มือชกยังกร่าง!ตร.ส่งฟ้อง21ต.ค.

"บิ๊กป้อม" ลั่น! "เราไม่สนับสนุนความรุนแรง" ขณะที่ตำรวจกองปราบฯ งัดหมายเก่าคดีทำร้ายร่างกาย "แรมโบ้อีสาน" จับ มือต่อยพี่ศรียังกร่าง! ท้าต่อยอีก ปัดได้เงินบริจาค 6 ล้าน ใครอยากได้ให้ไปตบ "เสกสกล" จะยกให้หมดเลย

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ถูกทำร้ายร่างกายระหว่างให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นหนังสือร้องเรียนเอาผิดกรณี #เดี่ยว13 ของโน้ส-อุดม แต้พานิช กังวลว่าจะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบหรือไม่ว่า "อย่าไปใช้ความรุนแรงเลยนะ เราไม่สนับสนุนความรุนแรง"

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้จำเป็นต้องเพิ่มการรักษาความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีระหว่างการลงพื้นที่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรไม่ตอบคำถามดังกล่าว ก่อนเดินขึ้นห้องประชุมไปทันที

ขณะที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า ได้กำชับสถานที่ราชการ โดยเฉพาะสถานีตำรวจ ต้องเฝ้าระวังเรื่องนี้ เท่าที่ดูขณะเกิดเหตุไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจเข้าไปทีหลัง จึงได้สั่งการให้ตรวจสอบ มีความบกพร่องผิดขั้นตอนการปฏิบัติหรือไม่อย่างไร ถ้าตำรวจอยู่ในสถานที่ขณะเกิดเหตุ ถือว่าเป็นความผิดซึ่งหน้า ตำรวจต้องจับกุม แต่ภาพในคลิปไม่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้สั่งให้ตรวจสอบ

ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ต่อไปจะได้ออกหนังสือราชการกำชับ เมื่อมีบุคคลมีชื่อเสียงเข้ามาสถานที่ราชการ ต้องเพิ่มความเข้มไม่ให้กลุ่มเห็นต่างเข้าไปทำร้าย เป็นมาตรการที่ไม่ดีที่มีการใช้กำลังซึ่งกันและกัน เราจะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นในสถานที่ราชการ ส่วนการดำเนินคดีขณะนี้อยู่ระหว่างการออกหมายเรียก  ระหว่างออกหมายเรียกพยายามติดต่อให้เขามามอบตัวเพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายให้เร็วขึ้น ส่วนกรณีที่ผู้ก่อเหตุกล่าวว่ามีตำรวจฝากมาด้วยนั้น  เป็นสิ่งที่ทุกคนพูดได้ แต่ว่าจะจริงหรือไม่แล้วแต่ดุลพินิจ และต้องรอผลการวินิจฉัยของแพทย์เข้าข่ายความผิดมากขนาดไหน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุมนายวีรวิชญ์ หลังพบมีหมายจับค้างเก่าในคดีทำร้ายร่างกายนายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ของศาลแขวงดุสิต ปี 2564 ติดตัว 1 คดี และยังไม่มีการถอนหมายจับแต่อย่างใด ก่อนจะควบคุมตัวมาที่กองปราบฯ

เมื่อมาถึงอาคารกองปราบปราม มีกลุ่มคนเสื้อแดงที่รู้ข่าวมารอให้กำลังใจ ตระโกนด่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ หาว่าไม่ให้ความเป็นธรรม

พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่าเป็นหน้าที่ของตำรวจทุกคนอยู่แล้ว เมื่อมีข้อมูลก็ดำเนินการสืบสวนจับกุมตามปกติ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ หลังจากนี้ก็นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกาย มาตรา 295 ส่วนการประกันตัวสามารถยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวได้ที่ชั้นพนักงานสอบสวน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการจับกุมนายวีรวิชญ์ครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ต.ค.2564 ขณะที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กำลังเชิญแกนนำกลุ่มแรงงานที่ได้รับความเดือดร้อนจากโรงงานผลิตชุดชั้นในปิดตัวลง จนต้องมาจัดกิจกรรมชุมนุมที่บริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล เข้ามาหารือยังชั้น 3 ตึก กพร. ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับปัญหา ระหว่างนั้นได้มีนายวีรวิชญ์ ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งยืนดักรออยู่ที่ด้านล่างของอาคาร เดินตรงปรี่เข้าไปตบหัวและชกหน้าอกของนายเสกสกล ซึ่งหลังเกิดเรื่องนายเสกสกลจึงส่งตัวแทนเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.ดุสิต ท้องที่เกิดเหตุ จนมีการออกหมายจับ กระทั่งนำมาสู่การจับกุมตัวได้ดังกล่าว

จากการสอบสวน นายวีรวิชญ์ให้การรับสารภาพว่าทำจริง แต่ขอตำหนิเจ้าหน้าที่ตำรวจสักนิดว่า หลังเกิดเหตุครั้งนั้นตนได้ไปมอบตัวพร้อมลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ว่าหากคู่กรณีต้องการจะดำเนินคดีกับตน ให้โทรศัพท์แจ้งตนด้วย จะได้กลับมามอบตัว แต่หลังจากวันนั้นกลับไม่มีการติดต่อใดๆกลับมา และไม่ทราบว่ามีการแจ้งความ หรือแม้กระทั่งการออกหมายเรียก จนมามีการออกหมายจับดังกล่าว ยืนยันว่าไม่เคยหนี พร้อมมอบตัวอยู่แล้ว

 “ส่วนตัวยืนยันว่าไม่เคยมีอคติกับ นายเสกสกล แต่เพราะเคยเป็นคนเสื้อแดง กินข้าวหม้อเดียวกันแล้วทำไมกลับเหยียบหัวคนอื่นเพื่อเอาตัวรอด ด้วยจิตวิญญาณจึงต้องตบสั่งสอน เช่นเดียวกับกรณีของนายศรีสุวรรณ ถ้าสิ่งไหนที่ผมทำผิดดำเนินคดีได้เลย ว่ากันตามกฎหมาย พร้อมยอมรับผิดอยู่แล้ว เพียงแต่ขอให้มีบรรทัดฐาน อย่าลำเอียง เพราะทุกคนเท่าเทียมกันหมด”

ทั้งนี้ นายวีรวิชญ์ให้การเพิ่มเติม  เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่ง สน.ดุสิต ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ต่อมา นายวีรวิชญ์เปิดเผยภายหลังได้รับการประกันตัวคดีทำร้ายร่างกาย นายเสกสกลในชั้นพนักงานสอบสวนด้วยเงินจำนวน 40,000 บาทว่า นอกจากคดีนี้แล้ว ยังมีหมายจับลึกลับที่ จ.กระบี่เมื่อปี 64 อีกหนึ่งหมาย ซึ่งต้องเดินทางไปรายงานตัวภายในอาทิตย์นี้ อยากถามว่าที่ไปชกรุนแรงไหม ที่ผ่านมาตนเคยโดนกลั่นแกล้งตลอด จึงยากถามย้อนกลับไปยังนายเสกสกล บอกว่าชกแล้วไม่มีปัญหา นิดหน่อย แต่บอกว่าไปหาหมอมีบาดแผลแตกอาการสาหัส  ลูกผู้ชายหรือเปล่า และในวันนั้นยังบอกว่าไม่เอาเรื่อง ไม่ถือคนบ้าไม่ว่าคนเมา

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงยอดเงินบริจาคเข้าบัญชีหลังจากก่อเหตุชกนายศรีสุวรรณ มีคนโอนเข้าบัญชียอดเงินกว่า 6 ล้านบาท นายวีรวิชญ์ถึงกับโมโหตอบสวนว่า “เงินบริจาคที่ไหน 6 ล้าน สื่อไหนที่ออกข่าว อย่าใช้ระบบราชการโดยการนำของนายประยุทธ์แบบละเมอหรือเพ้อ บ้าหรือเปล่า

"ไอ้ส้น...มึงเปิดบัญชีกับกูหรือเปล่า ถ้าไม่ได้ต้องให้กู 6 ล้านนะไอ้...นรก เพจส้น..ไหน กูไม่ได้หาแดกแบบนี้ พี่น้องกูไม่ได้ให้กูถึงขนาดนั้น” ถ้าเบ็ดเสร็จเรียบร้อยแล้วจะเปิดเผยแน่ แล้วทำไมต้องอยากดูยอดเงินด้วย ถ้าใครไปตบแรมโบ้ เงินในบัญชีจะให้ทั้งหมด สื่อคนไหนแน่จริงตบแรมโบ้ จะมอบให้หมดทั้งบัญชี ขอร้องสื่อถ้าพูดเกินเลยผมจะดำเนินคดีเช่นเดียวกัน ผมคนจริง ต้องการดูตัวเลขมาดู อย่าพูดเลยเถิด..นรก" นายวีรวิชญ์ระบายอารมณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวีรวิชญ์ยังยัวะหนักบอกว่า “ไอ้แรมโบ้ มึงดูเอาไว้ กูยัวะมึงแล้ว มึงกับกูจนถึงวันตาย” พร้อมกับตั้งการ์ดแม่ไม้มวยไทย หมัด เท้า เข่า ศอก โชว์สื่อ และบอกว่า ไอ้โบ้ครั้งต่อไปต้องกินตะเกียบกู มึงปลุกคนผิดแล้ว"

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร นำรายละเอียดการทอล์กโชว์ เดี่ยว 13 ของโน้ส-อุดม แต้พานิช ทั้งหมด 15 ประเด็น มาให้ตำรวจตรวจสอบว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยระหว่างยื่นหนังสือให้ตำรวจรับเรื่องนายวรัญชัย โชคชนะ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองรุ่นใหญ่ โผล่เข้ามาชูป้ายกระดาษ เขียนข้อความว่า “ขอสนับสนุนและให้กำลังใจโน้ส อุดม” ก่อนจะจับมือและร่วมถ่ายรูปกับนายสนธิญา

เขากล่าวว่า ในทอล์กโชว์มีการพูดถึงเรื่องการชุมนุม ซึ่งส่วนตัวมองว่ามีความคาบเกี่ยวกับกฎหมายอาญา ม.116 และอีกหลายส่วนที่มองว่าไม่เป็นความจริง เช่น 1.ตอนนี้ประเทศขับเคลื่อนโดย รปภ. อย่าบอกว่ายุทธศาสตร์ 20 ปี แค่ 20 นาทีก็นานเกินไปแล้ว 2.คอมพิวเตอร์มีมันสมองประเมินผล แต่หน่วยความจำของท่านไม่มี 3.วันนี้รถติดเยอะหน่อย มีม็อบที่เราอยากไล่เขา ก็ถือว่าเขาทำงานแทนเรา 4.นโยบายขี้โม้ แรงงาน 400 บาท  5.ใจถึงพึ่งไม่ได้ สร้างปัญหาต่อ ก่อปัญหาใหม่ 6.ยืนยันความโปร่งใส แต่ไม่ให้ตรวจสอบ 7.แก้ปัญหาชาติด้วยการแต่งเพลง แก้ปัญหาด้วยความโมโห 8.กู้ๆๆ มาหลายชาติ ล่าสุดเพิ่งกู้ญี่ปุ่น เป็นหนี้อีกหลายล้าน และอื่นๆ มากมาย

นายสนธิญายอมรับว่า ไม่แน่ใจว่าโน้สได้พูดถึงเรื่องดังกล่าวจริงหรือไม่ จึงมายื่นเรื่องให้ตำรวจตรวจสอบเพื่อให้เรื่องนี้ได้รับการตรวจสอบและเป็นบรรทัดฐานต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง