งดการเมืองลุยงาน ‘บิ๊กตู่’รอเวลาปรับครม. ยุบ‘ทธ.’พีระวิทย์พ้นส.ส.

"บิ๊กตู่" งดจ้อสื่อประเด็นการเมือง บอก "ทศพร" ที่ปรึกษานายกฯลาออกก็คือออก "โฆษก รบ." ปัดนายกฯลดบทบาทตัวเอง แจงแค่ขอโฟกัสงานแก้ปัญหาให้ ปชช. "พปชร." วุ่น! จ่อชง  "บิ๊กป้อม" งัดไม้แข็งหยุดดูแล ส.ส.เตรียมตีจากพรรค "จุรินทร์" ลั่นไม่กดดันปรับ ครม. เข้าใจนายกฯ ต้องใช้เวลา  มั่นใจ ปชป.กวาด ส.ส.ใต้เกิน 22 ที่นั่ง  "ศาล รธน." เผยส่งคำวินิจฉัยฉบับเต็มคดี 8 ปีนายกฯ ให้ สลค.ประกาศราชกิจจาฯ แล้ว พร้อมเห็นชอบยุบพรรคไทรักธรรม​

ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 19 ต.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ตอบคำถามสื่อมวลชนสั้นๆ ระหว่างเดินกลับไปยังห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้า หลังเสร็จสิ้นเป็นประธานการประชุมตามวาระงาน ถึงกรณีนายทศพร ศิริสัมพันธ์ ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการอิสระและประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการ (บอร์ด) ปตท. เพื่อขอลาออกจากตำแหน่งในบอร์ด ปตท.ทั้งหมดว่า เขาลาออกก็คือลาออก

เมื่อถามว่า ไม่เกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถามดังกล่าว ก่อนเดินกลับไปยังห้องทำงานทันที

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข่าวนายทศพรลาออกว่า นายกฯ ระบุประเด็นเรื่องการลาออกไม่มีเหตุผลอะไรที่จะนำไปเชื่อมโยงทางการเมือง เพราะการลาออกเป็นเหตุผลส่วนตัวของนายทศพร เวลานี้นายกฯ และรัฐบาลมุ่งเน้นทำงานตามกรอบของนโยบายเพื่อมุ่งเป้าหมายช่วยเหลือประชาชนเป็นหลัก อย่าไปพุ่งเป้าความขัดแย้งหรือกระแสในสังคมที่จะทำให้เกิดความขัดแย้ง โดยเฉพาะเวลานี้รัฐบาลต้องเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปก จึงอยากให้ทุกคนเตรียมพร้อมกับการที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้มากกว่า

ถามว่า มีเสียงวิจารณ์ว่าอาจถูกบีบให้ลาออก น.ส.ทิพานันกล่าวว่า สาเหตุของการลาออกน่าจะเป็นเหตุผลส่วนตัว ไม่ได้เกิดมาจากความขัดแย้งตามที่มีการคาดเดาต่างๆ

ขณะที่นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ปรับบทบาทการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน โดยเฉพาะในเรื่องของประเด็นการเมืองว่า นายกฯ มีความต้องการมุ่งเน้นในเรื่องของการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนเป็นหลัก โดยเฉพาะในเรื่องของสถานการณ์น้ำท่วม ที่มีประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบ นายกฯ ก็จะใช้วิธีการที่จะกำชับหน่วยงานและสั่งการ โดยมอบหมายให้ทางสำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและทีมงานของโฆษกฯ ประชาสัมพันธ์เผยแพร่

"เรื่องทางการเมืองนั้นยืนยันว่าทุกอย่างมีเสถียรภาพ รวมทั้งเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องของการบริหารจัดการภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และเรื่องต่างๆ พล.อ.ประยุทธ์ต้องการให้เป็นเรื่องในส่วนที่เกี่ยวข้องในส่วนของพรรคเป็นผู้ที่ชี้แจง สำหรับเรื่องการปรับ ครม.นั้น นายกรัฐมนตรีก็ได้พูดแล้วว่าช่วงนี้ท่านยังไม่ได้พิจารณา แต่ในอนาคตก็คงต้องว่ากันอีกที แต่ขณะนี้ขอทำการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วม หรือจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่จังหวัดหนองบัวลำภู นายกฯ ต้องการที่จะฟื้นฟูและเยียวยาครอบครัวและญาติที่ได้รับผลกระทบอย่างดีที่สุดโดยไม่มีเรื่องอื่นเข้ามาแทรก จึงต้องการทำเรื่องเหล่านี้ให้เสร็จสิ้นก่อน" นายอนุชากล่าว

