วงเสวนาต่างๆ พร้อมใจไม่เอา “บิ๊กตู่” เตรียมไทม์ไลน์จัดการระบอบ 3 ป. พร้อม 16 ต.ค.นี้นัดชุมนุม เย้ยหากหวังสืบทอดอำนาจสมัยหน้าขายไม่ได้ ส่ออาจไม่มีเลือกตั้ง สวนทาง “ซูเปอร์โพล” ชี้ 35.8% ยอมรับ พล.อ.ประยุทธ์ทำงานต่อไป และเป็นต้นแบบผู้นำ 22.5% ขณะที่เบื้องหลังชนะคดี เพราะได้ “พีระพันธุ์” ทำคำชี้แจง “นายกฯ ขาดตอน”
วันที่ 2 ต.ค. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา คณะหลอมรวมประชาชนร่วมหารือกางปฏิทินใหญ่ หยุด 3 ป. หยุดรัฐประหาร นับหนึ่งประเทศไทย เพื่อขอฟังข้อคิดเห็นจากประชาชนว่าจะเดินหน้าต่อหลังจากคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 6:3 วินิจฉัยให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี
นายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ยอมรับคำวินิจฉัย สิ่งที่จะเกิดหลังจากต่อไปนี้ คิดว่าประชาชนต้องมาดูความสำคัญว่าจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องมีศาลรัฐธรรมนูญ ถ้ายังมี บุคคลที่มีที่มาแบบนี้ ควรเป็นแบบนี้อีกหรือไม่ ต้องไปคิดดู ตนกำลังหาทางกวาดล้าง หาทางให้ต้องรับผิด วันนี้องค์กรอิสระไม่อยู่ในฐานะผูกพันกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ไม่ผูกพันอำนาจอธิปไตยของปวงชน
ขอเรียนไปยังนักการเมือง พรรคการเมือง หากยังเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง แสดงว่ามีพื้นฐานสันดานเดียวกันกับประยุทธ์ คือ สัญญาณในการทำลายประชาธิปไตย เป็นสันดานที่ชัดเจน ไม่ยอมรับอำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทย รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหาในการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ถ้าเป็นประชาธิปไตย เมื่อประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง คือเสียงที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ชี้ขาด ใครควรเป็นฝ่ายบริหาร 15 ล้านเสียงที่สถาปนา รัฐธรรมนูญ 60% ที่ไปเลือกตั้ง แต่ทั้งหมดถูกตัดสิทธิ์โดย 250 ส.ว.
"คณะหลอมรวมประชาชนยืนยัน ถ้าไม่แก้รัฐธรรมนูญ และร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน การเลือกตั้งไม่มีเด็ดขาด ใครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ขอให้ลาออก ต่อให้บางพรรคได้ 300 เสียง ไม่มีทางจะได้จัดตั้งรัฐบาล จะมีมวลชนอีกส่วนออกมาขวาง ประเทศจะวุ่นวาย ประเทศนี้จะเริ่มต้นได้ ประชาชนเป็นใหญ่ได้ ต้องเริ่มจากอำนาจอธิปไตย ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม ป.ป.ช.ต้องอยู่ใต้ประชาชน"
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มต่างๆ มีความงอกงามตามลำดับ คณะหลอมรวมฯ จะลำดับความคิดผ่านช่องทางโซเชียล ต่อไปเราจะตื่นเช้าจัดกันทุก 8 โมงเช้าทุกวันนับตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค. ให้ประชาชนได้ทราบได้ซึมซับ กระทั่ง 16 ต.ค.จะนัดใหญ่อีกรอบ ส่วนสถานที่จะแจ้งให้ทราบทีหลัง ระหว่างนี้มีกิจกรรมที่ใดให้ไปร่วมไล่ 3 ป.ดีหมด เพราะตอนนี้สังคมไทยมารวมกันที่จุดเดียวกันแล้ว การรอดของ พล.อ.ประยุทธ์ เหมือนนาฬิกาขนาดใหญ่ การสู้หนนี้ต้องใช้ความคิดให้มากที่สุด ต่อสู้ด้วยความเข้าใจ นับหนึ่งประเทศไทยไม่ได้จะไม่หยุด ปฏิทินหลังจากวันที่ 16 ต.ค.จะมีมาตามลำดับ แต่จากนี้จะขึงทุกประเด็นที่เป็นปัญหาชาติ ชี้ให้เห็นศัตรูของชาติที่แท้จริงคืออะไร สู้กับมวยเหลี่ยมอย่าง 3 ป. ต้องรู้ทางและไม่มีใครรู้ดีเท่าประชาชน
นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวว่า วันนี้ 3 ป. กำลังหลอกต้มประชาชนว่าจะมีการเลือกตั้ง ในข้อเท็จจริง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ พ.ร.บ.พรรคการเมือง อยู่ในการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หากมีการวินิจฉัยสูตรหาร 100 ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 93 และ 94 โอกาสที่จะมีการเลือกตั้งแทบเป็นไปไม่ได้ สิ่งที่ประชาชนหวังล้างแค้น จัดการเผด็จการในวันลงคะแนนเลือกตั้ง แทบจะไม่มีโอกาส
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวว่า เราจะร่วมมือไล่ 3 ป. หลายคนบอกหากไล่ประยุทธ์ได้ จะเอาคนนั้นคนนี้มาแทน ไม่ใช่ แต่เรากำลังจะล้างบางประเทศ ทำให้การเมือง ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ ไม่ว่าใครมีอำนาจ ประชาชนต้องตรวจสอบ ไม่ดีเราก็ไล่ ประยุทธ์มีเวลา 8 ปี หมดเวลาของประยุทธ์ หมดเวลาของอำนาจทหารแล้ว
เย้ย พล.อ.ประยุทธ์ขายไม่ได้
ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีการจัดเสวนา สภาที่ 3 วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองหลังคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ และ "ทวงคืนเอกสิทธิ์การเลือกนายกรัฐมนตรีจากเจตจำนงของประชาชน"
นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 2535 กล่าวว่า เคยเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออก แต่พยายามสืบทอดอำนาจต่อ ยิ่ง 2 วันก่อนกระบวนการยุติธรรมของไทยด้อยค่าลงจากการวินิจฉัยการดำรงตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ถือว่าครบ 8 ปี คือตั้งแต่ปี 2557 ที่เป็นนายกฯ แต่ไม่ถูกนับ แปลว่าที่ผ่านมาเรามีนายกฯ เถื่อนหรือไม่ แล้วอาศัยอำนาจหรืออภิสิทธิ์อะไรที่ไม่เกิดเผยทรัพย์สิน จึงขอตั้งคำถามถึงองค์คณะ 6 ท่านที่ให้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อด้วย ที่ห่วงคือครูอาจารย์ด้านกฎหมาย สอนนิติศาสตร์จะสอนลูกศิษย์ต่อได้อย่างไร หากมีการวินิจฉัยกฎหมายแบบนี้ แต่ก็ต้องดีใจกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่อยู่มา 8 ปี ทำให้มีบารมีสูงสุด จนศาลรัฐธรรมนูญกล้าพิจารณาคดีโดยขัดความรู้สึกคนทั้งประเทศ ไม่คิดว่าในเมืองไทยจะมีคนมีบารมีมากเทียบเท่า พล.อ.ประยุทธ์ อนาคตประเทศจะเป็นอย่างไร ไม่เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นจุดขายให้ประชาชนอยากได้มาเป็นนายกฯ อีกต่อไป ประชาชนเบื่อเต็มที เพราะที่ผ่านมาก็ไม่ได้ทำอะไรที่ดี
นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กล่าวว่า เชื่อว่ารัฐธรรมนูญ 2560 ออกแบบเพื่อกลุ่มอำนาจ 3 ป. ดังนั้นเลือกตั้งปีหน้าถึงเวลาที่ต้องแก้รัฐธรรมนูญ ขอเชิญประชาชน และทุกพรรค ยกร่างให้เป็นฉบับประชาชนอย่างแท้จริง ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย เพราะประชาชนทนมาตั้งแต่ปี 2560 รวมแล้ว 5 ปี บวกกับเป็น คสช. ก็ 8 ปี สำหรับคำตัดสินที่ออกมาขัดกับการตีความของอาจารย์นิติศาสตร์และนักกฎหมายอย่างมาก เป็นการละเลยไม่ได้เอาเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาใช้
