‘เพื่อไทย’โวไม่จับมือใคร ปชป.ปัดขัดแย้งไตรรงค์

“บิ๊กป้อม” ยังกั๊กปมฮั้วเพื่อไทยตั้งรัฐบาล  “ธนกร” ประกาศหนุน “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯ อีก 2 ปี ด้าน เด็ก พท.อ้างแค่ข่าวลือจับมือ พปชร. ฟุ้งถ้าตั้ง รบ.พรรคเดียวได้ไม่จำเป็นต้องร่วมกับใคร “นิพนธ์” แจง “ไตรรงค์” ทิ้งประชาธิปัตย์ไร้ขัดแย้ง ลั่น ปชป.ไม่รีบประกาศจับมือใครผูกมัดตัวเอง

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปฏิเสธที่จะตอบถึงกระแสข่าว ร.อ.ธรรมนัส  พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย จะกลับมาอยู่กับ พปชร. โดยมีเงื่อนไขพรรคต้องไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ซึ่งเงื่อนไขดังกล่าวตรงกับเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยในการจับมือตั้งรัฐบาลในครั้งหน้า

เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงความชัดเจนที่  พล.อ.ประยุทธ์จะสมัครเป็นสมาชิกพรรค พล.อ.ประวิตรตอบว่ายังไม่เลือกตั้งเลย เมื่อถามถึงกรณีที่ให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่เหมือนไม่ปิดประตูจับมือกับพรรคเพื่อไทย ในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งหน้า พล.อ.ประวิตรตอบเพียงว่ายังไม่เลือกตั้ง 

นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร.กล่าวว่า ยืนยันว่าวันนี้ ส.ส.พปชร.รวมทั้งตนยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ให้เป็นนายกฯ อีกสมัยในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อดูแลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังเหลือเวลาอีกพอสมควร เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์เองคงจะยังไม่ตัดสินใจอะไรเร็วๆ นี้ เพราะเวลานี้ พล.อ.ประยุทธ์ขอโฟกัสที่การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของคนไทยก่อน  โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วม วันนี้อย่าเพิ่งพูดถึงประเด็นการเมือง จะเห็นได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะไม่ตอบคำถามที่เกี่ยวกับประเด็นการเมืองเลย

นายธนกรระบุว่า เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเชื่อว่าจะมีความชัดเจนในเรื่องนี้อย่างแน่นอน และตนมั่นใจว่าเรื่องวาระ 2 ปีนั้นไร้ปัญหา พปชร.ภายใต้การนำของ พล.อ.ประวิตรสามารถวางยุทธศาสตร์เพื่อหาเสียงสู้เลือกตั้งสมัยหน้าได้อย่างแน่นอน ซึ่งตนเชื่อว่าถ้า พล.อ.ประยุทธ์ไปต่ออีก 2 ปี เพื่อให้ทุกอย่างที่ทำมาเพื่อประเทศชาติและประชาชนมีความยั่งยืนจะเป็นประโยชน์มาก เพราะหลังจากนั้นใครจะมาเป็นนายกฯ ต่อก็ไม่ใช่ปัญหาแล้ว ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเป็นระบบหมดแล้ว

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย  กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยจะจับมือกับ พปชร.แล้วสนับสนุนให้ พล.อ.ประวิตรเป็นนายกฯ ว่า มันเป็นแค่กระแสข่าว พรรคเพื่อไทยไม่คิดจับมือใครทั้งนั้น พรรคเพื่อไทยจะจับมือกับประชาชนทำงานมากขึ้น เสนอแนวนโยบายที่ทำงานให้ประชาชน เพื่อเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของประชาชน ผลการเลือกตั้งหากประชาชนไว้วางใจเราเป็นจำนวนมาก สามารถตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ ก็ไม่จำเป็นต้องจับมือใคร ขอให้รอฟังคำตอบจากประชาชนว่าจะมอบอำนาจให้เราบริหารประเทศหรือไม่เท่านั้น

เมื่อถามถึงกรณีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม  ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค พปชร.ระบุ พปชร.จะเดินหน้าตั้งรัฐบาลได้ นายสมคิดกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของ พปชร. สิ่งที่นายสมศักดิ์พูดนั้นไม่สามารถเป็นไปได้ เนื่องจาก 8 ปีที่ผ่านมาประชาชนได้รับบทเรียนแสนสาหัสจากรัฐบาลชุดนี้แล้ว สุดท้ายแล้วคำตอบของประชาชนจะอยู่ในคูหาเลือกตั้ง

วันเดียวกัน น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยหลังจากที่นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ในช่วงที่พรรคไทยรักไทยจนถึงเพื่อไทยเป็นรัฐบาล มีการใช้นโยบายเลือกปฏิบัติ รวมถึงพาดพิงเหตุการณ์ที่ตากใบ กรือเซะ ว่าที่ผ่านมานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกมากล่าวแสดงความเสียใจและขอโทษพี่น้องชาวมุสลิมแล้ว แม้ไม่ได้สั่งการแต่ในตอนนั้นเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ได้ขอโทษพี่น้องชาวมุสลิมอย่างจริงใจ ถือว่าเป็นการผิดพลาดในเรื่องของการลำเลียงผู้ต้องหา ซึ่งต้องแยกกันระหว่างการกำกับนโยบายและการปฏิบัติ ส่วนเรื่องการชดเชยญาติผู้สูญเสียนั้น นายทักษิณเห็นว่าควรได้รับการเยียวยา ขณะนั้น พล.อ.ประวิตรเป็นผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงซึ่งต้องเยียวยาครอบครัวของผู้เสียชีวิต

ขณะที่นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี  อดีตรองหัวหน้าพรรคและอดีต ส.ส.หลายสมัย ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ปชป.ว่า ต้องเคารพการตัดสินใจ  เพราะก่อนหน้านี้ท่านเคยบอกกับตนว่าจะไม่ลาออก แต่เมื่อตัดสินใจเช่นนี้ต้องเคารพกัน แต่ขอยืนยันว่าไม่ได้มีความขัดแย้งใดๆ กับพรรค เพียงแต่นายไตรรงค์เคยบอกว่ามีผู้ใหญ่ในรัฐบาลทาบทามให้ไปเป็นที่ปรึกษา จึงเกรงใจว่ายังอยู่กับ ปชป.ตอนนั้นจึงรับตำแหน่งได้อย่างไม่เป็นทางการ จึงคิดว่าอาจจะทำได้ไม่เต็มที่ ส่วนกรณีที่นายไตรรงค์ระบุในเฟซบุ๊กเสมือนน้อยใจนั้น ยืนยันว่าไม่มีอะไร  โดยเฉพาะกับตนยังมีความใกล้ชิด และเมื่อวันที่ 27 ต.ค.นายไตรรงค์ยังมาร่วมงานศพมารดาของตนที่ จ.สงขลา ก็คุยกันมาตลอด

รองหัวหน้าพรรค ปชป.ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยประกาศว่าพร้อมจะร่วมรัฐบาลกับทุกพรรค แต่ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ว่า เรื่องทางการเมืองต้องคุยกันเรื่องใหญ่ โดยพรรคเพื่อไทยต้องตอบคำถามมากกว่านั้น ว่าใครเป็นแกนนำ ใครเป็นพรรคร่วม ทางการเมืองเป็นเรื่องไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับคนรวบรวมเสียงข้างมาก เพราะครั้งที่แล้วพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เงื่อนไขทางการเมืองจะมาบอกตอนนี้ไม่ได้เพราะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ต้องดูสถานการณ์ ณ เวทีที่พูดคุยกันว่าสถานการณ์การเมืองเป็นอย่างไร ต้องรู้ก่อนว่ามีกำลังคนอยู่เท่าไหร่ หากพูดตอนนี้ก็เหมือนไม่เคารพการตัดสินใจของประชาชน ปชป.ไม่ผูกมัดอะไรกับใครล่วงหน้า ไม่เช่นนั้นจะเหมือนกับฮั้ว ไม่แข่งกันเป็นบางเขต เหมือนกับหลอกลวงชาวบ้าน

แหล่งข่าวใกล้ชิดนายไตรรงค์เปิดเผยว่า นายไตรรงค์ได้ปิดโทรศัพท์และเดินทางไปพักผ่อนที่ภาคเหนือ เพื่อใช้เวลาตัดสินใจระยะหนึ่ง เนื่องจากมีหลายพรรคการเมืองได้ทาบทามให้ไปร่วมงานทางการเมืองด้วย โดยเฉพาะอดีต  ส.ส.ปชป.ที่ย้ายไปยังกัดพรรคอื่น

ด้านนายจุรินทร์ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองอื่นในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ว่า สำหรับ ปชป.ยุคนี้ ตนพูดชัดเจนว่าเรารอคำตอบจากประชาชนก่อน เพราะประชาชนควรเป็นคนแรกที่ให้คำตอบ ว่าเขาต้องการให้ใครเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล และให้เสียงพรรคการเมืองแต่ละพรรคมามากน้อยแค่ไหนอย่างไร เพื่อที่จะนำไปสู่การนับหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาลในระบบรัฐสภา  นั่นคือใครรวมเสียงข้างมากได้ คนนั้นเป็นรัฐบาล คนที่มีเสียงข้างน้อย หรือซีกเสียงข้างน้อยต้องทำหน้าที่ฝ่ายค้านในการตรวจสอบรัฐบาล เพราะฉะนั้น ปชป.คงไม่ไปตอบก่อนที่ประชาชนจะตอบ

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง  (กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีศาลรัฐธรรมนูญให้ประธาน กกต.ชี้แจงเพิ่มเติมร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งว่า ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงเวลา 15 วัน กกต.จะเร่งชี้แจงไปยังศาลรัฐธรรมนูญโดยเร็วภายในเวลาที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนด แต่ในส่วนของการเตรียมความพร้อมการเลือกตั้ง กกต.เตรียมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตอนนี้รอศาลรัฐธรรมนูญว่าจะวินิจฉัยกฎหมาย 2 ฉบับออกมาอย่างไร

เมื่อวันศุกร์ ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) แทนตำแหน่งที่ว่าง จำนวน 2  ฉบับ โดยเป็นประกาศแต่งตั้ง พล.อ.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล  เป็นสมาชิกวุฒิสภาแทน พล.ร.อ.ชุมนุม อาจวงษ์ สมาชิกวุฒิสภาที่ถึงแก่อนิจกรรม และอีกฉบับเป็นประกาศแต่งตั้งผู้นำเหล่าทัพเป็นสมาชิกวุฒิสภา แทนผู้นำเหล่าทัพที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากเกษียณอายุราชการ ประกอบด้วย  พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้  ตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป โดยมีนายพรเพชร  วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

ทั้งนี้ สมาชิกวุฒิสภาที่ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งใหม่ทั้ง 5 รายจะเข้ารายงานตัวเป็นสมาชิกวุฒิสภาต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ในวันอังคารที่ 1 พ.ย.65 เวลา  08.00 น.