บิ๊กตู่โฟกัสงานงดจ้อสื่อ

ถามว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องการที่จะลดบทบาทตัวเองในทางการเมืองลงใช่หรือไม่ นายอนุชา ปฏิเสธทันทีว่า ไม่ใช่ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการที่จะโฟกัสในเรื่องการแก้ปัญหาของประชาชนก่อน และสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน ทั้งปัญหาน้ำท่วมและปัญหากระทบจิตใจ ซึ่งไม่ใช่แค่เฉพาะจังหวัดหนองบัวลำภูเพียงจังหวัดเดียว ยังมีส่วนอื่นๆ รวมทั้งปัญหาเกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งมีหลายส่วนที่รัฐบาลยังต้องดำเนินการและมีมาตรการต่างๆ ออกมา ซึ่งจะเห็นได้ว่านายกฯ ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ เพื่อกำกับดูแลเพื่อแก้ไขปัญหา

ซักว่า ดูเหมือนนายกฯ จะตั้งธงที่จะไม่พูดหรือให้สัมภาษณ์กับสื่อตั้งแต่กลับเข้ามารับตำแหน่ง หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาในเรื่องการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายอนุชากล่าวว่า ในข้อเท็จจริงไม่ถึงขนาดนั้น แต่เป็นด้วยเหตุการณ์และสถานการณ์มากกว่าที่เกิดขึ้นหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์เริ่มกลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ นายกฯ ก็จะมีประเด็นและสิ่งต่างๆ ที่จะต้องให้นายกฯต้องแก้ไข ซึ่งเป็นเรื่องของจังหวะเวลาของการทำงานมากกว่า ซึ่งก็เป็นความต้องการของนายกฯ ในการที่จะแก้ไขปัญหา อีกทั้งช่วงนี้เป็นช่วงที่ปิดสมัยการประชุมสภาด้วย ก็อาจจะทำให้ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายและสิ่งต่างๆ ลดน้อยลงไป

พอถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่เคยบอกใช่หรือไม่ว่าจะวางมือทางการเมือง รักษาการโฆษกรัฐบาลหัวเราะ ไม่ตอบคำถามดังกล่าว

นายอนุชากล่าวถึงแนวคิดการปรับประชุม ครม.สัญจร หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายว่า นายกฯ ยังไม่ได้พูดถึง ตอนนี้เน้นการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการประชุมเอเปกในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตือนใน 120 วัน ซึ่งจริงๆ แล้วการประชุมเอเปกจะเริ่มวันที่ 14 พ.ย. ไม่ใช่เริ่มวันที่ 18 พ.ย.ที่ผู้นำเขตเศรษฐกิจจะเริ่มทยอยมา การประชุมระดับเจ้าหน้าที่ระดับสูงเริ่มก่อน  จึงต้องมีการเตรียมความพร้อมทุกส่วนและทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง

ถามว่า นายกฯ ห่วงการชุมนุมต่างๆที่จะมาแสดงศักยภาพในช่วงที่ผู้นำหลายประเทศมาไทยหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ตอนนี้เราพยายามให้ทุกคนทราบถึงความสำคัญในการประชุมนี้ ไม่ว่าจะมีทัศนคติทางด้านการเมืองในรูปแบบไหน การเป็นเจ้าภาพประเทศไทยได้ประโยชน์ ไม่ใช่กลุ่มการเมืองใดได้ประโยชน์ ถือว่าคนไทยเราร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดี และดูแลเรื่องสิ่งต่างๆ ที่อาจจะไม่เหมาะสม ในช่วงระยะเวลาการประชุมในทางกลับกัน ต้องทำให้เกิดความประทับใจ ทำให้ทุกๆ ชาติที่มีโอกาสมาประชุม และกลับไปพูดต่อๆ ได้ในสิ่งที่ดี