นายพิชายกล่าวต่อว่า โดยระหว่างนี้ พล.อ.ประยุทธ์คงคิดถึงการที่จะทำให้ได้อยู่ต่อไปถึงปี 2568 แต่คงไม่ง่าย เพราะ พปชร.มี พล.อ.ประวิตรเป็นแคนดิเดต ที่อาจจะไม่ยอมแล้ว อาจจะคิดว่าให้น้องมามาก ที่ผ่านมาตัวเองก็ทำได้ และได้รับความนิยมเพิ่ม แต่คำถามคือ พปชร.จะชนะการเลือกตั้งหรือไม่ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย หากกลุ่มสามมิตรไม่ลาออก อาจจะ 60-70 เสียง แต่ภาคใต้โอกาสได้น้อยมาก การจัดตั้งรัฐบาลไม่ง่ายว่าใครจะมาเป็นนายกฯ แต่ที่แน่ๆ พล.อ.ประยุทธ์ไม่น่าจะมีโอกาสแล้ว ในกลุ่ม 3 ป.ที่มีโอกาสคือ พล.อ.ประวิตร แต่ไม่ง่าย
นายพิภพ ธงไชย ที่ปรึกษาคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 และเลขานุการมูลนิธิเด็ก กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ควรเป็นนายกฯ ต่ออีกสมัยด้วยเหตุผลนานัปการ ที่น่าผิดหวังที่สุดคือรัฐบาลประยุทธ์ไม่ปฏิรูปการศึกษา ไม่ปฏิรูปตำรวจ และไม่ปฏิรูปการผูกขาดด้านพลังงานที่เริ่มในรัฐบาลคุณทักษิณ ดังนั้นจึงไม่เป็นประโยชน์ใดๆ ที่จะอยู่ในอำนาจต่อไปนำไปสู่ความล้มเหลวของสังคม
“อยากชี้แจงเพื่อนมิตรว่า ที่ออกมาไล่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่แค่ไล่ พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้ารัฐบาลชุดนี้เท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีความขัดแย้งส่วนตัว แต่ตนออกมาไล่รัฐบาลทหาร พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเพียงหนึ่งในตัวแทนรัฐบาลทหารเท่านั้น”
โพลหนุน 'นายกฯ' ทำงานต่อ
อีกความเคลื่อนไหว ที่บริเวณทางเท้าหน้าโรงภาพยนตร์สกาล่า กรุงเทพฯ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด จัดกิจกรรม Flash mob 'วันอาทิตย์สีดำ' นายสมบัติให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า จะมีการจัดกิจกรรมวันอาทิตย์สีดำทุกวันอาทิตย์ แต่จะเป็นสถานที่ใด จะมีการแจ้งอีกครั้ง สำหรับผู้ที่อยากร่วมกิจกรรมวันอาทิตย์สีดำ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถสวมเสื้อสีดำได้เพื่อเป็นการแสดงออกถึงการเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีออกจากอำนาจ ซึ่งจะทำไปจนกว่า พล.อ.ประยุทธ์จะออกจากอำนาจ โดยจะมีการดูข้อเท็จจริงว่ากระแสเป็นอย่างไร และข้อเสนอของมวลชนว่าอยากเห็นอะไร
ขณะที่ ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจเรื่อง ตัวช่วย กับ เวลาที่เหลืออยู่ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,159 ตัวอย่างครัวเรือน ระหว่างวันที่ 30 กันยายน-1 ตุลาคม พ.ศ.2565
เมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ยอมรับได้ หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ทำงานต่อ พบว่า 35.8% ระบุทำงานต่อไป เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน, 28.4% ระบุยุบสภาทันที แต่ร้อยละ 28% ระบุยุบสภาหลังประชุมเอเปก, 26.9% ระบุลาออกทันที และ 25.4% ระบุปรับคณะรัฐมนตรี
ที่น่าสนใจคือ สมการความน่าจะเป็นของโมเดลผู้ที่เหมาะสมกับการเป็นนายกฯ จำแนกตามฐานสถานะของแกนนำการเมืองฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน พบว่า อันดับหนึ่งได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ 22.5%, อันดับสองได้แก่นายอนุทิน ชาญวีรกูล 12.5% และอันดับสามได้แก่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ 3.5%
ในกลุ่มฝ่ายค้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร 19.2%, นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 11.4%, พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส 3.5%, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว 2.8% ในกลุ่มตัวช่วยผู้ไม่สังกัดฝ่าย พบว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ 10.1%, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ 10% และอื่นๆ 4.5%
ที่น่าพิจารณาคือ ความต้องการของประชาชน ผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่หรือ 85.6% ต้องการให้คนไทยทุกคนเตรียมตัว เตรียมประเทศ พร้อมต้อนรับนานาชาติจัดประชุมเอเปกในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศและเพิ่มเงินในกระเป๋าของประชาชน, 80.3% ต้องการให้คนไทยทุกคน เคารพการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญกรณี 8 ปี นายกฯ เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อได้ และ 73.7% ต้องการให้โอกาส พล.อ.ประยุทธ์กลับเข้าทำหน้าที่นายกฯ ทันที หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเสร็จสิ้นแล้ว
'พีระพันธุ์'เบื้องหลังชนะคดี
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยกรณีการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 30 ก.ย. โดยให้เริ่มนับวาระตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 60 บังคับใช้ หรือวันที่ 6 เม.ย.60 นั้น ก่อนหน้านั้นทีมกฎหมาย พล.อ.ประยุทธ์ ได้ส่งเอกสารชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญ ความยาว 23 หน้ากระดาษ มีสาระสำคัญคือ ยืนยันว่าต้องเริ่มนับวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ ตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 60 บังคับใช้ พร้อมกับอธิบายเหตุผลด้วยการอ้างรัฐธรรมนูญ มาตรา 264 ในบทเฉพาะกาล ที่ให้คณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ก่อนรัฐธรรมนูญ 60 ประกาศใช้ ยังคงสามารถบริหารงานต่อไปได้ แต่ก็ถือว่าความเป็นนายกฯ นั้นขาดตอนจากรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 57 โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้มอบหมายให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ ตรวจทานประเด็นหักล้างตามคำร้องของฝ่ายค้าน ก่อนจะให้ พล.อ.ประยุทธ์ลงนามรับรองก่อนส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเอกสารชุดเดียวกับที่หลุดออกมานั่นเอง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เร่งเบิกงบลงทุน ขีดเส้นให้ได้80% กระตุ้นเศรษฐกิจ
นายกฯ อิ๊งค์นั่งหัวโต๊ะประชุมหัวหน้าส่วนราชการ บี้เร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุน 9.6 แสนล้าน
‘เวชระเบียน’หลอนทักษิณ โยนรพ.ตำรวจมอบให้ปปช.
นายกฯ พยักหน้ารับปม "ป.ป.ช." ทวงถามเวชระเบียนรักษาตัว
เพิ่มข้อหาแชร์ลูกโซ่18บอส จ่อหมายจับ‘ตั้ม’โกงเจ๊อ้อย
"ดีเอสไอ" แจ้งข้อหาเพิ่ม 18 บอสดิไอคอน คดีแชร์ลูกโซ่-ขายตรง
หึ่ง!เปลี่ยน‘พงษ์ภาณุ’แทน‘โต้ง’
“คปท.-ศปปส.-กองทัพธรรม” ลุกฮือ ยื่นหนังสือค้านคัดเลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติ
กอดMOUเจรจาเขมร ‘อิ๊งค์’หวั่นโดนฟ้องยันเดินหน้าแบ่งเค้ก/กต.แจงมีข้อดีกว่าเสีย
นายกฯ อิ๊งค์ลั่นเป็นคนไทย 100% ประเทศต้องมาก่อน ยืนยันจะรักษาแผ่นดินไทยไว้อย่างเต็มที่
คลั่งชาติปลุกต้านขายชาติ!
นายกฯ เรียกพรรคร่วมถกปมเกาะกูด "นพดล" โต้เดือดไม่ได้ขายชาติ