื่อ รมต. แต่ถ้าไม่ส่งก็ถือว่าไม่ส่ง พลิ้วไม่รู้หนังสือ