ยื่นซักฟอก1พ.ย. กกต.ชี้ทำตามกม.

แบบนี้แลนด์ต้องสไลด์แล้ว! "ชลน่าน" ขู่ เปลี่ยนตัวผู้สมัคร ส.ส. ใครคะแนนนิยมไม่ดีโดนแน่ ฟุ้งคนใต้ชอบเพื่อไทยเพิ่มขึ้น จ่อยื่นซักฟอกแบบไม่ลงมติ 1 พ.ย. ฟันธง 90% ยุบสภา แต่วอน "บิ๊กตู่" ให้ยุบหลัง กม.เลือกตั้งบังคับใช้ "ประเสริฐ" เย้ยงูเห่าย้ายพรรคแล้วสอบตก จ่อเรียกคนร่วมงานวันเกิด "เนวิน" เข้าแจง ด้าน กกต.แจงกฎเหล็กผ่อนคลายไม่ได้! เหตุ กม.เลือกตั้งเขียนช่วงเวลาหาเสียงไว้ชัด

ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค พรรคเพื่อไทยจัดโครงการให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งและนโยบายพรรค โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยแกนนำพรรค, ส.ส., ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เข้าร่วมรับฟังกันอย่างคับคั่ง 

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า หลังจาก กกต.ประกาศว่าได้เข้าสู่การเลือกตั้งอย่างสมบูรณ์แบบเสมือนมีพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งแล้ว ซึ่งเราสามารถหาเสียงได้ จึงได้เชิญว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.และ ส.ส. มาฟังการบรรยาย ขณะนี้ทางพรรคได้ตั้งตัวคณะกรรมการสรรหาไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว แม้พรรคประกาศให้เป็นว่าที่ผู้สมัคร แต่หากทำไพรมารีโหวต ไม่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน จะเชิญมาพูดคุยปรับรูปแบบการทำงาน หากคะแนนยังไม่ดี พรรคขอสงวนสิทธิ์ที่จะพิจารณาหาผู้ที่มีความเหมาะสมแทน เพราะหลายพื้นที่มีการต่อสู้หนักมาก ที่เราอาจยังไม่ได้รับความนิยม กระแสนิยมของพรรคเพื่อไทยทั้งจากสำรวจทางตรงและทางโพล เราได้รับความไว้วางใจจากทุกภูมิภาค แม้แต่ภาคใต้คะแนนนิยมขยับขึ้นมาเป็นเลขสองหลัก ถึงร้อยละ 17-19 แสดงว่าเราได้รับการยอมรับมากขึ้น

หัวหน้าพรรคเพื่อไทยยังให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมการเตรียมยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า พรรคฝ่ายค้านได้ประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว พรรคมีมติชัด เมื่อเปิดสมัยประชุมวันที่ 1 พ.ย. จะเริ่มยื่นญัตติทันที ญัตตินี้เป็นเรื่องการสอบถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาให้กับคณะรัฐมนตรี (ครม.) 

เมื่อถามว่า หลังการประชุมเอเปกจะมีแนวโน้มยุบสภาหรือไม่ นพ.ชลน่าน ตอบว่า ขอขยับตัวเลขขึ้นมาร้อยละ 90 โดยเหตุผลการยุบสภาอยู่ 2 ข้อ คือ 1.ผู้มีอำนาจเห็นว่าตนเองได้เปรียบทางการเมือง ที่จะใช้ในการเลือกตั้งเพื่อสืบทอดอำนาจต่อไป 2.เป็นเรื่องประเด็นเงื่อนไขทิศทางทางการเมือง นั่นคือความเห็นและความต้องการของประชาชน ถ้ากระแสประชาชนต่อต้าน ไม่เห็นด้วยกับการอยู่ในตำแหน่งของนายกฯ และมีการขอคืนอำนาจ ก็จะเป็นตัวเร่งให้ตัดสินใจยุบสภา ดังนั้นหลังเอเปกมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์จะประกาศยุบสภา อาจจะเป็นธันวาคมหรือมกราคมก็แล้วแต่ แต่ใจเขาอยากจะอยู่ครบเทอมแน่นอน 

