‘นายกฯ-สธ.’ชม ‘โตโน่’ว่ายหาทุน เพื่อโรงพยาบาล

“บิ๊กตู่” ชื่นชม “โตโน่” ยอมเสียสละอดทนทำดีเพื่อสังคม “โฆษก สธ.” ยกนิ้วถือเป็นพลังศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ ชี้ต่างประเทศก็มีกิจกรรมประเภทนี้ แจงไม่เกี่ยวกับไร้งบหรือโรงพยาบาลบริหารไม่ดี  แต่การบริจาคทำประโยชน์มากขึ้น

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม  นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความชื่นชมนายภาคิน คำวิลัยศักดิ์ หรือโตโน่ นักร้องและนักแสดงที่สามารถบรรลุภารกิจว่ายน้ำข้ามลำน้ำโขง ระดมเงินจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้โรงพยาบาลนครพนมและโรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว ภายใต้ชื่อกิจกรรม One Man And The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้

"ขอแสดงความยินดีและชื่นชม ที่ช่วยกันทำความดีให้สังคม ยอมเสียสละ อดทน ฝึกฝน ด้วยความเข้มแข็ง และด้วยจิตใจอันมุ่งมั่น จนสามารถปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จตามที่มุ่งหวังไว้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า กระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหาร และบุคลากรทุกท่าน ขอขอบพระคุณเจตนาดีของคุณโตโน่-ภาคิน ที่สามารถบรรลุภารกิจว่ายน้ำข้ามลำน้ำโขง ระดมเงินจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้โรงพยาบาลนครพนม ประเทศไทย และโรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว ซึ่งถือว่าเป็นการตั้งใจทำความดีเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนคนไทย และประเทศเพื่อนบ้าน ถือเป็นพลังศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ น่ายกย่อง ชมเชย การบริจาคให้โรงพยาบาลเป็นเรื่องที่ดีมาก ทั่วโลกนานาประเทศ ผู้มีจิตศรัทธาก็บริจาค เช่น ทีมฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ก็ทำการกุศลมอบเงินให้โรงพยาบาลต่างๆ แต่ไม่ได้แปลว่าโรงพยาบาลบริหารไม่ดีหรือขาดแคลนงบประมาณ การบริจาคทำให้ทำประโยชน์ได้มากขึ้น

นพ.รุ่งเรืองกล่าวว่า สำหรับงบประมาณ สธ.ประจำปี 2565 เราได้รับจัดสรรอยู่ 154,354,873,600 บาท ในปี 2566 อยู่ที่ 156,408,661,200 บาท ถือว่าเพียงพอต่อการดำเนินงานอย่างเหมาะสม แต่เราไม่ปิดกั้นความต้องการช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยเฉพาะที่มาจากความปรารถนาอันแรงกล้าของประชาชน ซึ่งส่วนที่ได้รับจากคุณโตโน่ในนามคนไทย ขอให้เป็นไปตามความประสงค์ของคุณโตโน่ ซึ่งกระทรวงขอเรียนยืนยันว่าจะใช้งบที่ได้รับจากทุกภาคส่วนอย่างคุ้มค่า เพื่อบริการพี่น้องประชาชนอย่างดีที่สุด

นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 8 กล่าวว่า สธ.ไทยและ สปป.ลาวมีการลงนามว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุขตั้งแต่ปี 2559 ใน 14 ประเด็น และมีการจับคู่จังหวัดชายแดนของไทยกับ สปป.ลาว โดย จ.นครพนมเป็นจังหวัดคู่ขนานกับแขวงคำม่วน โดยในปีงบประมาณ 2565 มีความร่วมมือดำเนินงานสาธารณสุขชายแดนหลายเรื่อง สธ.จึงจัดสรรงบประมาณให้กับสถานบริการในนครพนมอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการให้บริการ รวมถึงการพัฒนาเป็นศูนย์กลางบริการสุขภาพลุ่มน้ำโขง (R8-Medical Hub) และระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประตูสู่อินโดจีน

    นพ.ปราโมทย์กล่าวต่อว่า ในปีงบประมาณ 2565 จ.นครพนมได้รับการจัดสรรงบลงทุนเพื่อพัฒนาศักยภาพการให้บริการทางการแพทย์ 137 ล้านบาท และปีงบประมาณ 2566 อีก 138 ล้านบาท เฉพาะโรงพยาบาลนครพนม ปีงบ 2565 ได้รับจัดสรร 4,730,000 บาท เพื่อใช้พัฒนาเตียงผ่าตัดด้านศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์ และกระดูกสันหลังชนิดเอกซเรย์ผ่านได้, กล้องส่องตรวจทางเดินหายใจ ชนิดโค้งงอได้ ชนิดวีดิทัศน์ พร้อมอุปกรณ์แสดงผลที่จอภาพ เพื่อช่วยในการตรวจทางเดินหายใจและใส่ท่อช่วยหายใจ และเตียงผู้ป่วยสำหรับไอซียูปรับด้วยไฟฟ้าชนิด 4 มอเตอร์ รวมถึงได้รับการจัดสรรงบค่าเสื่อมครุภัณฑ์อีก 9.83 ล้านบาท ส่วนปีงบ 2566 ได้รับ 1,500,000 บาท เป็นเครื่องตรวจกล้ามเนื้อด้วยคลื่นไฟฟ้า (EMG) และงบค่าเสื่อมครุภัณฑ์อีก 9.3 ล้านบาท และยังมีครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่อยู่ระหว่างรอพิจารณาอนุมัติอีกหลายรายการ ขณะที่สถานการณ์เงินบำรุงของ รพ.ในปี 2565 มีความมั่นคงทางการเงินในระดับปกติ เงินบำรุงคงเหลือหลังหักหนี้แล้วอยู่ที่ราว 11.28 ล้านบาท

“การจัดกิจกรรมระดมทุนของบุคคลหรือองค์กรต่างๆ ถือเป็นความตั้งใจดีที่ต้องการทำความดีช่วยเหลือสังคมผ่านการสนับสนุนให้กับโรงพยาบาล ซึ่งเงินบริจาคส่วนนี้จะถูกนำมาสมทบกับงบประมาณที่โรงพยาบาลได้รับจัดสรร เพื่อใช้จัดหาครุภัณฑ์ทางการแพทย์ตามความประสงค์ของผู้บริจาคและตามแผนการพัฒนาระบบบริการของโรงพยาบาลต่อไป” นพ.ปราโมทย์ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

งัดกม.กดดันนายกฯ พปชร.อ้างข้อบังคับพรรค ทวงใบกรอกประวัติ‘ป๊อด’

"อุ๊งอิ๊ง" ยังเล่นบทเตมีย์ใบ้ "หมอมิ้ง" ขึงขังไม่ขีดเส้นตายรายชื่อ รมต. แต่ถ้าไม่ส่งก็ถือว่าไม่ส่ง พลิ้วไม่รู้หนังสือ