สามนิ้วท้าทายศาล ‘ผบ.ตร.’เตือนม็อบ ถ้าบุกเจอของพิเศษ

"ผบ.ตร." คนใหม่เผยใช้ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ เน้นรักษาความสงบ ไม่บุกมาไม่ใช้อุปกรณ์พิเศษ ขอให้เข้าใจตำรวจ ยันไม่เคยมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อผู้ชุมนุม อย่ามองเป็นฝ่ายตรงข้าม ม็อบ 3 นิ้วโผล่ชุมนุมอนุสาวรีย์ชัยฯ แกนนำติดเงื่อนไขประกันตัวศาลร่วมชุุมนุมด้วย

            เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ( ผบ.ตร. ) กล่าวถึงงานด้านความมั่นคง การดูแลการชุมนุมหลังจากยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินว่า เมื่อยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ใช้ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องเข้าดูแลให้เป็นไปตามกฎหมาย การชุมนุมเป็นสิทธิพื้นฐาน แต่ตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมายตามหน้าที่ที่กฎหมายมีอยู่ ผู้ชุมนุมสามารถเรียกร้องได้ตามสิทธิ แต่อยากให้ผู้ชุมนุมเข้าใจกฎหมายและหน้าที่

            ผบ.ตร.กล่าวว่า ที่ผ่านมาพูดคุยกับแกนนำมาโดยตลอด เพื่อทำความเข้าใจกันให้อยู่ในกรอบกฎหมาย เพราะเราเป็นคนไทยด้วยกัน เราต่างทำหน้าที่ ผู้ชุมนุมที่เห็นต่างก็ทำหน้าที่ของท่าน ขอให้เข้าใจตำรวจด้วย หากตำรวจไม่ทำตามกฎหมาย ก็มีความผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เราบังคับใช้กฎหมาย ไม่อยากให้เกิดการปะทะกัน

            “เราไม่เคยมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อผู้ชุมนุม  เน้นการรักษาสถานที่สำคัญ ดูแลความปลอดภัย เราเน้นใช้ในการปกป้องรักษาสถานที่สำคัญ ถ้าไม่บุกมาเราไม่ใช้อยู่แล้ว อยู่ในกรอบกฎหมาย และไม่เคยมีความคิดที่จะใช้อุปกรณ์พิเศษเลย ผมมองในฐานะตำรวจ มองทุกท่านด้วยความเข้าใจ เห็นใจ พวกท่านมาด้วยความเห็นอิสระของท่านได้” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าว

            เมื่อถามว่า หากผู้ชุมนุมลงถนนจะใช้รถฉีดน้ำหรือจีโน่หรือไม่ ผบ.ตร.ตอบว่า ไม่ถึงขั้นนั้น เราเน้นการรักษาสถานที่สำคัญเป็นหลัก การปฏิบัติการต่างๆ เราทำตามกฎหมาย การจัดกำลังไปดูแลการชุมนุมเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ก็เป็นการจัดกองกำลังตามปกติ ประเมินสภาพตามความเป็นจริง โดยประเมินจากการข่าว ซึ่งตนเชื่อว่าในช่วงนี้ผู้ชุมนุมก็มีการชุมนุมในกรอบกฎหมายอย่างดี ตำรวจแบ่งการปฏิบัติเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งดูแลสถานที่ชุมนุม ส่วนหนึ่งไปดูแลสถานที่สำคัญต่างๆ ซึ่งเรามีประสบการณ์จากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

            ถามถึงการประเมินสถานการณ์ชุมนุมที่อาจจะมีขึ้นมากหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนายกฯ 8 ปี เเละมีเยาวชนเข้าร่วมมากขึ้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ตอบว่า เราประเมินแบบวันต่อวัน ตำรวจเป็นผู้ดูแลการชุมนุม ซึ่งก็จะต้องมีการชี้แจงข้อกฎหมายต่างๆ ให้แกนนำผู้ชุมนุมได้รับทราบ อยากให้อย่ามองเราเป็นฝ่ายตรงข้าม เพราะว่าตำรวจไม่ว่าทุกรัฐบาลไหนก็จะต้องทำหน้าที่ของเรา ส่วนใหญ่คนไม่เข้าใจก็จะมาลงที่ตำรวจ โดนผลักไปอยู่ฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเราก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่อยากบอกว่าตำรวจเป็นกลาง

            เย็นวันเดียวกันนี้ ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งเกาะพญาไท กลุ่มราษฎร พร้อมด้วยกลุ่มทะลุฟ้า, แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน และกลุ่ม We volunteer (WEVO) นัดหมายชุมนุม "พอกันที 8 ปีประยุทธ์" ภายหลังจากมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ตัดสินว่า พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์​โอชา ​ได้ดำรงตำแหน่งนายกฯ ต่อไป​

            โดยบรรยากาศบริเวณเกาะพญาไท มีป้ายเขียนข้อความ อาทิ “พอกันที 8 ปีประยุทธ์ ยุติ (ความเป็นธรรม)” และ “รื้อระบอบประยุทธ์กับผองเพื่อนปรสิตระบอบประยุทธ์ออกไป” ระหว่างนี้มีผู้เดินทางมาเข้าร่วมชุมนุมจำนวนหนึ่ง โดยผู้ชุมนุมหลายคนแต่งชุดดำตามที่ประกาศในแถลงการณ์ในการชุมนุมที่สกายวอล์ก แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งจะใส่เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 1-7 ต.ค.นี้ เพื่อไว้อาลัยแก่ระบอบการเมืองและอนาคตของสังคมไทย

            นอกจากนี้ มีการตั้งบูธกิจกรรมต่างๆ โดยแสดงข้อความจากนักโทษทางการเมือง และกิจกรรมฝากข้อความถึงเพื่อน โดยให้ผู้คนร่วมเขียนข้อความบนกระดาษถึงนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่อยู่ในเรือนจำ

            สำหรับบรรยากาศบนเวที นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน เดินทางมาร่วมการชุมนุม​ โดยได้เปิดเวทีด้วยการเล่นดนตรี ดีดพิณ สันทนาการ​ให้กับผู้ร่วมชุมนุม​ ทั้งนี้ ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้เล่นดนตรี​ ประกอบกับปราศรัย​สลับกันไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง