"บิ๊กตู่" เดินลุยน้ำเยี่ยมคนนนท์ ปรับเหลือจุดเดียวเลี่ยง 3 นิ้วดักรอต้าน รับพายุถล่มหลายลูกฝนตกหนักกว่าทุกปี ขอ ปชช.เรียนรู้อยู่กับน้ำ ปลื้มแฟนคลับยังรักลุงเชียร์อยู่ยาว กทม.พร้อมรับมือน้ำหนุนสูง 29 ต.ค. เตรียมกระสอบทราย 2.5 ล้านใบกั้นน้ำ กรมชลฯ เผยน้ำเหนือทรงตัวเริ่มลง 4 เขื่อนหลักลดระบายน้ำ
เมื่อวันที่่ 13 ตุลาคม เวลา 09.30 น. ที่วัดแสงสิริธรรม ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนในชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลหนุนสูง และมีน้ำท่วมขังอยู่นานนับสัปดาห์แล้ว โดยทันทีที่เดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีและคณะรับฟังบรรยายสรุปจากอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจ.นนทบุรี ถึงเส้นทางน้ำและปัญหาภาพรวม
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์เดินลุยน้ำเข้าไปถึงบ้านที่ยังมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ พร้อมพูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบ ชีวิตความเป็นอยู่ และทักทายประชาชนในชุมชนอย่างเป็นกันเอง ให้กำลังใจกับผู้ประสบภัย และย้ำว่าจะช่วยดูแลให้ความช่วยเหลือ ขณะเดียวกันประชาชนบางคนขอให้นายกฯ นำไดรโว่มาเร่งสูบน้ำออกจากบ้านเรือน ซึ่งนายกฯ ได้ถามกลับว่าหากสูบออกแล้วจะไปกระทบกับบ้านหลังอื่นหรือไม่ หากไม่กระทบก็พร้อมที่จะดำเนินการให้ โดยจะเร่งสั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการ
นายกฯ ได้พูดกับชาวบ้านด้วยว่า ปีนี้มีพายุเข้ามาหลายลูก เดิมฝนตกแค่ท้ายเขื่อน แต่ปีนี้มาเหนือเขื่อนด้วย ทำให้ระดับน้ำจากที่ต่างๆ ไหลมารวมกัน ระบายไปจุดหนึ่ง แต่อีกจุดหนึ่งก็เต็ม เข้าใจว่าประชาชนลำบาก แต่รัฐบาลพยายามดูแลเยียวยา และจะจัดสรรงบประมาณมาแก้ไขปัญหาในระยะยาว ซึ่งระหว่างนั้นชาวบ้านได้ตะโกนส่งกำลังใจให้นายกฯ ขอให้สู้ๆ และขอให้ยิ้มหน่อยเพราะนายกฯ มีสีหน้าเคร่งเครียด พร้อมบอกว่ารักลุงตู่ ขอให้ลุงตู่อยู่ยาว ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้ทำท่าประจำคือทุบอก พร้อมส่งสัญลักษณ์ไอเลิฟยูให้ประชาชน นอกจากนี้ระหว่างเดินลุยน้ำเข้าเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัย ก็มีประชาชนได้เข้ามาให้กำลังใจนายกฯ พร้อมกอดและขอถ่ายรูป ซึ่งบางจุดมีเด็กๆ มารอให้กำลังใจด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ว่า ในแต่ละปีมีปัญหามากมาย ซึ่งในปีนี้มีพายุและฝนตามฤดูกาลมากกว่าทุกปี ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคือการปรับตัว ซึ่งรัฐบาลก็พยายามจัดสรรงบแก้ไขปัญหาในหลายโครงการ บางพื้นที่ต้องใช้งบประมาณถึง 500 ล้านบาท ก็ต้องทำไปเรื่อยๆ สำหรับประชาชนที่อยู่ริมน้ำ ในขณะที่โครงการต่างๆ ยังไม่แล้วเสร็จ หรือยังแก้ไม่ได้ ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับน้ำให้ได้ เรื่องนี้ไม่ควรตอบโต้กันไปมา เพราะไม่สร้างสรรค์ แต่ต้องขอชื่นชมในพื้นที่ที่มีการดูแลเป็นอย่างดี แสดงให้เห็นว่าทุกคนร่วมใจกัน และที่สำคัญยังมีรอยยิ้มให้นายกฯ แสดงว่าประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลกำลังทำอะไร ยอมรับว่าในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ย่อมได้รับผลกระทบ