ถามว่า กังวลหรือไม่ที่อาจจะยุบสภาและรักษาการยาวจนถึงช่วงเดือนมีนาคม 2566 นพ.ชลน่านกล่าวว่า เงื่อนไขนั้นจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อไม่มีกฎหมายเลือกตั้ง เรากังวลในเรื่องที่ไม่มีกฎหมายเลือกตั้ง ขณะนี้อยู่ในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ ฉะนั้นประมาณอีก 1 เดือนน่าจะทราบผล กรณีถ้าศาลวินิจฉัยว่าเรื่องนี้เป็นสาระสำคัญและขัดกับรัฐธรรมนูญ กฎหมายจะตกทั้งฉบับ ก็จะต้องไปเข้าสู่กระบวนการใหม่ เงื่อนไขนี้จะเกิดขึ้นในกรณีที่ยุบสภาแล้วไม่มีกฎหมายเลือกตั้ง ตนเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่น่าจะทำ เพราะจะเป็นการกระตุ้นหรือเติมเชื้อเพลิงให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยมีพลังมากขึ้น แล้วจะเกิดความวุ่นวาย 

หัวหน้าพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์กรณีการยื่นข้อเสนอให้ กกต.ทบทวนกฎเหล็ก 180 วันว่า เบื้องต้นทำหนังสือหารือไปก่อน ได้ส่งหนังสือไปแล้ว ส่วนเรื่องที่ขอยื่นแก้ไขระเบียบ โดยเราได้เสนอร่างระเบียบไปแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ต้องทำให้เร็ว เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนกำลังเดือดร้อน

เมื่อถามว่า ส่วนที่ได้ย้ำกับสมาชิกไปก่อนหน้านี้เรื่องอย่ากังวลกับระเบียบ จะทำให้แพ้ นพ.ชลน่านกล่าวว่า การสัมมนาวันนี้จะทำให้เกิดความมั่นใจตามวิธีการปฏิบัติตามระเบียบของ กกต.ที่ออกมา ว่าอะไรที่ทำได้ อะไรทำไม่ได้ หรือข้อควรที่ต้องระวัง วันนี้ก็จะมีความชัดเจนในวิธีการปฏิบัติ ซึ่งอะไรที่เขากลัว โดยเฉพาะพรรค พท.ที่จะกลัวมากกว่าคนอื่น เพราะกลัวจะถูกใส่ร้าย วันนี้ก็จะเป็นการสร้างความมั่นใจ

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวเสริมว่า เรื่องการยุบสภาเราไม่กังวล เพราะเราตั้งสมมติฐานว่าการยุบสภาเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทางพรรคเตรียมความพร้อมตลอดเวลา ทั้งคน นโยบาย หรือหากลากยาวไปถึงเดือนมีนาคม อาจจะเป็นผลดีกับพรรคเพื่อไทยด้วยซ้ำ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีคนของพรรคเพื่อไทยที่ไปร่วมงานวันเกิดนายเนวิน ชิดชอบ เลขาธิการพรรคเพื่อไทยแจงว่า เรื่องนี้เราจะเรียกคนดังกล่าวมาสอบถามถึงเหตุผลที่ไปร่วมงาน แต่ไม่ถึงขั้นตั้งกรรมการสอบ เท่าที่ทราบเบื้องต้น คนนั้นได้ไปร่วมงานในทุกๆ ปีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้เป็นช่วงใกล้เวลาเลือกตั้ง ฉะนั้นประเด็นเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน พรรคจะต้องทำความเข้าใจและเรียกมาพบ 

นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เป็นสิทธิของฝ่ายค้านที่สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญ แต่อยากให้เน้นเนื้อหาสาระ ให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่มีประโยชน์ด้วย ไม่ใช่ทำเป็นเหมือนแค่อีเวนต์อีเวนต์หนึ่งแล้วก็จบไปเท่านั้น  เพราะประชาชนจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย นอกจากต้องมาทนนั่งดูฝ่ายค้านแสดงบทตัวอิจฉาผ่านหน้าจอ ยิ่งทำให้เสียเวลาแก้ปัญหาให้กับประชาชนไปเปล่าๆ ทั้งนี้ ยิ่งรัฐบาลใกล้อยู่ครบเทอม ฝ่ายค้านก็ดูเหมือนยิ่งออกมาสร้างอีเวนต์รายวัน แต่กลับหาสาระไม่ได้ นอกจากเสียดสี สาดโคลน ดิสเครดิตรัฐบาล แต่กลับป้ายสีว่ารัฐบาลแฝงหาเสียง ทั้งๆ ที่ตัวเองทำอยู่เต็มๆ แต่กลับไม่เคยหันดูตัวเอง หากยังเป็นแบบนี้อยู่ต่อไป เชื่อว่าประชาชนจะมอบบทเรียนที่สมควรให้กับฝ่ายค้านอย่างแน่นอน

