"รองโฆษกรัฐบาล" แจงยิบคนต่างด้าวศักยภาพสูง 4 ประเภท ถึงซื้อที่ดิน 1 ไร่ได้ ผิดเงื่อนไขต้องขายคืนทันที ย้อนแสบ "บิ๊กตู่" นายกฯ กอบกู้ชาติ จาก "นายกฯ ขายชาติ" ที่หนีคดีไปนอก "สิระ" ค้านมติ ครม. จ่อยื่นผู้ตรวจการฯ สอบขัด รธน.หรือไม่ จี้ปลดทีมเศรษฐกิจ พท.หวั่นต่างชาติใช้สิทธิอำนาจนอกอาณาเขต ลามกระทบการเมือง-ทหาร ซ้ำรอยประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติร่างกฎกระทรวงมหาดไทยปลดล็อกให้คนต่างด้าวซื้อบ้านและที่ดินไม่เกิน 1 ไร่ว่า มีเงื่อนไขที่สำคัญคือต้องเป็นคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูง 4 ประเภทที่ได้รับวีซ่าพำนักระยะยาว หรือ LTR Visa” เท่านั้น คือ 1.กลุ่มประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง คือมีทรัพย์สินอย่างน้อย 1 ล้านเหรียญสหรัฐ, มีรายได้ส่วนบุคคลขั้นต่ำ 80,000 เหรียญสหรัฐต่อปีในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และมีการลงทุนในไทยอย่างน้อย 500,000 เหรียญสหรัฐ 2.กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ คือ มีอายุ 50 ปีขึ้นไปที่รับเงินบำนาญและมีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 เหรียญสหรัฐต่อปี หรือมีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 40,000 เหรียญสหรัฐต่อปี และมีการลงทุนในไทยอย่างน้อย 250,000 เหรียญสหรัฐ
3.กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทยคือ มีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 เหรียญสหรัฐต่อปีในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หรือมีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 40,000 เหรียญสหรัฐต่อปี และจบการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไป หรือครอบครองทรัพย์สินทางปัญญา หรือได้รับเงินทุน Series A ในธุรกิจไม่น้อยกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำงานในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือบริษัทที่มีรายได้ไม่น้อยกว่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายใน 3 ปีที่ผ่านมา และมีประสบการณ์ทำงานไม่น้อยกว่า 5 ปี และ 4.กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ คือ มีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 เหรียญสหรัฐต่อปีในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีสัญญาจ้างทำงานมีทักษะเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเป้าหมาย และมีประสบการณ์ทำงานไม่น้อยกว่า 5 ปี ทั้งนี้ กลุ่มต่างด้าวทั้ง 4 กลุ่มต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง และมีกรมธรรม์ประกันสุขภาพคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในประเทศ ไทยไม่น้อยกว่า 50,000 เหรียญสหรัฐ
รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ดังนั้นจากหลักเกณฑ์เข้มงวด ที่ต้องเป็น LTR Visa ก่อนมีที่ดิน จึงมีการลดเงื่อนไขระยะเวลาการลงทุนลงจาก 5 ปีเหลือ 3 ปี เพื่อจูงใจบุคคลที่มีศักยภาพสูง 4 ประเภทนี้มาลงทุน จึงไม่ได้ลดเพื่อให้คนต่างด้าวซื้อที่ดินได้ง่ายขึ้น แต่กลับคัดกรองคนคุณภาพเข้าสู่ประเทศไทย พร้อมกับเงินลงทุน 40 ล้านบาท และหากผิดเงื่อนไขในรายละเอียดที่กำหนดจะต้องมีการขายคืนที่ดิน ทั้งนี้ กลุ่มบุคคลนี้จะนำเม็ดเงินเข้าประเทศและเกิดการใช้จ่ายภายในประเทศที่มากขึ้นและเพิ่มการกระจายรายได้เป็นผลดีต่อผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวข้อง