แจงศาลกม.ลูกไม่ขัดรธน. พปชร.ฟุ้งเหนือกระแสดี

กกต.แจ้งพรรคการเมือง-ผู้สมัคร ส.ส. ยื่นรายละเอียดการหาเสียงเลือกตั้ง "อิทธิพร" ส่งคำชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญ ยันร่าง กม.ลูก 2 ฉบับไม่ขัด รธน. พปชร.เปิดตัว 6 ผู้สมัครภาคเหนือ “ลูกชายบุญทรง” ลงชิงเชียงใหม่เขต 5  ฟุ้งกระแสดีมากไม่หวั่นแลนด์สไลด์ "จุรินทร์" ชี้ไร้สัญญาณยุบสภา ลั่น ปชป. พร้อมเลือกตั้งได้เกิน 52 ที่นั่งแน่ ชทพ. เร่งทำนโยบาย “ท็อปเทน”

เมื่อวันที่​ 6 ตุลาคม สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งว่า การดำเนินการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการเลือกตั้งทั่วไปกรณีครบอายุของสภา ผู้ที่ประสงค์จะหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง    จะต้องยื่นรายละเอียดเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งต่อผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด หรือกรุงเทพมหานคร ส่วนพรรคการเมืองหรือผู้ที่ประสงค์จะหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ สามารถยื่นรายละเอียดเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งได้ที่สำนักกฎหมายและคดี สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ชั้น 8   ในวันเวลาราชการ 08.30-16.30 น.  

สำหรับการแจ้งมีรายละเอียด ดังนี้  การแจ้งก่อนดำเนินการหาเสียงเลือกตั้ง   1.กรณีผู้ช่วยหาเสียง ให้แนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ช่วยหาเสียงทุกคน โดยผู้ช่วยหาเสียงต้องอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง 2.การหาเสียงเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้แนบภาพถ่ายหน้าชื่อบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ทุกช่องทางที่แจ้ง (แคปหน้าจอ) ระบุ Uniform Resource Locator (URL) ของสื่ออิเล็กทรอนิกส์ 

ส่วนการแจ้งภายใน 10 วัน หลังจากปิดรับสมัคร 1.กรณีพาหนะหาเสียง ให้แนบสำเนารายการจดทะเบียนรถยนต์ของทุกคัน พร้อมแนบสำเนาใบขับขี่หรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ขับขี่ และแนบภาพถ่ายรถยนต์ 2.กรณีจัดสถานที่หรือเวทีโฆษณาหาเสียง จะต้องระบุวันเดือนปี สถานที่ กลุ่มเป้าหมาย จำนวนและผู้ร่วมปราศรัยให้ชัดเจน

ทั้งนี้ เอกสารในการแจ้งดังกล่าวผู้สมัครต้องลงลายมือชื่อด้วยตนเอง โดยเอกสารประกอบที่นำส่งทุกฉบับ ให้ผู้สมัครลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง แต่ในส่วนของสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาใบขับขี่ให้ผู้ที่มีชื่อปรากฏในบัตรหรือใบขับขี่เป็นผู้ลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง

นอกจากนี้ กรณีผู้สมัครยื่นหนังสือด้วยตัวเอง ให้แนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้สมัครด้วย และกรณีที่ผู้สมัครมิได้ยื่นหนังสือด้วยตัวเอง สามารถทำหนังสือมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทนได้ โดยแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ พร้อมปิดอากรแสตมป์ 30 บาท   ซึ่งกรณีดำเนินการเรื่องเดียวครั้งเดียวปิดอากรแสตมป์ 10 บาท

แจงศาล 2 กม.ลูกไม่ขัด รธน.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.​ ได้ส่งคำชี้แจงไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว กรณีศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยว่า 1.ร่างพระราชบัญญัติ​ประกอบรัฐธรรมนูญ​ (พ.ร.ป.)​ ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่...) พ.ศ... มาตรา 3 มาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 9 และมาตรา 10 มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 45 มาตรา 83 มาตรา 86 มาตรา 90 มาตรา 91 และมาตรา 258 ก.ด้านการเมือง (2) หรือไม่ และตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ และร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่...) พ.ศ.... มาตรา 25 มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 93 หรือไม่

2.ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่..) พ.ศ.... มาตรา 26 มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 94 หรือไม่ และ 3.ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่..) พ.ศ.... ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ และศาลรัฐธรรมนูญมีหนังสือแจ้งให้ประธาน กกต. ยื่นคำชี้แจงประเด็นที่กำหนดภายใน 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวในวันที่ 8 ต.ค. ทั้งนี้ มีรายงานว่าในคำชี้แจงดังกล่าว ประธาน กกต.ยืนยันว่า กกต.เห็นว่าร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับไม่มีปัญหาขัดรัฐธรรมนูญ

ที่ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร. เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค จำนวน 6 คน  ประกอบด้วย นายจำลอง รุ่งเรือง อดีต ส.ส.แม่ฮ่องสอน พรรคกิจสังคม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 แม่ฮ่องสอน, พ.ต.เฉลิม ปิยะศิริวัฒน์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองยวมใต้ อ.แม่สะเรียง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 แม่ฮ่องสอน, นายเดชนัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ อดีตรองโฆษกกระทรวงพลังงาน และบุตรชายนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 เชียงใหม่, นายสันติ ตันสุหัช อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคความหวังใหม่ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 7 เชียงใหม่, นายนรพล ตันติมนตรี ที่ปรึกษา รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 11 เชียงใหม่ และนายพิชิต โมกศรี อดีตปลัดเทศบาลนครน่าน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 น่าน 

นายสันติกล่าวว่า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 6 คน มีประสบการณ์ในการดูแลประชาชน ซึ่งพื้นที่ภาคเหนือ พปชร.ลงพื้นที่ไปดูแลพัฒนา โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ได้พัฒนาแหล่งน้ำ แก้ปัญหาภัยแล้ง กระแสพรรคในภาคเหนือดีมาก ส่วนโพลต่างๆ ระบุคะแนนนิยมของพรรคไม่ค่อยดีนั้น โพลต่างๆ ไม่ได้มีความแม่นยำ จากการที่ติดตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตรลงพื้นที่ไปในทุกภูมิภาค ได้รับการตอบรับกระแสดีมาก

ส่วนที่ปรากฏภาพ ส.ส.พปชร.หลายคนไปร่วมงานวันคล้ายวันเกิดนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ จ.บุรีรัมย์นั้น นายสันติกล่าวว่า จริงๆ แล้ว ส.ส.ทุกคนเป็นเพื่อนรัก สนิทสนมกัน ฉะนั้น วันดีๆ วันเป็นมงคลแบบนี้ ส.ส.บางคนมีเวลาจึงไปร่วมงาน ไปให้เกียรติกัน เป็นไปไม่ได้ที่ ส.ส.ไปเจอกับใครในงานแล้วจะต้องถูกดูด ทั้งนี้เป็นเรื่องธรรมดา ถ้ามี ส.ส. 1-2 คนที่เขาจะไปก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เมื่อถามย้ำว่า มั่นใจว่าจะมีนโยบายสู้กระแสแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยได้ เลขาธิการ พปชร.กล่าวว่า คำว่าแลนด์สไลด์เป็นคำเปรยเฉยๆ มั่นใจ พปชร.มีนโยบายที่ดี มีผลงานมากมาย แต่ไม่ได้ประชาสัมพันธ์ ตนว่าอยู่ที่ประชาชนว่าใครมีผลงาน มีความซื่อสัตย์ สุจริตต่อบ้านเมืองมากกว่ากัน เชื่อว่าเรื่องความซื่อสัตย์เป็นจุดมุ่งหมายของประชาชน ดูจาก พล.อ.ประวิตรและ พล.อ.ประยุทธ์มีความซื่อสัตย์สูงสุด 

ยันไร้สัญญาณยุบสภา

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงแนวโน้มการยุบสภาภายหลังการประชุมเอเปกว่า ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณ ไม่มีอะไรทั้งสิ้นในเรื่องยุบสภาจนถึงวันนี้ ถ้ามีความเห็นใดๆ ในทางที่จะนำไปสู่การยุบสภา อย่างน้อยนายกรัฐมนตรีคงได้มีการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล

นายจุรินทร์กล่าวว่า พรรคพร้อมที่จะเข้าสู่สนามเลือกตั้ง โดยได้เตรียมตัวมานานพอสมควรแล้ว ทั้งในแง่ตัวบุคคลผู้สมัคร ส่วนเรื่องนโยบาย ขณะนี้ได้มีการดำเนินการไปเกือบ 80-90% มั่นใจว่าเสียงตอบรับจากประชาชนยังดีอยู่ และจะดีขึ้นกว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมา ได้เกิน 52 ที่นั่งแน่นอน โดยในวันเสาร์นี้หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จะนำ "จุรินทร์ ออนทัวร์" ที่ จ.นครสวรรค์ ไปเปิดตัวผู้สมัคร และจะทยอยเปิดตัวในพื้นที่อื่นๆ ด้วยเป็นลำดับ ส่วนปักษ์ใต้ วางกำหนดล่วงหน้าไว้แล้วว่าจะไปออนทัวร์กี่จังหวัด ซึ่งจะไปจนครบ รวมทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครด้วย โดยสัปดาห์หน้า นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ จะมอบหมายภารกิจสำคัญในการรุกพื้นที่ กทม.ให้กับนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ และ น.ส.วทันยา บุนนาค

ที่ที่ทำการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรค ชทพ. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค โดยนายปรเมศวร์ กุมารบุญ โฆษกพรรค ชทพ. แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแต่งตั้งประธานคณะกรรมการดำเนินงานตามข้อบังคับพรรค ชทพ. 6 คณะ ดังนี้ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา เป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการ, นายนิกร จำนง เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์, นายอนุรักษ์ จุรีมาศ เป็นประธานคณะกรรมการกฎหมายและการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร, นายธีระ วงศ์สมุทร เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินกิจกรรมของพรรค สาขาพรรค และตัวแทนประจำจังหวัด, นายเสมอกัน เที่ยงธรรม เป็นประธานคณะกรรมการประชาสัมพันธ์และเทคโนโลยีสารสนเทศ, นายสัมพันธ์ แป้นพัฒน์ เป็นประธานคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม

นายนิกรกล่าวว่า สิ่งสำคัญของพรรคการเมืองคือนโยบายพรรค ครั้งนี้จะค้นหาปัญหาของประชาชนที่จำเป็นเร่งด่วน 10 เรื่อง หรือท็อปเทน เพราะหัวหน้าพรรคชื่อเล่นว่าท็อป เราจะเสนอให้ประชาชนได้เลือกนโยบาย ไม่ใช่ตัวบุคคล เราจะเร่งรัดทำเรื่องนี้เพื่อกำหนดเป็นนโยบาย สำหรับเป้าหมาย ส.ส.ของพรรคไม่ต่ำกว่า 25 ที่นั่งนั้น จะสามารถทำให้เสนอชื่อหัวหน้าพรรคตัวเองเป็นนายกฯ ได้

นายวราวุธกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า คงจะคล้ายๆ ที่เคยมีการอภิปรายกันมา รัฐมนตรีในสัดส่วนของ ชทพ. ทั้งตนและนายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมจะตอบคำถามหากมีข้อสงสัยจากฝ่ายค้าน

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึง การเตรียมความพร้อมของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งที่มีขึ้น นายพิธากล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. จะลงพื้นที่ภาคอีสาน 7 จังหวัด รวมถึงภาคตะวันออกและกลางเดือนนี้จะมีนโยบายแรกออกมา ซึ่งอยากได้ ส.ส.เขตครบทุกภาค ซึ่งคิดไว้บ้างแล้วว่าหลังการเลือกตั้งจะจับมือกับพรรคการเมืองไหน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘หนู’ ลั่นฟังแค่ ‘อิ๊งค์’ ยันร่วมรัฐบาลเป็นไฟต์บังคับ ‘ทักษิณ’ พูดไม่นำพา

"อนุทิน" ลั่น! รับสัญญาณจากนายกฯ อิ๊งค์เท่านั้น ยันที่ "ทักษิณ" พูดไม่ได้หมายถึงรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย "ท่านทักษิณพูดถึงพรรคที่ไม่เข้าร่วมประชุม ผมก็ไม่นำพาไปฟังอะไรมาก"