ตั้งกก.ล้อมคอกยาเสพติด วาระชาติประยุทธ์คุมเอง

นายกฯ ตั้ง คกก.ขับเคลื่อนวาระแห่งชาติปราบยาเสพติด นั่งคุมเองหัวโต๊ะประชุมนัดแรก ส.ว.แนะฝ่ายค้านยื่นญัตติด่วนแทนเปิดวิสามัญ พรรค "หญิงหน่อย" ประกาศ 3 ยุทธศาสตร์ ขู่ลากตัวพ่อค้า คนมีสีมีเอี่ยวเข้าคุก ด้านตำรวจเปิดช่องแจ้งเบาะแสยาเสพติดออนไลน์ ลั่นตำรวจเกี่ยวข้องลงโทษวินัยร้ายแรง

เมื่อวันที่ 11 ต.ค.2565 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ย้ำในที่ประชุม ครม. ว่าที่ผ่านมารัฐบาลได้เน้นการปราบปรามยาเสพติด และกำหนดให้ยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ

"เหตุที่เกิดขึ้นที่ จ.หนองบัวลำภู ส่วนหนึ่งมาจากปัญหายาเสพติดและสภาพจิตใจของผู้ก่อเหตุ ทำให้รัฐบาลยิ่งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องเร่งบูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ในการป้องกัน ปราบปรามยาเสพติดให้เข้มงวดและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ครอบคลุมทั้งการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับพิษภัยยาเสพติดในทุกช่องทาง เปิดช่องทางเพิ่มเติมให้ประชาชนช่วยสอดส่องเป็นหูเป็นตา มีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแสและแชร์ข้อมูล  อีกทั้งทบทวนมาตรการนำเสนอหรือเผยแพร่ภาพ เสียง หรือบทสัมภาษณ์ หรือข่าวสาร รวมทั้งการนำเข้าข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อเคารพสิทธิ์ของผู้เสียหายและป้องกันไม่ให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ" นายอนุชาระบุ

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้เร่งรัดให้จับกุม ดำเนินคดี และลงโทษผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่ว่าจะเป็นการผลิต การนำเข้า การนำผ่านและการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดและสารตั้งต้นต่างๆ อย่างรวดเร็วและจริงจัง ยึดทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด รวมถึงการทบทวนหลักเกณฑ์การเสนอขอรับพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่เป็นตัวการ ผู้ใช้ และผู้สนับสนุน รวมทั้งการประสาน และให้ความช่วยเหลือกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อกำจัดแหล่งผลิตยาเสพติดและส่งเสริมอาชีพทดแทน อีกทั้งให้มีมาตรการลงโทษข้าราชการ พนักงานรัฐ ลูกจ้างรัฐและวิสาหกิจ ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด  ขณะเดียวกันต้องเร่งบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด เยียวยา ฟื้นฟูสภาพจิตใจผู้เสพ รวมถึงการเยียวยาและฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้เสียหายซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงต่างๆ ให้กลับคืนสู่สภาพเดิม

นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้มีการทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวกับยาเสพติดที่บังคับใช้อยู่ และที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานต่างๆ ให้สอดคล้องกับเป้าหมายและมาตรการในการป้องกันและปราบปรามที่เข้มข้นขึ้น พร้อมจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง มีนายกฯ เป็นประธาน มีรองนายกรัฐมนตรีทุกคน และรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เป็นกรรมการ เพื่อขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้เข้มงวด และบูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยมอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จัดทำระเบียบหรือคำสั่งที่เกี่ยวข้องเสนอต่อนายกรัฐมนตรีและ ครม.ต่อไป

ทั้งนี้ จะมีการประชุมครั้งแรกในวันที่ 12 ต.ค.นี้ เวลา 09.30 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุม โดยผู้เข้าร่วมการประชุม ประกอบด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ, นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข, นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และ รมว.การต่างประเทศ, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม, นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์,  นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ, พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม รวมทั้งอัยการสูงสุด ศาล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยให้กระทรวงยุติธรรมทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการ จะมีการพิจารณามาตรการในการป้องกัน แก้ไขและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและอาวุธปืน และการบำบัดฟื้นฟูผู้กระทำความผิด รวมถึงการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพจิต

ที่รัฐสภา นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงชี้แจงกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านขอให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อนำปัญหากรณีกราดยิงที่จังหวัดหนองบัวลำภูเข้าสู่การพิจารณาว่า เรื่องนี้เกรงว่าจะมีการเข้าใจผิดกัน และจะนำไปสู่การกล่าวหากันภายหลัง เพราะตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ที่เกี่ยวข้องกับการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ มาตรา 123 บัญญัติไว้ว่า ส.ส.และ ส.ว.ทั้ง 2 สภารวมกัน หรือ ส.ส.ต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้ง 2 สภามีสิทธิเข้าชื่อร้องขอต่อประธานรัฐสภา ให้นำความกราบบังคมทูลฯ เพื่อมีพระบรมราชโองการประกาศเรียกประชุมรัฐสภาเป็นการประชุมสมัยวิสามัญได้ ดังนั้นจะเห็นได้ว่ารัฐธรรมนูญมาตรา 123 ประธานรัฐสภาไม่มีหน้าที่และอำนาจที่จะเห็นสมควรหรือไม่เห็นสมควรให้มีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญแต่ประการใด​ แต่ถ้ามีการเข้าชื่อกันถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ก็ยินดีที่จะนำความขึ้นกราบบังคมทูลฯ ในโอกาสที่เหมาะสมต่อไป

ทั้งนี้ พระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมสมัยสามัญได้ออกมาแล้ว โดยเปิดประชุมในวันที่ 1 พ.ย. และนายชวนจะเรียกประชุมในสัปดาห์แรกทันที คือวันที่ 2-3 พ.ย. และเพิ่มวันประชุมพิเศษ คือวันที่ 4 พ.ย. ดังนั้นการประชุมในสัปดาห์แรกของการเปิดสมัยประชุม จะประชุม 3 วัน เพราะสภามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว โดยจะมีการหารือร่วมกับวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านต่อไป

นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ส.ว. กล่าวถึงมติพรรคร่วมฝ่ายค้านที่เสนอญัตติด่วนให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ที่อาจต้องขอเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.ว่า ควรกำหนดประเด็นให้ชัดเจนว่าเปิดประชุมเพื่ออะไร หากไปเกี่ยวพันเรื่องอื่นคงไม่มีประโยชน์ เพราะในวันที่ 1 พ.ย.นี้ก็จะเปิดประชุมสมัยสามัญแล้ว หากยื่นตอนนี้คงไม่ทัน จึงขอแนะนำให้ยื่นเป็นญัตติด่วนในช่วงเปิดสมัยประชุม โดยเปิดญัตติด่วนสำคัญคือน้ำท่วม และอาจพ่วงประเด็นโศกนาฏกรรมที่หนองบัวลำภูไปด้วยได้

นายวัลลภ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา กล่าวก่อนการเสวนาโต๊ะกลมถอดบทเรียนเหตุการณ์ความรุนแรงภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ จ.หนองบัวลำภู ว่าปัจจัยหลักที่สำคัญในการก่อเหตุอย่างหนึ่งคือยาเสพติด การเสพสารเสพติดบ่อยๆ จะทำให้สติส่วนกลางซึ่งเป็นส่วนความรู้สึกนึกคิดรับผิดชอบถดถอยลง และมีสิทธิ์ที่จะขาดความยับยั้งชั่งใจได้ ส่วนปัจจัยจากอาวุธที่มีอยู่ใกล้ตัว เช่น การใช้หมัด เข่า หรือมีด แต่เมื่อใดที่มีภาวะความไม่พร้อมทางอารมณ์และมีอาวุธที่รุนแรงกว่าร่วมด้วย โอกาสที่จะใช้อาวุธเหล่านั้นทำร้ายผู้อื่นก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น

นายวัลลภกล่าวว่า ประเด็นเหล่านี้เป็นเรื่องที่ทาง กมธ.จะนำไปพิจารณาศึกษาความย่อหย่อนของการควบคุมยาเสพติดและอาวุธที่ร้ายแรง นอกจากนี้ยังเชื่อว่ามีปัจจัยมาจากภาวะสังคมไทยที่ทำให้คนเกิดความเครียด จึงจำเป็นจะต้องมีศูนย์คอยรับคำปรึกษาเมื่อเกิดภาวะความเครียด โดย กมธ.จะต้องผลักดันกลไกนี้ให้มีเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงกระบวนการพิจารณาคดี แม้ศาลจะมีถึงชั้นฎีกา แต่เมื่อสั่งลงโทษไปแล้ว 10 ปี แต่กระบวนการภายนอก 3 ปีก็ถูกปล่อยตัวแล้ว ซึ่งระยะเวลา 3 ปียังไม่สามารถบำบัดอาการเจ็บป่วยทางจิตของผู้ที่ทำความรุนแรงได้เลย ยังอาจกลับมากระทำความรุนแรงต่อได้อีก รวมทั้งมีงานวิจัย WHO ระบุว่า อาชญากรที่ก่อเหตุทั่วโลก เป็นเพราะสะสมความรุนแรงตั้งแต่วัยเด็ก ทั้งจากการเลี้ยงดู สื่อที่กระตุ้นเร้าอารมณ์แบบผิดๆ และปัจจัยที่มีผลต่อการสะสมความรุนแรง น่าจะมาจากการเล่นเกม ซึ่ง ส.ว.เคยเสนอร่างกฎหมาย กำหนดเรตติ้งความรุนแรงของเกม แต่ยังไม่ได้เข้าสู่วาระการประชุม อาจมีการผลักดันให้มีการพิจารณาเร็วขึ้น

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงยุทธการปราบยาบ้า คืนลูกหลานสู่อ้อมอกพ่อแม่ว่า จากการลงพื้นที่ พบว่าปัญหาที่ประชาชนร้องเรียนมากพอๆ กับปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง คือปัญหายาบ้า ที่มีขายทั่วไปทุกหมู่บ้าน และราคาถูกมากเม็ดละเพียง 20 บาท หาซื้อง่ายเหมือนซื้อขนม ให้กินก่อนผ่อนทีหลังได้ ทั้งนี้ พรรคไทยสร้างไทยขอประกาศยุทธการปราบยาบ้า คืนลูกหลานสู่อ้อมอกพ่อแม่ด้วย 3 ยุทธศาสตร์คือ ดำเนินการเชิงรุกเร่งนำผู้เสพมาบำบัดรักษาให้หายขาด ดำเนินการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง ลากตัวพ่อค้ายา สายยา และเจ้าหน้าที่รัฐที่รู้เห็นเป็นใจปล่อยให้มีการค้ายาที่ทำลายอนาคตของชาติ มารับโทษขั้นสูงสุด และการสร้างชุมชนให้เข้มแข็งโดยการจัดตั้งสภาชุมชนทุกหมู่บ้าน แล้วใช้ สภาชุมชนเป็นกลไกดึงให้ผู้คนในหมู่บ้านมาร่วมกันสร้างกฎกติกาและลงมติที่จะร่วมกันปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ด้วยเข็มมุ่งที่ตรงกัน เช่น ทำให้หมู่บ้านปลอดอาชญากรรมร้ายแรงและยาเสพติด เป็นต้น

ที่สำนักงานจเรตำรวจ พล.ต.ต.สันติ์นที ประยูรรัตน์ โฆษกสำนักงานจเรตำรวจ เปิดเผยว่า ประชาชนสามารถใช้ช่องทางรับแจ้งเบาะแสผู้เสพผู้จำหน่ายในพื้นที่ทั้งประเทศ รวมทั้งการแพร่ระบาดยาเสพติดในชุมชน, หมู่บ้าน ผ่านระบบบริหารจัดการเรื่องร้องเรียนของจเรตำรวจออนไลน์ http://www.jcoms.police.go.th/notice (JCOMS) เพื่อให้เกิดความรวดเร็วแก่ผู้แจ้ง และมีระบบรายงานผลให้กับผู้แจ้งทราบเป็นระยะๆ สำหรับข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จะถูกดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันเจ้าหน้าที่ของรัฐมิให้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด พ.ศ.2542 และหากพบว่ามีการกระทำผิดจริงดังกล่าว เบื้องต้นข้าราชการตำรวจดังกล่าวจะถูกลงโทษฐานวินัยร้ายแรงตามความร้ายแรงแห่งกรณี.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ยิ่งลักษณ์’ กลับคุก ‘บิ๊กเสื้อแดง’ รู้มา! ว่าไปตามราชทัณฑ์ไม่ใช้สิทธิพิเศษ

“เลขาฯ แสวง” ยันเดินหน้าคดี “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างการปกครองต่อ เพราะใช้กฎหมายคนละฉบับกับศาล รธน. "จตุพร" ลั่นยังไม่จบ! ต้องดูสถานการณ์เป็นตอนๆ ไป