สร้างรายได้ต่อเนื่องให้คนไทยในทุกกิจกรรมที่กลุ่มนี้พำนักอยู่ มีศักยภาพถ่ายทอดองค์ความรู้ให้คนไทย จะส่งผลให้เกิดการลงทุนมากขึ้นและเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยแถลงว่าเนื้อหาของกฎกระทรวงปี 2545 มีเนื้อหาที่เข้มงวดและกำหนดเงื่อนไขที่คนต่างด้าวซื้อที่ดินได้ยากกว่านั้น ไม่เป็นความจริง เพราะกฎกระทรวงปี 2545 อนุญาตให้คนต่างด้าวทุกคนที่มีเงิน 40 ล้านบาทก็ซื้อที่ดินได้แล้ว แต่ร่างกฎกระทรวงปี 2565 ใหม่นี้ อนุญาตให้เฉพาะคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูง 4 ประเภทที่ได้รับวีซ่าพำนักระยะยาว หรือ LTR Visa เท่านั้น รัฐบาลยังถามความเห็นไปหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ยังได้ยืนยันวิเคราะห์ว่า หลักการในร่างกฎกระทรวงปี 2565 ไม่ส่งผลต่อเสถียรภาพระบบเศรษฐกิจการเงิน นอกจากนี้ที่ดินที่อนุญาตให้ซื้อเป็นที่ดินมีพื้นที่กำหนดชัดเจน ทั้งนี้ ลักษณะการกระตุ้นและจูงใจต่างชาติเข้าลงทุนแบบนี้ ในต่างประเทศก็มีเช่นกัน ซึ่งสิทธิประโยชน์แต่ละที่ก็แตกต่างกันไป ซึ่งหลายประเทศก็จูงใจนักลงทุนสามารถขอถือสิทธิ์การพำนักอาศัยถาวร จนเป็นสิทธิพลเมืองนั้นได้
บิ๊กตู่กู้ชาติจากนายกฯ ขายชาติ
น.ส.ทิพานันกล่าวว่า สิ่งที่สังคมสงสัยคือ กฎกระทรวงนี้มีมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลเพื่อไทย และที่พรรคเพื่อไทยอ้างว่ากฎกระทรวงปี 2545 ออกเพราะผลกระทบจากวิกฤตต้มยำกุ้งและการชำระหนี้ไอเอ็มเอฟนั้น แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ทำไมไม่เคยให้ความสำคัญปรับปรุงแก้ไขกฎกระทรวงฯ เรื่องถือครองที่ดินในช่วงระหว่างปี 2545-2560 เลยทั้งที่ในช่วงนั้นพรรคเพื่อไทยก็มีโอกาสได้เป็นรัฐบาล แต่วันนี้กลับมาบอกว่าถ้าได้เป็นรัฐบาลจะแก้ได้ดีกว่านี้ แต่สิ่งที่ประชาชนเห็นในช่วงนั้นคือ พรรคเพื่อไทยมีพฤติกรรมหมกมุ่นให้ความสำคัญแต่กับการแก้ไข พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอย เสียมากกว่า ในทางตรงกันข้ามกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ได้พิจารณาและปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบให้ทันสมัยและเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศอย่างรัดกุมและเพื่อประโยชน์ของประชาชนคนไทยทั้งประเทศเสมอ และยังเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 77 ที่บัญญัติให้ รัฐยกเลิกหรือปรับปรุงกฎหมายที่หมดความจําเป็นหรือไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์ หรือที่เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตหรือการประกอบอาชีพโดยไม่ชักช้าเพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ประชาชน
"ขอให้ประชาชนทุกคนเชื่อมั่นได้ เพราะรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติเสมอมา ไม่เคยมีนโยบายขายชาติ ไม่เคยมีการเอื้อประโยชน์ให้ต่างชาติเพื่อผลประโยชน์ใดๆ รัฐบาลนี้มีแต่ทำประโยชน์ให้คนไทย พัฒนาหารายได้และฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาวะวิกฤต พร้อมมุ่งจัดสรรที่ดินและคืนสิทธิที่ดินทำกินให้กับพี่น้องเกษตรกร และยังเดินหน้าสร้างโครงการที่อยู่อาศัยให้กับพี่น้องประชาชนทุกกลุ่มอย่างเสมอภาคโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง อยากให้พรรคเพื่อไทยทำความเข้าใจเสียใหม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์คือนายกฯ ที่กอบกู้ชาติมาจากนายกฯ ขายชาติ อันมีพฤติการณ์ เช่น ฮั้วต่างชาติโกงโครงการรับจำนำข้าวจนชาวนาไทยเสียชีวิตและทรัพย์สิน โกงบ้านเอื้ออาทรจนประชาชนไม่มีที่อยู่ อนุมัติเอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้เมียนมาโดยมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าต้นทุน ตรงนี้ต่างหากคือนิยามของนายกฯ ขายชาติ" รองโฆษกกประจำสำนักนายกฯ ระบุ
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องเข้าใจก่อนว่าเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต หมายความว่าต้องอยู่ภายใต้สนธิสัญญากฎหมายระหว่างประเทศ ทำให้เกิดเสียสิทธิสภาพอาณาเขต ส่วนการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว พ.ศ.2545 สมัยรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร ไม่เกี่ยวกับการออกตามเงื่อนไขในไอเอ็มเอฟคนละเรื่อง หลักเกณฑ์ร่างกฎกระทรวงใหม่ แม้ลดเงื่อนไขเวลา แต่ความเข้มข้นมากกว่าเดิม เพียงแต่กระทรวงมหาดไทยนำของเก่ามาปัดฝุ่นใหม่ หากไทยจะเสียดินแดน สิทธิสภาพอาณาเขต หรือเข้าข่ายกฎหมายขายชาติ ในปี 2545 จะออกกฎกระทรวงดังกล่าวเพื่ออะไร และในช่วง นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช เป็น รมว.การคลังในปี 2551 ทำไมไม่ยกเลิกกฎกระทรวงดังกล่าว หากว่าไม่เป็นประโยชน์ ที่ว่าการลงทุนที่ไม่ก่อให้เกิดการลงทุนในธุรกิจที่แท้จริง ซึ่งนโยบายนี้ออกในรัฐบาลนายทักษิณ ถามว่าทำไมไม่ยกเลิก ในขณะเป็นรัฐบาลช่วงเวลา 2545-2549 และรัฐบาลสมัคร และรัฐบาลสมชาย 2551-2552 และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 2554-2557
ด้านนายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า อยากฝากถึง พล.อ.ประยุทธ์ ทบทวนมติ ครม.ให้รอบคอบมากกว่านี้ และอยากให้ฟังความเห็นจากประชาชนก่อน ไม่ใช่มัดมือชก เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับประเทศชาติ ซึ่งไม่ยุติธรรมกับแผ่นดินไทย ตนจะคัดค้านให้ถึงที่สุด จะไปยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้ตรวจสอบมติ ครม.ดังกล่าวขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่ และขอให้นำเรื่องเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณามีผลดีผลเสียอย่างไร และอยากให้ประชาชนออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว จะได้รวบรวมข้อมูลความคิดเห็น เพื่อส่งให้นายกฯ ต่อไป
"อยากถามว่า ในวันหาเสียง พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นปราศรัยให้คำมั่นสัญญาว่า แผ่นดินนี้ให้ผมเกิด ให้ผมกินอยู่ ให้ผมหลับนอน ให้ผมมีอาชีพ ผมต้องรักษาแผ่นดินนี้ไว้ให้กับลูกหลานในอนาคต ท่านยังจำคำพูดตัวเองได้หรือไม่ แล้วทำไมมติ ครม.ถึงทำสวนทางกับสิ่งที่พูดไว้ หรือความจำเสื่อมไปหมดแล้ว ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ทีมเศรษฐกิจเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาล้มเหลว ผิดพลาด ควรจะพิจารณาตัวเองลาออกไปได้แล้ว อย่าอยู่ขวางคนอื่นที่เขามีความรู้ความสามารถเข้ามาทำงานแทนดีกว่า" นายสิระระบุ
พท.หวั่นลามการเมือง-ทหาร
