“คลัง” ออกโรงโต้ ส.ส.ก้าวไกล ยันระงับสิทธิ์-ทวงเงินเราชนะไม่มั่ว ย้ำชี้แจงเงื่อนไขโครงการชัดเจน ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการเข้าใจและยินยอมหมดแล้ว เผยหากพบผิดปกติมีคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง หากฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือผิดเงื่อนไขจะแจ้งให้ชำระเงินคืน แต่ยังสามารถอุทธรณ์ได้ภายใน 15 วัน
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ระบุว่า สศค. กระทรวงการคลัง ประกาศระงับสิทธิ์และเรียกเงินคืนจากผู้ประกอบการ 2,099 ราย เพราะผิดเงื่อนไขในการร่วมโครงการเราชนะ และขอเรียกร้องไปยังกระทรวงการคลังให้ชะลอการเรียกเงินคืนจากกลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าว เพราะรายละเอียดในข้อกล่าวหายังไม่ชัดเจนเพียงพอ
นายพรชัยระบุว่า โครงการเราชนะมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือด้วยการลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน และมีส่วนช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนและผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยในการเข้าร่วมโครงการ สศค.ได้จัดทำหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และความยินยอม สำหรับผู้ประกอบการและประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ เผยแพร่หลักเกณฑ์ฯ ดังกล่าวในเว็บไซต์เราชนะ เพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชนที่จะเข้าร่วมโครงการได้รับทราบและเข้าใจหลักเกณฑ์ฯ ในการเข้าร่วมโครงการ และจะต้องให้ความยินยอมที่จะปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ฯ ดังกล่าวก่อนเข้าร่วมโครงการ
ทั้งนี้ เมื่อประชาชนและผู้ประกอบการได้ให้คำยินยอมที่จะปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการในขั้นตอนการสมัครแล้ว ประชาชนจะได้รับวงเงินสิทธิช่วยเหลือจำนวนไม่เกิน 9,000 บาท ตลอดโครงการ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แอปพลิเคชันเป๋าตัง และบัตรประจำตัวประชาชน และสามารถใช้สิทธิเพื่อชำระค่าสินค้าหรือบริการที่มีการซื้อขายหรือรับบริการกันจริงผ่านแอปพลิเคชันถุงเงินหรือเครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (เครื่อง EDC) ของผู้ประกอบการร้านค้าที่ได้สมัครและให้คำยินยอมในการเข้าร่วมโครงการแล้ว 1.3 ล้านราย ซึ่งกระทรวงการคลังจะได้โอนเงินให้ผู้ประกอบการโดยตรงในวันถัดไปตามยอดธุรกรรมการใช้จ่าย
“คลังได้ขอความร่วมมือให้ประชาชนและผู้ประกอบการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการมาโดยตลอด เพื่อควบคุมและป้องกันการกระทำผิดวัตถุประสงค์ของโครงการ เช่น การรับแลกวงเงินสิทธิเป็นเงินสด เป็นต้น นอกจากนี้ ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปแจ้งเบาะแสการกระทำที่ฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการ โดยมีประชาชนแจ้งเบาะแสให้ทราบมาอย่างต่อเนื่อง” นายพรชัยกล่าว
ผอ.สศค.กล่าวต่อว่า เมื่อ สศค.ได้รับการแจ้งเบาะแสหรือตรวจพบความผิดปกติของธุรกรรมที่เข้าข่ายฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไข จะดำเนินการระงับสิทธิชั่วคราวการใช้แอปพลิเคชันถุงเงิน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับภาครัฐ และแจ้งให้ผู้ประกอบการติดต่อกลับเพื่อชี้แจงโต้แย้งภายใน 14 วัน เมื่อครบกำหนดแล้ว จะได้นำเอกสารชี้แจงโต้แย้งของผู้ประกอบการเข้าสู่การพิจารณาตามกระบวนการ ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาตรวจสอบข้อมูลและเรื่องร้องเรียนที่มีองค์ประกอบคณะทำงานฯ จากหน่วยงานภายนอก เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และกรมบัญชีกลาง เพื่อตรวจสอบ พิจารณา และวินิจฉัยข้อมูลของผู้เข้าร่วมโครงการ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นไปด้วยความรอบคอบ
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและขยายผลการสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย โดยเมื่อคณะทำงานฯ ได้ตรวจสอบและพิจารณาแล้วเห็นว่าผู้ประกอบการกระทำการฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ฯ ดังกล่าวจริง หรือกรณีที่ผู้ประกอบการไม่ชี้แจงโต้แย้ง พร้อมส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องภายในระยะเวลาที่กำหนด จะมีหนังสือประทับตราแจ้งผลวินิจฉัยและขอให้ชำระเงินคืนให้แก่โครงการ และผู้ประกอบการสามารถอุทธรณ์ได้ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือประทับตรา
"ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนดังกล่าวนี้ ที่ สศค.ได้ออกหนังสือประทับตราแจ้งผู้ประกอบการ 2,099 ราย เมื่อวันที่ 28 ก.ย.2564 เมื่อพ้นกำหนดเวลาอุทธรณ์แล้ว กรณีไม่มีการชี้แจงหรือไม่ส่งข้อมูลหลักฐานประกอบการอุทธรณ์ หรือไม่มีการชำระเงินคืนให้แก่โครงการ รวมถึงกรณีอุทธรณ์มา แต่คณะทำงานฯ พิจารณาแล้วเห็นว่ายังมีพฤติกรรมฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการ ก็จะมีหนังสือแจ้งผู้ประกอบการอีกครั้ง ขอแจ้งให้ผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้ส่งหนังสืออุทธรณ์ ขอให้เร่งดำเนินการส่งคำอุทธรณ์หรือข้อมูลหลักฐานชี้แจงให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เพื่อนำสู่กระบวนการพิจารณาของคณะทำงานฯ และกระบวนการเรียกร้องตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป” นายพรชัยกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
10วันปีใหม่เมาขับ7พันคดี ขับรถเร็วตายบนถนนพุ่ง
ปิดศูนย์ 10 วันอันตรายปีใหม่ สังเวย 436 ศพ เจ็บ 2,376 ราย
‘อ้วน’สั่งทบทวน หนทางดับไฟใต้ พูดคุยให้ถูกคน
ยังไร้แววเมียนมาปล่อย 4 คนไทย "ภูมิธรรม" ย้ำต้องรอจบกระบวนการ
ดักคอล้วงภาษีอุ้มค่าไฟ ‘ดีอี’เร่งกาสิโนขึ้นบนดิน
"ภูมิธรรม" ขำข่าวปรับ ครม.เขี่ย รทสช. บอกอย่าฟังคนปล่อยข่าว
สว.ส่งสัญญาณเบรกแก้รธน.
แก้ รธน. "เพื่อไทย" ตีกรรเชียงหนี "พรรคส้ม" ปักธงเคาะร่างแก้ รธน. 256 ไม่แตะหมวดกษัตริย์ “ชูศักดิ์” ชี้พุ่งเป้าไปที่ ส.ส.ร.เป็นหลัก
รุมตบปากพ่อนายกฯ สว.จี้ขอโทษเหยียดสีผิว/อดีตกกต.แนะอบรมมารยาทหาเสียง
รัฐมนตรีเพื่อไทยดาหน้าป้องนายใหญ่ บอกหาเสียง อบจ.เชียงรายปกติ
โค้งสุดท้ายสังเวย393ศพ ศปถ.จ่อถอดบทเรียนอีก
โค้งสุดท้าย 10 วันอันตราย วันที่ 9 เกิดอุบัติเหตุรวม 2,322 ครั้ง