ด้านพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีรายงานความเคลื่อนไหวภายใน พปชร. ต่อกระแสข่าว ส.ส.หลายคนเตรียมจะย้ายออกจากพรรคเพื่อไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กับพรรคการเมืองอื่นในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง โดยแกนนำพรรคบางคนเตรียมที่จะหารือนอกรอบกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. เพื่อเสนอให้หยุดการดูแล ส.ส.เหล่านี้ โดยเฉพาะ ส.ส.บางคนที่ไปเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการหรือไปร่วมกิจกรรมกับพรรคการเมืองอื่นมาสักระยะหนึ่งแล้ว รวมถึงคนที่ชัดเจนว่าจะย้ายออกจากพรรคแน่นอน โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่มี ส.ส.ของ พปชร.หลายคนไปร่วมงานวันคล้ายวันเกิดของนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งบางคนมีข่าวนานแล้วว่าจะย้ายไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และบางคนเพิ่งจะเปิดตัวในวันดังกล่าว

"ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตรดูแล ส.ส.พปชร.เพื่อสนับสนุนการทำพื้นที่มาโดยตลอดโดยไม่น้อยหน้าพรรคอื่น และยังดูแลอยู่เหมือนเดิม แม้บางคนมีข่าวจะย้ายออกมาจากพรรคก็ตาม ซึ่งแกนนำ พปชร.บางส่วนเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ขณะนี้ ส.ส.เหล่านี้ได้รับการดูแลสองทาง ทั้งจาก พปชร.และพรรคที่จะย้ายไปอยู่ ดังนั้นในเมื่อชัดเจนว่าจะไม่อยู่กับ พปชร.แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องดูแลอีกต่อไป และควรหันมาให้ความสำคัญกับคนที่ยังอยู่กับพรรคแทน" แหล่งข่าวระบุ

ปชป.ไม่กดดันปรับ ครม.

มีรายงานว่า สำหรับในพื้นที่ที่ ส.ส.ของ พปชร.จะย้ายออกไปนั้น ขณะนี้มีคนมาแสดงความประสงค์จะขอลงสมัคร ส.ส.ในนาม พปชร.แทนแล้วจำนวนมาก เพราะมองว่าแม้กระแสจะไม่ดี แต่ พปชร.เป็นพรรคขนาดใหญ่ มีทรัพยากรพร้อมที่จะสู้กับพรรคการเมืองขนาดใหญ่ด้วยกัน และมีโอกาสชนะมากกว่าลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กับพรรคขนาดเล็ก อีกทั้งในบางจังหวัดแม้ต้องเสีย ส.ส.ไป แต่นักการเมืองท้องถิ่นที่เป็นกลไกสำคัญทำให้ชนะเลือกตั้งในการเลือกตั้งปี 62 ยังอยู่กับพรรค สามารถสนับสนุนผู้สมัคร ส.ส.คนใหม่ได้

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับ ครม.ของพรรคว่า ได้คุยกับนายกฯ ไปแล้วก่อนหน้านี้ หลังจากนี้เป็นดุลพินิจของนายกฯ ที่จะพิจารณาว่าจะดำเนินการเมื่อไหร่ อย่างไร ตนให้เกียรตินายกฯ ไม่ไปคาดคั้น เพราะถือว่าภารกิจของพรรค ปชป.เสร็จสิ้นแล้ว ขอให้ทุกคนให้เวลานายกฯ ใช้ดุลพินิจ เราเคยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เข้าใจดีว่าต้องดูอะไรบ้าง ขอให้ทุกคนให้เกียรติและให้เวลากับนายกฯ

นายจุรินทร์กล่าวว่า ขณะนี้พรรคได้จัดเตรียมผู้สมัคร ส.ส.ไว้ครบหมดแล้ว และจะทยอยเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาคร นครศรีธรรมราช พัทลุง นครราชสีมา ซึ่งในพื้นที่ภาคใต้มั่นใจ และเคยพูดไว้หลายครั้งแล้วว่าต้องเกินกว่าที่เคยได้ 22 ที่นั่งแน่นอน และกล้ายืนยันว่าพรรค ปชป.เป็นพรรคหนึ่งที่เสนอเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะเป็นสถาบันการเมือง ทำงานโดยยึดประโยชน์ส่วนรวมและประชาชนเป็นหลัก ไม่ยึดผลประโยชน์ส่วนตัว และยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพร้อมสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์มากขึ้น โดยไม่แตะหมวดหนึ่งหมวดสอง

"ยืนยันพรรค ปชป.ไม่เอาด้วยกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เพราะไม่มีประเทศไหนที่ไม่มีบทคุ้มครองประมุขของประเทศ" หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าว

เช่นเดียวกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ยืนยันเรื่องที่มีการเสนอแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 นั้น พรรค ภท.เป็นพรรคการเมืองที่ก่อตั้งขึ้นมาโดยมีอุดมการณ์ทางการเมืองปกป้องสถาบันสำคัญของชาติเป็นข้อแรก เป็นหัวใจในการทำงานของพรรค และเป็นอุดมการณ์ที่สมาชิกพรรคทุกคนยึดถือเป็นหลักในการทำงานรับใช้ประชาชน

"พรรคไม่มีนโยบาย ไม่มีความคิดเรื่องแก้ไข ม.112 และไม่เข้าใจว่าคนที่เสนอแก้ไข ม.112 เดือดร้อนอะไรกับกฎหมายอาญา ม.112 ถ้าเราไม่คิดทำผิดกฎหมาย ทำไมต้องกลัวรับโทษทางกฎหมาย ผมเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้สึกว่ากฎหมายอาญา ม.112 เป็นปัญหาอุปสรรคในการดำเนินชีวิต ใช้ชีวิตประจำวัน จะมีก็แต่กลุ่มคนที่คิดจะท้าทาย คิดจะทำผิดกฎหมาย แต่ก็กลัวโทษตามกฎหมาย จึงมาเรียกร้องให้แก้กฎหมาย ให้สิ่งที่ตนจะทำเป็นสิ่งไม่ผิดกฎหมาย ไม่ต้องรับโทษ มีกฎหมายอีกหลายฉบับที่ควรจะแก้ไข เพื่อแก้ปัญหาปากท้องประชาชน ควรจะไปแก้ไขกฎหมายเหล่านั้นก่อน" นายอนุทินกล่าว

ถามว่าแนวทางดังกล่าว แสดงว่าพรรคภูมิใจไทยจะไม่จัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลที่เสนอแก้ไข ม.112 หัวหน้าพรรค ภท.กล่าวว่า ไม่มีทางอย่างแน่นอน ไม่ใช่เฉพาะพรรคก้าวไกล แต่พรรค ภท.จะไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคการเมืองที่มีนโยบาย มีแนวคิดแก้ไข ม.112 รวมอยู่ด้วย เพราะมีอุดมการณ์ขัดแย้งกันจนไม่สามารถทำงานร่วมกันได้

คำวินิจฉัย 8 ปีเสร็จแล้ว

วันเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญออกเอกสารชี้แจงกรณีสื่อมวลชนได้เสนอข่าวการเผยแพร่ความเห็นส่วนตนของตุลาการ ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัยที่ 14/2565 ลงวันที่ 30 ก.ย.2565 เรื่อง ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสอง ประกอบมาตรา 158 วรรคสี่ หรือไม่นั้น ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 75 ประกอบข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2562 ข้อ 41 กำหนดให้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญประกาศในราชกิจจานุเบกษาภายใน 30 วันนับแต่วันที่มีคำวินิจฉัย สำหรับความเห็นส่วนตนของตุลาการซึ่งเป็นองค์คณะให้เผยแพร่ผ่านทางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและปิดประกาศไว้ ณ ที่ทำการศาล ภายใน 30 วันนับแต่วันที่มีคำวินิจฉัยนั้น

สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้ดำเนินการส่งคำวินิจฉัยดังกล่าวไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว สำหรับความเห็นส่วนตนของตุลาการซึ่งเป็นองค์คณะ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจะได้ดำเนินการเผยแพร่ผ่านทางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และปิดประกาศไว้ ณ ที่ทำการศาล ตามกรอบระยะเวลาดังกล่าวต่อไป

นอกจากนี้ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญยังได้ออกเอกสารเผยแพร่ผลการประชุมกรณีที่ประธานรัฐสภาส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 132 ว่าร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่.. ) พ.ศ. ....  มาตรา 3 มาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 9 และมาตรา 10 มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 มาตรา 83 มาตรา 86 มาตรา 90 มาตรา 91 และมาตรา 258 ก.ด้านการเมือง (2) หรือไม่ หรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่

ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยและมอบหมายให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบสำนวน ศึกษาค้นคว้ากฎหมายและข้อมูลทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับร่างพระราชบัญญัติ​ประกอบ​รัฐธรรมนูญ​ (พ.ร.ป.)​ ว่าด้วยพรรคการเมือง เพื่อประกอบการวินิจฉัยของศาล

ส่วนกรณีที่ประธานรัฐสภาส่งความเห็นของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 132 ว่า ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่..) พ.ศ..... มาตรา 25  และมาตรา 26 มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 93 และมาตรา 94 หรือไม่ และตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่

ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณา อาศัยอำนาจตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 27 วรรคสาม ให้ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชี้แจงเพิ่มเติมตามประเด็นที่ศาลกำหนด และยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ

ศาลรัฐธรรมนูญยังได้​อ่านคำวินิจฉัย​กรณีที่ กกต.​ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคไทรักธรรม​ (ผู้ถูกร้อง) โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าประเด็นที่หนึ่ง มีเหตุสมควรยุบพรรคผู้ถูกร้องตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) ประกอบมาตรา 30 หรือไม่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก (7 ต่อ 2) วินิจฉัยให้ยุบพรรคไทรักธรรม (ผู้ถูกร้อง) ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) และวรรคสอง ประกอบมาตรา 30

ประเด็นที่สอง ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก (7 ต่อ 2) วินิจฉัยให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคผู้ถูกร้องที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในระหว่างเดือน ก.ย. ถึง​ เดือน ม.ค.2562 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการกระทำอันเป็นเหตุให้ยุบพรรคผู้ถูกร้องตามมาตรา 92 วรรคสอง มีกำหนดเวลา 10 ปีนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคผู้ถูกร้อง

ประเด็นที่สาม ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก (7 ต่อ​ 2) วินิจฉัยห้ามมิให้ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารของพรรคผู้ถูกร้องไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่อีกภายในกำหนด​ 10 ปี นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคผู้ถูกร้องตามมาตรา 94 วรรคสอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคไทรักธรรม เป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยมี ส.ส. 1 คน คือ นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค และเป็นหัวหน้าพรรคด้วย คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวจึงมีผลทำให้นายพีระวิทย์พ้นจากสถานะความเป็น ส.ส. ทันที.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พ่อนายกฯขู่เช็กบิล! พรรคร่วมโดดประชุมครม.-นักร้อง/ขอพระเจ้าอยู่ต่ออีก17ปี

"เพื่อไทย" คึก! 3 นายกฯ ร่วมทีมขึ้นรถไฟสัมมนาพรรคที่หัวหิน "นายกฯ อิ๊งค์" ขอ  สส.ไม่แบ่งขั้ว-อายุ ยอมรับ 3 เดือนโฟกัสงานรัฐบาล

หัวลำโพงคึกคัก! 'อิ๊งค์' นำทีม พท. สัมมนาหัวหิน ตื่นเต้นขึ้นรถไฟรอบ 20 ปี

’แพทองธาร‘ นำทีม ’เพื่อไทย’ ขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ มุ่งหน้าสัมมนาหัวหิน ‘เศรษฐา-โอ๊ค-เอม’ ร่วมด้วย ตื่นเต้นนั่งรถไฟรอบ 20 ปี