ส่วนกรณีที่ระบุว่า หลังเอเปกมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์จะประกาศยุบสภา โดยอาจจะเป็นธันวาคมหรือมกราคมนั้น นายธนกรกล่าวว่า หาก นพ.ชลน่านจะทำตัวเป็นหมอเดา ก็อยากให้เริ่มทำนายพรรคตัวเองก่อนจะดีกว่า ว่าการเลือกตั้งสมัยหน้าจะเหลือกลับเข้าสภา ได้กี่คน เพราะทราบว่าในพรรคเพื่อไทยเองก็แก้ปัญหาเด็กใครเด็กมันไม่จบเหมือนกัน จน ส.ส.อาวุโสหลายท่านถึงกับส่ายหัวหนีไปอยู่พรรคอื่นกันหมด

แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีอดีต กกต.เสนอให้ กกต.ออกหลักเกณฑ์ให้พรรคและนักการเมืองช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดภัยพิบัติได้แม้ในช่วง 180 วันก่อนครบวาระสภา โดยอาศัยมาตรา 65 วรรคสามของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  2561 นั้นว่า ในเรื่องการหาเสียงนั้นจะดูเพียงมาตรา 65 อย่างเดียวไม่ได้ จะต้องดูมาตรา 64 และมาตรา 68 ประกอบกันด้วย โดยในมาตรา 68 ระบุว่าให้ กกต.กำหนดวิธีการหาเสียงเลือกตั้งให้ผู้สมัครและพรรคการเมืองต้องปฏิบัติ วิธีการหาเสียงเลือกตั้งดังกล่าวให้มีผลภายในกําหนดเวลา (1) ในกรณีที่เป็นการเลือกตั้งทั่วไปอันเนื่องมาจากการครบอายุของสภา ให้กระทำได้ ตั้งแต่ 180 วันก่อนวันครบอายุ จนถึงวันก่อนวันเลือกตั้ง (2) ในกรณีที่เป็นการเลือกตั้งทั่วไปอันเนื่องมาจากการยุบสภา หรือการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง ให้กระทำได้ตั้งแต่วันที่ยุบสภาหรือวันที่ตำแหน่งว่างลง แล้วแต่กรณีจนถึงวันก่อนวันเลือกตั้ง (3) ในกรณีมีการสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ให้กระทำได้ตั้งแต่วันที่มีคำสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ จนถึงวันก่อนวันเลือกตั้ง (4) ในกรณีมีการสั่งให้มีการออกเสียงลงคะแนนใหม่ ผู้ใดจะหาเสียงเลือกตั้งมิได้ เว้นแต่ กกต.จะมีมติเป็นอย่างอื่นโดยคำนึงถึงความสุจริตและเที่ยงธรรม

ขณะที่มาตรา 64 มีการระบุถึงการคํานวณค่าใช้จ่ายของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองสำหรับการเลือกตั้งแต่ละครั้ง สอดคล้องกับระยะเวลาตามมาตรา 68 ทั้งกรณีที่เป็นการเลือกตั้งทั่วไปอันเนื่องมาจากการครบอายุของสภา ให้คํานวณค่าใช้จ่ายที่ใช้จ่ายไปตั้งแต่ 180 วันก่อนวันที่ กกต.ประกาศให้มีการเลือกตั้ง จนถึงวันเลือกตั้ง หรือกรณีที่เป็นการเลือกตั้งทั่วไปอันเนื่องมาจากการยุบสภา หรือการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง ให้คํานวณค่าใช้จ่ายที่ใช้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ยุบสภาหรือวันที่ตำแหน่งว่างลง แล้วแต่กรณี จนถึงวันเลือกตั้ง ขณะที่มาตรา 65 นั้นระบุว่าชัดเจนว่าใช้เมื่อพ้นเวลาที่กำหนดไว้ตามมาตรา 64 แล้ว

แหล่งข่าวระบุอีกว่า ดังนั้นการอ้างมาตรา 65 วรรคสาม ว่าสามารถไม่ใช้บังคับเมื่อมีเหตุสมควรตามจำนวน หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ กกต. กำหนดนั้น จึงอยู่นอกเหนือจากช่วงเวลาตามมาตรา 64 ซึ่งหมายความว่าในช่วง 180 วัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาหาเสียงตามมาตรา 64 ประกอบมาตรา 68 กระทำได้ตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวย้ำว่า กกต.มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่รัฐสภาบัญญัติขึ้น จะไปกระทำอย่างอื่นที่ขัดกับกฎหมายไม่ได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง