พลังดูดดีลลับดูไบ จับตาต้อน ‘ก๊วนธรรมนัส’ เข้าเพื่อไทยต่อสายน้อง ‘บิ๊กป้อม’

.vce-row-container .vcv-lozad {display: none}

ประธานวิปรัฐบาลติงฝ่ายค้าน ขอเปิดสภาพูดเรื่องโศกนาฏกรรมหนองบัวลำภู ไม่สงสารหรือผู้คนเศร้าสลดกันทั้งประเทศ เหน็บแลนด์สไลด์ก็ว่ากันไป แต่ไม่ใช่จำนำข้าวกลับมาอีก ขณะที่เลขาฯ เพื่อไทยฟุ้งได้ ส.ส.เกินครึ่งสภาแน่ ย้ำแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคส่งชื่อ 3 คน ส่วนประชาธิปัตย์ตั้งเป้าโกย 80 ส.ส.

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2565 นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร  เตรียมหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านในวันที่ 10 ต.ค. เพื่อยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า ถือเป็นเรื่องปกติของฝ่ายค้านที่จะยื่น ก็แล้วแต่เขา แต่ถ้านำเรื่องโศกนาฏกรรมหนองบัวลำภูมาพูด ก็จะไม่สงสารหรือ   เป็นเรื่องที่คนรู้สึกเศร้าสลดทั้งประเทศ  ส่วนเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติด ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลดูว่าจะยกเครื่องอย่างไร เชื่อว่าฝ่ายค้านคงทราบข่าวว่ารัฐบาลจะยกเครื่องเรื่องการปราบปรามยาเสพติด จึงจะเคลมตรงนี้

"ผมเห็นว่ามีเวลาอีกตั้ง 4 เดือน จะรีบยื่นไปไหน ไม่รู้หรือว่าขณะนี้ทุกคนทำงานช่วยเหลือเรื่องอุทกภัย ผมคิดว่าเลื่อนมาอีกสักนิดหนึ่ง ให้รอดูว่ารัฐบาลทำอย่างไร แล้วค่อยยื่นก็ได้ อย่างไรก็ตาม เพิ่งอภิปรายไม่ไว้วางใจไปหลายเรื่อง แต่ก็ดี รัฐบาลจะได้ชี้แจงผลงานว่าได้ทำงานอะไรให้กับประชาชนบ้าง เพราะเท่าที่เห็นก็มีผลงานจำนวนมาก"

นายนิโรธกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมประกาศ 3 ยุทธศาสตร์เพื่อชัยชนะแบบแลนด์สไลด์ ในวันที่ 9 ตุลาคมนี้ว่า  แต่ละพรรคการเมืองก็จะมียุทธศาสตร์ของพรรค ก็ว่ากันไป แต่ไม่ใช่ว่าจะเอานโยบายจำนำข้าวกลับมาอีก ก็รู้อยู่ว่าจำนำข้าวทำความเสียหายอย่างไร ตนไม่ได้ตื่นเต้นว่าจะต้องรอฟัง และขอให้อดใจรอดูพรรคพลังประชารัฐบ้าง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้เข้าโหมดเลือกตั้งแล้ว มองว่าแลนด์สไลด์ของเพื่อไทยจะสำเร็จหรือไม่ ประธานวิปรัฐบาลตอบว่า   เห็นแต่ละพรรคการเมืองประกาศจำนวน ส.ส. ก็เป็นพันคนแล้ว ก็ไม่ว่ากัน ตนไม่ได้ปรามาสเขา แล้วแต่ประชาชน

นายนิโรธกล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐและรัฐบาลไม่เคยตอบโต้การดาวน์เกรด หรือการบูลลี่ของฝ่ายค้าน ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน เราไม่เล่นการเมืองแบบใส่ร้ายป้ายสี ตอบโต้ ตอนนี้ก็ต้องระวัง กฎ 180 วัน ใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่นให้ระวัง การทำงานของพรรคพลังประชารัฐอย่างนี้เขาเรียกว่าเป็นสถาบันการเมือง ถึงจะเป็นพรรคเกิดใหม่ ก็รวมดาวมาบุกเบิก มีจริยธรรมคุณธรรมในการดำเนินกิจการของพรรค พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคก็ไม่เคยตอบโต้ทางการเมืองกับใคร นำพาพรรคได้ดี เป็นหัวหน้าพรรคที่ฝ่ายค้านควรเอาเป็นแบบอย่าง

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย มั่นใจว่ากฎหมายลูก 2 ฉบับจะผ่านการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ การเลือกตั้งต้องเป็นบัตร 2 ใบตามที่แก้ไข มั่นใจว่าจะไม่มีทางกลับไปเลือกตั้งแบบปี 62 ที่ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว เราต้องเลือกตั้งด้วยกติกาใหม่ ไม่ว่ากติกาไหนพรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าเราจะได้ ส.ส.มาเป็นอันดับหนึ่งและจะได้เกินครึ่งแบบแลนด์สไลด์

เมื่อถามถึงการเปิดนโยบายวันที่ 9 ต.ค. เลขาธิการพรรคเพื่อไทยบอกว่าอยากให้รอฟังวันดังกล่าว รับรองว่านโยบายที่จะเปิดออกมาจะถูกใจประชาชนให้เขาเลือกพรรคเพื่อไทยมาเปลี่ยนประเทศ นโยบายที่จะเปิดเป็นนโยบายที่จับต้องได้  และจะสร้างความหวังให้กับประชาชนในการฝ่าวิกฤตของประเทศในปัจจุบัน

ถามว่า วันดังกล่าวจะมีการเปิดแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคที่ระบุว่าจะมี 3 คนหรือไม่ นายประเสริฐตอบว่า แคนดิเดตจะยังไม่เปิด ต้องรอให้ปี่กลองเลือกตั้งดัง แต่ยืนยันมี 3 คน และทั้ง 3 คนจะเป็นความหวังให้กับประชาชน

ไม่มีปัญหากับ'ธรรมนัส'

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน ส.ส. พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย และ ส.ส.บางส่วนอาจย้ายมาร่วมพรรคเพื่อไทยว่า เห็นเพียงกระแสข่าว ยังไม่ทราบรายละเอียด คงต้องรอฟังเจ้าตัวพูดก่อน หากจะมาจริงพรรคจะรับหรือไม่นั้น ก็ต้องให้กรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณา เราจะไปพูดก่อนก็คงไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม

เมื่อถามว่า เคยมีการพูดคุยกันบ้างหรือไม่ นายวิสุทธิ์ตอบว่า สิ่งที่พรรคเพื่อไทยสนใจวันนี้ ไม่ได้สนใจใครย้ายพรรคหรือไม่ย้ายพรรค แต่ที่ให้ความสำคัญคือเหตุการที่ จ.หนองบัวลำภู และเหตุการณ์น้ำท่วม ที่แกนนำพรรคและ ส.ส.ลงไปช่วยแก้ปัญหา เรื่องของพรรคเศรษฐกิจไทย คงต้องรอฟังการประชุมใหญ่ของเขาวันที่ 10 ต.ค.ก่อน

ถามอีกว่า ถ้า ร.อ.ธรรมนัสย้ายมาจริง จะมีปัญหาอะไรหรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า เลือกตั้งรอบนี้ตนลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ผ่านมาไม่ได้มีปัญหากับ ร.อ.ธรรมนัสหรือใครทั้งสิ้น ทำงานช่วยประชาชน ไม่เป็นศัตรูกับใครทางการเมือง ปัญหาของตนคือความยากจน ไม่ได้มองนักการเมืองคนอื่นเป็นปัญหา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเคลื่อนไหวพรรคการเมืองที่น่าจับตาในช่วงเวลานี้ เพื่อเตรียมความพร้อมไปสู่การเลือกตั้ง ส.ส.ภายใน 6 เดือนข้างหน้านี้ โดยพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ภายใต้การนำของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา หัวหน้าพรรค ซึ่งได้นัดประชุมใหญ่พรรคในวันที่ 10 ต.ค. เวลา 14.00 น. ที่สโมสรเทศบาลเมืองพะเยา จ.พะเยา เพื่อหารือในหลายวาระ ทั้งการปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ การปรับเปลี่ยนโลโก้พรรค และอื่นๆ  เพื่อขับเคลื่อนการทำงานให้พร้อมสำหรับการเลือกตั้ง

