กราดยิงหนองบัวลำภูเปิดแผลใหญ่สังคมไทย! “บิ๊กตู่” ขึงขังสั่ง ตร.ลุยงานกำจัดยาเสพติด-ระดมกวาดล้างอาวุธจริงจัง ผงะ! มท.เผยคนไทยตกเป็นเหยื่อกว่าล้านคน ขีดเส้นสิ้นเดือน ต.ค.เปิดตัวเลขผู้เสพค้ายาทั่วประเทศ ลั่นไฟยาเสพติดไหม้ประเทศของเราแล้ว “เหลิม” มาแล้วชูเดินหน้าปราบต่อยอดโมเดล “โทนี่” หยาม 8 ปี “บิ๊กตู่” ไร้น้ำยาทำงานปฏิรูป ตร.
เมื่อวันจันทร์ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีบัญชาให้ตำรวจเร่งรัดปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเร่งด่วน แบบครบวงจรและต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน ซึ่ง ผบ.ตร.ได้สนองนโยบายนายกรัฐมนตรี ด้วยการเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดเชิงรุก บูรณาการกับทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น สาธารณสุข เพิ่มความเข้มในการปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดในพื้นที่
นายอนุชากล่าวว่า รวมทั้งให้มีการขยายผลและใช้มาตรการทางทรัพย์สิน ทั้งยึด อายัดทรัพย์คดียาเสพติด การฟอกเงินต่อผู้กระทำผิดทุกราย รวมทั้งติดตามนำผู้เสพมาเข้ารับการบําบัด โดยเฉพาะในชุมชน สถานศึกษา สถานบริการและสถานประกอบการ จะสุ่มตรวจตามวงรอบ ปิดล้อมตรวจค้นชุมชนอย่างต่อเนื่อง ค้นหาผู้ติดยาเสพติดที่มีอาการทางจิตประสาทในพื้นที่ จัดทำฐานข้อมูลเพื่อพิจารณาจัดลําดับความรุนแรงของอาการ เพื่อนําเข้าบําบัดรักษา และค้นหาและนําผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบําบัดโดยสมัครใจโดยเร็ว
“ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ต้องลงไปขับเคลื่อนนโยบายตามที่ได้สั่งการลงไป รวมทั้งติดตาม ตรวจสอบและควบคุมความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ให้ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดทั้งทางตรงและทางอ้อมโดยเด็ดขาด หากพบการกระทําความผิดจะต้องดําเนินการทางกฎหมายอาญา ทางวินัย และการปกครองอย่างเฉียบขาดทุกราย ยืนยันว่ารัฐบาลเดินหน้าในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังมาโดยตลอด" นายอนุชาระบุ
นายอนุชากล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจังให้เกิดผลเป็นรูปธรรม กำหนดให้การปราบปรามยาเสพติดเป็นนโยบายเร่งด่วน และวาระแห่งชาติที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง ควบคู่กับการร่วมมือกันของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนการปฏิบัติไปสู่เป้าหมายที่กำหนด รวมทั้งนายกรัฐมนตรีมีบัญชาให้ตำรวจเร่งรัดปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเร่งด่วน แบบครบวงจรและต่อเนื่องเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน
นายอนุชายังกล่าวถึงผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดประจำปี 2565 ว่า รัฐบาล สำนักงาน ป.ป.ส. กระทรวงยุติธรรม เดินหน้าแก้ปัญหายาเสพติดด้วยการแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 24 ฉบับ มาเป็นฉบับเดียว คือประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งมีผลบังคับใช้ 9 ธ.ค.64 โดยจะเน้นอายัดทรัพย์ ซึ่งเมื่อมีกฎหมายใหม่สามารถยึดทรัพย์ย้อนหลังได้ถึง 10 ปี ทำให้ปี 2565 สามารถบูรณาการยึดอายัดทรัพย์ของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดได้ถึง 10,820 ล้านบาท และจากนี้ไปคาดว่าจะสามารถยึดทรัพย์ได้มากขึ้นอีก โดยในปี 2566 ตั้งเป้าหมายยึดทรัพย์คดียาเสพติดให้ได้มากกว่าเดิมถึง 10 เท่าที่ 100,000 ล้านบาท เพื่อเป้าหมายสุดท้ายคือ ลดความเดือดร้อนของประชาชนตามนโยบายรัฐบาล
จี้ ตร.จัดการอาวุธปืน
นายอนุชาระบุด้วยว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมกำลังกวาดล้างความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเปิดให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วยในการแจ้งเบาะแส อาวุธปืน เครื่องกระสุน หรือวัตถุระเบิดที่สายด่วน191 และสายด่วน 1599 หรือเบอร์ตำรวจประสานงานชุมชนได้ตลอด 24 ชม.
“ล่าสุด นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้ประชาชน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีไปปฏิบัติแล้ว” นายอนุชาระบุ
ที่ห้องประชุมราชบพิธ อาคารดำรงราชานุสรณ์ กระทรวงมหาดไทย (มท.) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานร่วมการประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยนายสุทธิพงษ์กล่าวว่า จากการดำเนินการสำรวจความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในการแก้ไขปัญหาความยากจน ด้วยแพลตฟอร์ม ThaiQM ของกรมการปกครอง ซึ่งจากฐานข้อมูลพบว่ามีพี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากปัญหายาเสพติดตัวเลขสูงถึง 279,094 ครัวเรือน ใน 31,744 หมู่บ้าน ซึ่งถ้าเราเอาจำนวนสมาชิกในครอบครัวมาคูณจะทำให้ตัวเลขประชาชนที่ได้รับผลกระทบมีถึงหลักล้านคน ดังนั้น เราทุกคนจึงต้องดำเนินการกับปัญหายาเสพติดเชิงรุก ด้วยการเข้าไป Approach ปัญหา
นายสุทธิพงษ์กล่าวว่า มท.โดยกรมการปกครองขีดเส้นตายว่า ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2565 เราจะมีข้อมูลผู้เสพผู้ค้ายาเสพติดทั่วประเทศในเบื้องต้น เพื่อนำมาใช้วางแผนการแก้ไขปัญหาร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ทหาร ป.ป.ส.และสาธารณสุข เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน สนธิและกรองข้อมูลอีกชั้นหนึ่งในระดับพื้นที่ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอเป็นแม่งาน ในการค้นหาผู้ที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทุกตำบลและหมู่บ้าน ทั้งผู้ใช้ ผู้เสพ และผู้ค้า ด้วยการสร้างการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนร่วมกับฝ่ายบ้านเมือง
“ยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ตอนนี้ไฟยาเสพติดไหม้ประเทศของเราแล้ว เราจึงต้องประกาศสงครามกับยาเสพติดอย่างเข้มข้น ต้องช่วยกันทำให้ผู้เสพเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษา บุคลากรภาครัฐในทุกสังกัดทุกพื้นที่ต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และได้รับการสุ่มตรวจทุกคน นอกจากนี้ต้องทำให้หมู่บ้านในกองทุนแม่ของแผ่นดินทั้ง 100% ต้องสะอาด ต้องไม่มีผู้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อเป็นตัวอย่างและเฝ้าระวังไม่ให้ยาบ้าแพร่เข้าไปในหมู่บ้านได้ โดยมี อปท. เป็นหน่วยในการสนับสนุนด้านงบประมาณบริหารจัดการแก้ไขปัญหายาเสพติด” นายสุทธิพงษ์กล่าว
นายสุทธิพงษ์กล่าวต่อว่า ผลจากการประชุมวันนี้จะได้มีการตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงมหาดไทย โดยอธิบดีกรมการปกครอง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงาน ป.ป.ส. พร้อมทั้งมุ่งมั่นทุ่มเทขับเคลื่อนงาน ไม่นำปัญหาและข้อจำกัดมาเป็นอุปสรรคในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบบำบัดรักษา เราจะทำด้วยความรัก ความเมตตา ในการทำให้คนที่หลงผิดเป็นคนดีกลับสู่อ้อมอกพ่อแม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์กราดยิงที่ จ.หนองบัวลำภูนั้น ในส่วนของการขยายผลเครือข่ายยาเสพติดที่ผู้ก่อเหตุไปซื้อยานั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า เดี๋ยวก็คงไปสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม แต่ก่อนวันก่อเหตุนิติเวชของ รพ.อุดรฯ ตรวจไม่พบสารเสพติด แสดงว่าไม่ได้เสพก่อนก่อเหตุ 72 ชม. แต่ต้นปีจากการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบยาบ้า 1 เม็ดที่ห้องของผู้ก่อเหตุ เชื่อว่าเขาเป็นระดับผู้เสพรายย่อยในพื้นที่ ไม่ได้มีเครือข่ายใหญ่โต แต่เราไม่ทิ้งประเด็นอะไร ต้องไปสืบสวนสอบสวนต่อ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวด้วยว่า ส่วนการครอบครองอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ที่เกษียณไปแล้ว จะนำมาทบทวนถึงผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติในการครอบครอง เช่นมีประวัติคดีอาญา จิตเวช กำลังตั้งแนวทางร่วมกับมหาดไทยแก้ปัญหา อันไหนที่ควรเพิกถอนเราก็จะเพิกถอนนำปืนกลับคืนมา
'เหลิม' ยึดโมเดล 'แม้ว'
ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมืองนครราชสีมา พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 แถลงข่าวยุทธการกำแหงสงคราม/1 ปฏิบัติการหักขาม้า และประกาศสงครามยาเสพติดในพื้นที่ 8 จังหวัดอีสานตอนล่าง ประกอบด้วย นครราชสีมา, ชัยภูมิ, บุรีรัมย์, สุรินทร์, ศรีสะเกษ, อุบลราชธานี, อำนาจเจริญ และยโสธร
ทั้งนี้ พล.ต.ท.สมประสงค์ระบุว่า ในพื้นที่ภาค 3 ทุกสถานี โรงพักทุกแห่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องตรวจด้วย เพื่อให้การแพร่ระบาดยาเสพติดมันหมดไป โอกาสเป็นทุกคนมีได้หมด อย่างที่เป็นข่าว
วันเดียวกัน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ปรึกษาคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในเรื่องการปราบปรามยาเสพติด พรรคเพื่อไทยเคยตั้งศูนย์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด แต่รัฐบาลนี้ 8 ปี ยังนับไม่ถูก ไม่เคยสนใจการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มีแค่ข้อเดียวที่พูดถึง จะไปแก้ไขอะไรได้ ตนจะเสนอพรรคปราบปรามยาเสพติดโดยเด็ดขาด เอาโมเดลของโทนี่ วูดซัมมาเสนอ เติม และแก้ไข
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า 8 ปีปฏิรูปตำรวจ รัฐบาลทำอะไรกันบ้าง เขียนแผนยุทธศาสตร์ชาติ เรื่องปราบยาเสพติด เขียนไว้แค่บรรทัดครึ่ง ยุคทักษิณ 1 ปราบปรามยาอย่างถึงลูกถึงคน การไปปราบไม่ใช่ไปกราบ ต้องมีคนตาย แม้แต่ยูเอ็นยังชื่นชม นโยบายการปราบปรามสมัยทักษิณ ยาบ้า 400 บาทต่อเม็ด สมัยตนยาบ้า 300 บาทต่อเม็ด ตอนนี้ 3 เม็ด100 บาท ดังนั้นการทำงานต้องเป็นระบบ สกัดสารตั้งต้น สกัดการเคลื่อนไหวของเงิน ระบบโพยก๊วน ป้องกันลักลอบตามแนวชายแดน ปราบปราม บำบัดรักษา สร้างแนวร่วมของประชาชนตามแนวชายแดน รัฐบาลนี้ไม่เคยไปแนวชายแดนแถว จ.เชียงราย
ที่รัฐสภา นายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้าน แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องสำคัญคือการยื่นญัตติของเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาปัญหากรณีโศกนาฏกรรม จ.หนองบัวลำภู เรื่องที่จะขอหารือมีทั้งเรื่องการปราบปรามยาเสพติด การควบคุมการใช้อาวุธปืน และเรื่องอื่นๆ ที่ควรจะมาพูดกันในสภา แต่การยื่นญัตติดังกล่าวต้องใช้เสียงสมาชิกสภา 1 ใน 3 หรือ 243 คนของจำนวนสมาชิกรัฐสภา แต่เสียงของฝ่ายค้านมีอยู่ไม่ถึง 210 เสียง จึงต้องขอความร่วมมือไปยัง ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลและ ส.ว.ร่วมลงชื่อขอยื่นญัตติดังกล่าว ทราบว่ามี ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลหลายคนสนใจที่จะร่วม ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมรายชื่อ แต่จะได้ครบหรือไม่นั้นยังไม่ทราบ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘หนู’ ลั่นฟังแค่ ‘อิ๊งค์’ ยันร่วมรัฐบาลเป็นไฟต์บังคับ ‘ทักษิณ’ พูดไม่นำพา
"อนุทิน" ลั่น! รับสัญญาณจากนายกฯ อิ๊งค์เท่านั้น ยันที่ "ทักษิณ" พูดไม่ได้หมายถึงรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย "ท่านทักษิณพูดถึงพรรคที่ไม่เข้าร่วมประชุม ผมก็ไม่นำพาไปฟังอะไรมาก"
ใต้อ่วม! ทางรถไฟ-ถนนขาด
ฝนตกหนักน้ำท่วม เส้นทางลงใต้อัมพาต ทางขาดทั้งรถไฟและถนนสายเอเชีย รถไฟไปต่อไม่ได้ ติดค้างที่ชุมพรเพียบ ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก ส่วนที่นครศรีฯ น้ำทะเลจ่อหนุนซ้ำเติม
เตือนภัยบุหรี่ไฟฟ้า ผสมนํ้ายาดองศพ
เตือนภัยบุหรี่ไฟฟ้า พบน้ำยาดองศพ สารก่อมะเร็งในบุหรี่ไฟฟ้าเพียบ เสี่ยงเกิดมะเร็ง แนะผู้ปกครองสอดส่องพฤติกรรมบุตรหลาน ย้ำเตือนเด็กและเยาวชนอย่าหลงเชื่อค่านิยมผิดๆ
บึ้มงานกาชาด สอบเกียร์ว่าง! ตำรวจอุ้มผาง
"ผบ.ตร." สั่งสอบตำรวจพื้นที่ปล่อยปละละเลยหรือไม่ เหตุ 2 คนร้ายปาระเบิดกลางเวทีรำวงงานกาชาดอุ้มผาง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เจ็บ 48 คน "อุ๊งอิ๊ง"
ปชน.กระทุ้งกต. ปรับท่าทีเชิงรุก เร่งช่วย4ลูกเรือ
กต.นัดถกเมียนมา 19 ธ.ค.นี้ ช่วยลูกเรือไทย 4 คน “โรม” ผิดหวังคำตอบทางการ
แม้วยันเกาะกูดของไทย ไม่ใช่‘ควาย’ยกให้เพื่อน
“ทักษิณ” ลั่นล้านเปอร์เซ็นต์เกาะกูดเป็นของไทย ใครจะบ้ายกให้