ขณะที่นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีต รมว.การคลัง และคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากเราให้ต่างชาติสามารถซื้อที่ดินด้วยเงื่อนไขง่ายๆ ถูกๆ อาจถูกคนชาติใหญ่ๆ เอาเงินที่ใหญ่กว่า มาซื้อได้ง่ายๆ แล้วเก็บไว้ให้ขึ้นราคาสร้างกำไร ที่ดินและบ้านจะมีราคาแพงขึ้นมาก คนไทยแม้มีการศึกษาแล้ว จะไม่มีบ้านอยู่ คือจะยากจนลง นอกจากนี้กรณีที่มีคนจากประเทศใหญ่ๆ บางเชื้อชาติ มาถือครองที่ดินรวมกันในบางพื้นที่มากๆ อาจมีการกำหนดอาณาเขตของคนต่างชาติ ที่ห้ามคนไทยเข้า และเราอาจมีปัญหาการเมือง การทหาร กับรัฐบาลของชาตินั้นๆ ได้ เพราะรัฐบาลต่างชาติของบางประเทศดูค่อนข้างแรง จะเข้าแทรกแซงใช้สิทธิสภาพนอกอาณาเขต เช่น กรณีที่เกิดกับจีนในอดีต ที่ห้ามคนจีนและสุนัข เข้าไปในเขตเช่าเซี่ยงไฮ้ ปัจจุบันปัญหานี้ก็เกิดในลาว เมียนมา และกัมพูชาบ้างแล้ว
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า การอ้างว่าเป็นการแลกกับการลงทุนในไทยขั้นต่ำ 40 ล้านบาทนั้น ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นการลงทุนในลักษณะของ Foreign Direct Investment ที่เงินทุนมาพร้อมกับเทคโนโลยี พร้อมการจ้างงาน เพราะไม่ได้คัดเลือกต่างชาติที่มีความรู้หรือมีทักษะ แต่เลือกต่างชาติที่ฐานะร่ำรวยเป็นสำคัญ และการเปิดเสรีในขณะที่การพัฒนาประเทศยังไม่คืบหน้า กำลังซื้อส่วนใหญ่ยังอยู่ในมืออภิมหาเศรษฐีติดอันดับโลกเพียงหยิบมือนั้น เป็นมาตรการเพื่ออุ้มเอื้อประโยชน์ให้แก่อภิมหาเศรษฐีโดยตรง ซึ่งหลายคนอาจเป็นนายทุนของบางพรรค ดังนั้น นโยบายปิดท้ายนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจึงเป็นเสมือนการเอาสมบัติคุณทวดมาเลหลังขายถูก และเป็นการตัดโอกาสคนรุ่นใหม่ที่จะสร้างครอบครัวในอนาคต โครงการในลักษณะนี้ ไม่ควรแซนด์บ็อกซ์ 5 ปี แค่คิดเพียง 1 วัน ก็ผิดเสียแล้ว
นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า การให้คนต่างด้าวถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้มีมาตั้งแต่ปี 2497 ต่อมามีการแก้ไขประมวลกฎหมายที่ดินในปี 2542 และได้ออกกฎกระทรวงเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขต่างๆ ในปี 2545 ปัจจุบันคนต่างด้าวจึงถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือซื้อที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยไม่เกิน 1 ไร่ ได้อยู่แล้ว หากรัฐบาลปัจจุบันที่ต้องการจะแก้ไขกฎกระทรวงที่มีอยู่แล้ว และต้องเป็นไปตามที่มาตรา 96 ทวิ กำหนดไว้ ถูกประณามว่าเป็นการขายชาติ รัฐบาลที่ประกาศใช้ประมวลกฎหมายที่ดินในปี 2497 รัฐบาลที่แก้ไขประมวลกฎหมายที่ดินโดยการเพิ่มมาตรา 96 ทวิ ในปี2542 และรัฐบาลที่ออกกฎกระทรวงในปี 2545 ไม่ต้องถูกประณามว่าเป็นการขายชาติยิ่งกว่ารัฐบาลปัจจุบันหรือ กลุ่มคนที่ออกมาด่ารัฐบาลขายชาติ ควรต้องศึกษาหาความรู้บ้างว่าเรื่องนี้มีความเป็นมาอย่างไร ถ้าไม่รู้อยู่เฉยๆ ก็ได้ จะได้ไม่มีใครรู้ว่าพูดโดยไม่รู้เรื่องอะไรเลย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บิ๊กต่อแจงบ้านลอนดอน รมว.ดีอีดีดรับพ่อนายกฯ
ป.ป.ช.เปิดขุมทรัพย์ “บิ๊กต่อ” หลังพ้นเก้าอี้ ผบ.ตร. ทรัพย์สิน 209 ล้าน
ภท.เฮรอดคดียุบพรรค! อิ๊งค์ขอเริ่มทำงาน2ม.ค.
“ภท.” เฮ รอดยุบพรรค กกต.ยุติสอบ “วันนอร์” ไม่หวั่นถูกเลื่อยขาเก้าอี้
ธปท.จับตาแจกเงินเฟส2-3
“คลัง” ฟุ้งเศรษฐกิจไทยเดือน พ.ย.โตต่อเนื่อง อานิสงส์ส่งออก-ท่องเที่ยวหนุนเต็มพิกัด
ชวนบี้แก้ปมท้องถิ่นชิงลาออก
“แสวง” ลงพื้นที่ปราจีนบุรี ส่องรับสมัครนายก อบจ.วันสุดท้าย
จี้สอบ6ข้อป่วยทิพย หวั่น‘สมศักดิ์’แทรกแซง/‘แม้ว’ถก‘อันวาร์’เรื่องอาเซียน!
"บิ๊กป้อม" เลี่ยงเผชิญหน้า "ทักษิณ" ยกเลิกร่วมงานอวยพรครบรอบ 75 ปี
ฉายาสภาเหลี่ยม(จน)ชิน
ถึงคิวสื่อสภา ตั้งฉายา สส. "เหลี่ยม (จน) ชิน" จากการพลิกขั้วรัฐบาลเขี่ย