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส ผู้ซึ่งมีความสนิทสนมกับนายใหญ่ดูไบ นายทักษิณ ชินวัตร รวมถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. หรือบิ๊กป๊อด  ได้มีการติดต่อขอเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทยในศึกเลือกตั้งครั้งหน้าแล้ว โดยได้มีการฝากฝังลูกน้อง คือ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยจำนวนหนึ่งสำหรับการลงส.ส.เขต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขณะที่บางคนยังตัดสินใจว่าจะกลับมาอยู่พรรคพลังประชารัฐหรือไม่

สำหรับ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยที่เป็นครอบครัวธรรมนัสขณะนี้มี ส.ส.จำนวน 14 คน ได้แก่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา, นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร เลขาธิการพรรค, นายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา, นายเกษม ศุภรานนท์ ส.ส.นครราชสีมา, นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี, นายพรชัย อินทร์สุข ส.ส.พิจิตร, นายปัญญา จีนาคำ ส.ส.แม่ฮ่องสอน

พล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนงค์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.สมุทรสาคร, นางทัศนาพร เกษเมธีการุณ ส.ส.นครราชสีมา, นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.ตาก, นายยุทธนา โพธสุธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายสมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.ขอนแก่น

ขณะที่ 3 ส.ส.ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ได้แก่ นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ส.ส.ตาก, นายณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์  ส.ส.สุรินทร์ และนายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ ส.ส.อุบลราชธานี โดยความเคลื่อนไหวทางการเมืองของพรรคเศรษฐกิจไทยนี้จะมี ร.อ.ธรรมนัสเป็นผู้ให้ข่าวและแสดงความชัดเจนเพียงคนเดียว

นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันว่า จากการที่พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งทั้ง กทม. และ อบจ.กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด รวมถึงโพลที่ออกมาว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้รับความนิยมสูงสุดประชาชนต้องการให้เป็นนายกฯ มากที่สุด ทำให้มีความกังวลว่าผู้มีอำนาจอาจไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง เพราะเลือกแล้วเขาจะแพ้ โดยใช้กลไกขององค์กรอิสระที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าเรื่องของกฎหมายลูก ที่อาจถูกทำแท้งไม่ให้มีกติกาเลือกตั้ง รวมถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่ได้ทำหน้าที่ต่อ แต่มีคนไม่ยอมรับแล้วมีการชุมนุมขับไล่

"อาจมีคนบางกลุ่มที่เคยออกมาสร้างสถานการณ์นำไปสู่การยึดอำนาจออกมาเคลื่อนไหวเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมาได้   บนเวทีของการเลือกตั้ง คือเครื่องมือของประชาชน และเป็นจุดแข็งของพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย แต่จุดแข็งของผู้มีอำนาจในปัจจุบันคือการใช้ปืน ใช้อาวุธ  ใช้รถถัง ดังนั้นสิ่งที่เราควรทำในปัจจุบัน ต้องไม่สร้างเงื่อนไขให้กลุ่มผู้มีอำนาจนำมาสร้างสถานการณ์เพื่อไปสู่จุดนั้น ต้องช่วยกันประคับประคองสถานการณ์ อดทนรอวันเลือกตั้งในอีกไม่กี่เดือนก่อนที่สภาหมดอายุ ปล่อยให้เป็นตามกระบวนการประชาธิปไตยของสภาเพื่อไปสู่การเลือกตั้งที่เป็นจุดแข็งของประชาชน" แกนนำเสื้่อแดงยุคเผาบ้านเผาเมืองกล่าว

ปชป.ตั้งเป้า ส.ส.80 ที่นั่ง

นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เห็นชัดเป็นรูปธรรม และเป็นที่ยอมรับแม้แต่ในสายตานานาชาติ ขณะที่นโยบายที่นายประเสริฐคุยโวนั้น ไม่แน่ใจว่าจะสร้างความหวัง หรือเป็นแค่ความหวังแบบลมๆ แล้งๆ ให้กับประชาชน เพราะถึงเวลาจริงกลับเกิดทุจริตมโหฬารอย่างที่ศาลได้มีคำตัดสินมาแล้วในหลายต่อหลายคดี ขนาดอดีตนายกฯ ยังหนีความรับผิดชอบไปอยู่ต่างประเทศ ปล่อยอดีตรัฐมนตรีให้ติดคุกโดยไม่เหลียวแล ดังนั้นอยากให้ประชาชนพิจารณาให้ดีว่า นโยบายไหนที่จะช่วยพาประเทศฝ่าวิกฤต  หรือว่าจะยิ่งทำให้ประเทศวิกฤตขึ้นไปอีก

“นโยบายของพรรคพลังประชารัฐเป็นนโยบายที่เข้าถึงคนทุกกลุ่ม ไม่ใช่แค่กลุ่มคนที่เลือกพรรคตัวเองอย่างแน่นอน ดังนั้นคงไม่จำเป็นต้องให้นายประเสริฐมาแนะนำให้ท่านนายกฯ หาทางลง แต่อาจจะต้องเป็นนายประเสริฐเองที่ควรหาทางกลับบ้านให้เจอ เพราะทุกวันนี้นับวันก็ยิ่งออกทะเลไปไกล ก่อนที่ประชาชนจะหาทางลงให้กับนายประเสริฐด้วยการไม่เลือกกลับเข้าสภาอีก” นายธนกรกล่าว

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าซึ่งจะมีเขตเลือกตั้ง 400 เขต และ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ หรือ ปาร์ตี้ลิสต์ 100  เขต ซึ่งวันนี้พรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อมในการวางตัวผู้สมัครในเขตเลือกตั้งทั่วประเทศแล้ว ในเรื่องของ ส.ส.เขตนั้น ที่เป็นพื้นที่ ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นพื้นที่แข่งขันและมีโอกาสมี 100 เขตเลือกตั้งด้วย โดยประชาธิปัตย์ตั้งเป้าการได้ ส.ส. ทั้งจาก ส.ส.เขตและระบบบัญชีรายชื่ออีกไว้ที่ 80 ที่นั่ง

โดยในภาคเหนือ ประชาธิปัตย์จะได้ ส.ส.เพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ที่นั่ง เช่นเดียวกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ก็จะมี ส.ส.เพิ่มขึ้นเช่นกัน เพราะคนของพรรคได้มีการเคลื่อนไหวทำงานการเมืองอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งมีผู้ใหญ่ในพรรคให้การสนับสนุนด้วย เช่นเดียวกับในสนาม กทม. พรรคก็มั่นใจว่าจะได้ ส.ส.เข้ามา 6-7 ที่นั่งด้วยกัน สำหรับสนามของภาคใต้ที่ผ่านมา ประชาธิปัตย์ทำงานหนักงานเพื่อให้ได้ ส.ส.กลับคืนมา และตั้งเป้าที่จะได้ ส.ส.กลับมาไม่ต่ำกว่า 40 ที่นั่ง จากจำนวน 58 ที่นั่ง ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาประชาธิปัตย์ได้ ส.

ส.เพียง 22 ที่นั่ง

วันนี้พรรคอยู่ระหว่างการร่างนโยบายเพื่อใช้เป็นยุทธศาสตร์ในการพัฒนาและแก้ปัญหาประเทศ เพื่อสร้างความอยู่ดีมีสุขให้กับประชาชนในทุกภาคส่วน โดยหนึ่งในหลายๆ นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า คือเรื่องการ ประกันรายได้จากภาคเกษตรกรไปสู่อาชีพอื่นๆ รวมทั้งผู้ที่อยู่ภาคส่วนของแรงงาน ที่จะต้องมีการเข้าไปดูแลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม.

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สส.เพื่อไทย ดักคอ 'ก้าวไกล' เสนอเพิ่มวันประชุมสภาฯ อย่าหวังเอาคะแนนลอยๆ

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวกรณีที่ฝ่ายค้านเสนอให้เพิ่มวันประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาพิจารณากฎหมายสำคัญให้มากขึ้นว่า ขณะนี้ยังไม่มีการหารือกัน แต่หากย้อนไปดูในอดีต เราจะมีการประชุมสภาฯ