เมื่อถามว่า จากการลงพื้นที่ประชาชนต้องการให้ช่วยเหลืออะไรเป็นเรื่องเร่งด่วน นายกฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาประชาชนมีประสบการณ์อยู่แล้ว รู้ว่าจะต้องทำอะไรรับมืออย่างไร ทั้งการเตรียมความพร้อมด้านบ้านเรือนและชีวิตความเป็นอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดิมนายกฯ มีกำหนดการลงพื้นที่ 2 จุดคือ เวลา 09.00 น. ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ที่วัดเขมาภิรตารามราชวรมหาวิหาร และเวลา 10.40 น. ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำที่วัดแสงสิริธรรม แต่เปลี่ยนกำหนดการลงพื้นที่วัดแสงสิริธรรมเพียงจุดเดียว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการข่าวว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมจะมาต่อต้านการลงพื้นที่
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ "ไบรท์ ราษฎร" แกนนำม็อบสามนิ้ว เตรียมระดมคนเพื่อมาต่อต้าน โดยได้มีการปลุกระดมให้มีการเตรียมถุงอุจจาระ ถุงเลือด และน้ำปลาร้า มาปาใส่นายกฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้พยายามประวิงเวลา ไม่แจ้งล่วงหน้าว่ามีการปรับเปลี่ยนจุดลงพื้นที่กะทันหัน อย่างไรก็ตาม ระหว่างนายกฯลงพื้นที่วัดแสงสิริธรรม มีนายปรีดา เชื้อผู้ดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าอิฐ มารอรับ ช่วงหนึ่งนายกฯ ได้พูดคุยกับนายปรีดาถึงกลุ่มคนที่เตรียมมาต่อต้านที่จุดวัดเขมาภิรตารามฯ ว่าการลงพื้นที่อยากมาช่วยเหลือจริงๆ ทำไมต้องมีแบบนี้ด้วย แต่ตนก็ไม่ได้อะไร
ทางด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง "หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง" บริเวณหัวเกาะประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลาง คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้น และเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 13-14 ต.ค.65 ส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 14-15 ต.ค.65 บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีฝนเพิ่มขึ้นนั้นว่า นายกฯ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย และขอให้ติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา
ที่ท่าเรือใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถนนพระอาทิตย์ นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะ ร่วมกันลงเรือตรวจสอบแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา เริ่มจากท่าเรือใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถึงวัดเทพนารี เพื่อตรวจดูระดับแนวเขื่อนที่ต่ำกว่า 3 เมตร ซึ่งไม่น่าเป็นห่วง ในส่วนของแนวฟันหลอได้กำชับสำนักการระบายน้ำวางกระสอบทรายให้สูงเต็มแนวก่อน ป้องกันไม่ให้น้ำล้นแนวเขื่อนเข้ามา โดยเตรียมไว้ 2.5 ล้านใบ จากการคาดการณ์ในวันที่ 29 ต.ค.นี้ ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะขึ้นสูงกว่าวันที่ 13 ต.ค. อีก 20 เซนติเมตร ซึ่งอาจต้องประสานกับกรมเจ้าท่า กำชับผู้ประกอบการเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดคลื่นสูง ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนการให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนในชุมชนที่อยู่นอกแนวป้องกันน้ำท่วม ได้มอบหมายให้สำนักงานเขตในพื้นที่ทำสะพานไม้ทางเดิน เสริมแนวกระสอบทราย แจกจ่ายเวชภัณฑ์ ยาป้องกันน้ำกัดเท้าแล้ว
กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยาว่า เวลา 12.00 น. ตรวจวัดปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 จ.นครสวรรค์ อยู่ที่ 3,059 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที ซึ่งจะไหลลงมาสมทบกับแม่น้ำสะแกกรังอีก 334 ลบ.ม./วินาที ก่อนไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยา เพื่อรักษาเสถียรภาพความมั่นคงของบานระบายน้ำและตัวเขื่อน ประกอบกับระดับน้ำเหนือเขื่อนขณะนี้อยู่ที่ +17.71 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง (ม.รทก) สูงกว่าระดับเก็บกัก 1.21 เมตร (+16.50 ม.รทก.) ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 3,169 ลบ.ม./ต่อวินาที ขณะที่ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.29A อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เฉลี่ยอยู่ที่ 3,100 ลบ.ม./วินาที
สำหรับสถานการณ์น้ำ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำรวมกัน 20,094 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 81 ของความจุอ่างรวมกัน โดยเขื่อนภูมิพล จ.ตาก งดการระบายน้ำตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อบรรเทาผลกระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ำ ด้านเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ ปรับการระบายขึ้นมาเล็กน้อย 30 ลบ.ม./วินาที จากเดิมที่งดการระบายน้ำในช่วงเดียวกัน ส่วนอีก 2 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่มีน้ำเกินความจุอ่าง ได้แก่ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำ 952 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 101 ของความจุอ่างยังคงอัตราการระบายน้ำเท่าเดิม 150 ลบ.ม./วินาที และที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำ 1,052 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 110 ของความจุอ่าง ลดการระบายน้ำจาก 12 ต.ค. ในอัตรา 820 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้ กรมชลประทานได้ปรับการรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับติดตั้งเครื่องมือเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเล บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้มากที่สุด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สุทิน' สั่งทัพเรือเร่งผลักดันน้ำเหนือออกอ่าวไทย หวั่นซ้ำรอยน้ำท่วมใหญ่ปี 54
นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวหลังการประชุมสั่งการเพื่อติดตามสถานการณ์และแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ร่วมกับศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพไทย และเหล่าทัพ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
'สุทิน' รับไม่มั่นใจนั่งเก้าอี้เดิม ไม่น้อยใจหากเปลี่ยนไปทำงานสภาฯ ถนัดอยู่แล้ว
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวจะได้กลับมาดำรงตำแหน่งเดิม และได้มีการกรอกประวัติไปแล้ว โดยส่ายหน้าก่อนจะกล่าวว่า เข้าไปส่งเอกสารอื่น
แจงคุมขังนอกคุก ปรับนิสัยนักโทษ ไม่เอื้อยิ่งลักษณ์
"ทวี" แจงยิบ "ระเบียบคุมขังนอกเรือนจำ" ไม่ได้เอื้อ “ยิ่งลักษณ์” กลับไทย
มี‘งบกลาง’รับมือน้ำท่วม 60วันอตร.อย่ามัวเอาอยู่
“ทักษิณ" ร่อนเชียงรายเยี่ยมชาวบ้านน้ำท่วม "จักรพงษ์" ยันงบกลางมีพอรับมือกันไว้หลายพันล้าน
พท.จ้องรื้อ‘ครอบงำ-ยุบพรรค’
"ทักษิณ" บอกไม่รู้เรื่อง อย่าไปสนใจ หลังนักร้องทำงานร้อง กกต.ปมครอบงำเพื่อไทย
สศช.ชี้หนี้เสียยังเพิ่ม3% จับตากู้เงินบนโซเชียล!
"สภาพัฒน์" เผยหนี้เสียยังเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2.99% เร่งแบงก์ปรับโครงสร้างหนี้