บิ๊กตู่สั่งเร่งเยียวยาปชช. ปภ.เผยโนรูทำ11จว.ชํ้า

“บิ๊กตู่” ติดตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิด ยันรัฐบาลพร้อมดูแลให้ความช่วยเหลือและเยียวยา ปชช.ที่ได้รับผลกระทบเต็มที่ “กทม.” เตือนชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำ เฝ้าระวังระดับน้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น “ชัชชาติ” สั่ง 17 เขตตรวจสอบแนวเขื่อนป้องกันน้ำท่วม “ปภ.” เผยผลกระทบ “โนรู” เกิดอุทกภัย 11 จว. บ้านเรือนเสียหาย 3,121 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 2 คน

เมื่อวันที่ 30 ก.ย. นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์พายุโนรูส่งผลเกิดฝนตกและน้ำท่วมหลายพื้นที่ว่า กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งพายุโนรูได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงแล้ว แต่ยังพบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ส่งผลทำให้ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม

นายอนุชากล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้กำลังใจและเห็นใจประชาชนที่เดือดร้อนจากสถานการณ์พายุโนรู ที่ส่งผลกระทบในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ตั้งแต่ช่วงวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง

 “นายกฯ ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมฝากความห่วงใยไปยังประชาชนที่ได้รับผลกระทบและประสบปัญหาอยู่จากสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งขอขอบคุณไปยังหน่วยงานทุกภาคส่วน จิตอาสา มูลนิธิ ตลอดจนภาคธุรกิจเอกชน ที่ต่างทุ่มเทเสียสละเพื่อประชาชนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พร้อมยืนยันความพร้อมของรัฐบาลที่จะดูแลช่วยเหลือ และเยียวยาทุกครัวเรือนอย่างรวดเร็วทั่วถึง” โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว

ขณะที่นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกกรุงเทพมหานคร แจ้งว่า กทม.มีความห่วงใยประชาชนที่อยู่ริมแนวแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะชุมชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ หรือจุดที่ไม่มีเขื่อนป้องกันถาวร เช่น จุดพื้นที่เอกชน ท่าเรือ ขอให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำและระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิด และยกของขึ้นที่สูงในช่วงที่น้ำขึ้น โดยระดับน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในวันนี้ (30 ก.ย.) ฐานน้ำทะเลหนุน น้ำขึ้นเต็มที่เวลา 09.29 น. ระดับ +1.05 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ที่สถานีวัดบางนาวัดได้ระดับสูงสุด +1.96 ม.รทก. เมื่อเวลา 09.15 น. ต่ำกว่าแนวป้องกัน 0.84 เมตร แนวป้องกันอยู่ที่ 2.80 เมตร ที่สถานีปากคลองตลาด +2.02 ม.รทก. (09.30 น.) ต่ำกว่าแนวป้องกัน 0.98 เมตร แนวป้องกันอยู่ที่ 3.00 เมตร และที่สถานีวัดบางเขตใหม่ +2.04 ม.รทก. (08.45 น.) ต่ำกว่าแนวป้องกัน 1.46 เมตร แนวป้องกันอยู่ที่ 3.50 เมตร  และในช่วงค่ำวันนี้ยังมีน้ำขึ้นเต็มที่อีกในเวลาประมาณ 19.42 น. ระดับ +1.10 ม.รทก.

 “ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มขึ้น นอกจากอิทธิพลของน้ำทะเลหนุนแล้ว  ยังเป็นน้ำเหนือที่ไหลบ่ามาเติม โดยในวันนี้ที่จุดวัด อ.บางไทร วัดได้ 2,929 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ขณะที่ความจุของลำน้ำรับได้ที่ 3,500 ลูกบาศก์เมตร/วินาที  ซึ่งนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ได้กำชับทั้ง 17 เขต ที่ดูแลพื้นที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เตรียมพร้อมเฝ้าระวังจุดอ่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา” โฆษกกรุงเทพมหานครกล่าว

ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานผลกระทบพายุโซนร้อนกำลังแรงโนรู ระหว่างวันที่ 28-30 ก.ย.ว่า มีสถานการณ์อุทกภัยและวาตภัยในพื้นที่ 11 จังหวัด เพชรบูรณ์ อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร อุบลราชธานี ขอนแก่น ชัยภูมิ มุกดาหาร สระบุรี ชัยนาท และสระแก้ว รวม 35 อำเภอ 72 ตำบล 166 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,121 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เนื่องจากสาเหตุลมพัดต้นไม้ล้มทับรถยนต์

นอกจากนี้ สถานการณ์ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ยังคงทำให้มีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก และปราจีนบุรี รวม 5 อำเภอ 18 ตำบล 67 หมู่บ้าน ภาพรวมระดับน้ำลดลง และสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ ตาก พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ปทุมธานี และสิงห์บุรี รวม 17 อำเภอ 132 ตำบล 685 หมู่บ้าน ภาพรวมสถานการณ์ระดับน้ำทรงตัว

วันเดียวกัน นายกรณ์ จาติกวณิช พร้อมด้วยทีมงานว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคชาติพัฒนากล้า ร่วมเป็นจิตอาสาช่วยกันกรอกทรายใส่กระสอบ ณ บริเวณโรงสูบน้ำใต้สะพานรัชวิภา ซึ่งเป็นจุดที่ กทม. กำหนดให้เป็นพื้นที่กรอกทรายของกรุงเทพมหานครโซนเหนือ

นายกรณ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ผู้ว่าฯ  กทม.ได้ประชาสัมพันธ์เรียกอาสาสมัครช่วยกันเติมทรายใส่กระสอบเพื่อป้องกันน้ำท่วมให้กับชาวกรุงเทพมหานคร ซึ่งต้องใช้กระสอบทรายนับล้านกระสอบ เราเลยเห็นว่ากรุงเทพฯ ก็เป็นบ้านของเรา ต้องร่วมด้วยช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพราะเดือนตุลาคมก็จะช่วงอันตรายที่น้ำเหนือก็จะไหลมาถึงกรุงเทพมหานคร

ส่วนคณะผู้บริหารพรรคไทยสร้างไทย  นำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, นายสิทธิชัย โควสุรัตน์, นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น, นายอดุลย์ นิลเปรม และทีมไทยสร้างไทยอุบลราชธานี ลงเรือให้กำลังใจประชาชนชาวอุบลราชธานี ผู้ประสบอุทกภัยจากพายุโนรู ที่บ้านท่ากกแฮ หาดบ้านเดื่อ อ.เมืองฯ จ.อุบลราชธานี ซึ่งประชาชนได้รับผลกระทบและความเสียหายอย่างหนัก ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นกว่า 40 ซม. และท่วมขังภายในตัวบ้านสูงกว่า 1 เมตร มีเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงติดอยู่ภายในหมู่บ้านไม่สามารถออกมาได้เป็นจำนวนมาก ทีมไทยสร้างไทยจึงนำเรือท้องแบนเข้าไปอพยพประชาชนออกมายังพื้นที่ปลอดภัย

จ.ปทุมธานี นายสมคิด สมประสงค์ กำนันตำบลบ้านฉาง และ น.ส.อุบล ผลละออ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 พร้อมนายฉัตรชัย อุ้มญาติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ได้นำข้าวสารอาหารแห้ง ที่ พล.อ.ประสูตร รัศมีแพทย์ นำมาบริจาค 120 ชุด ไปมอบให้กับประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ตำบลบ้านฉาง อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นชุมชนที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มสูงเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน ขณะที่ประชาชนต้องพายเรือออกมารับสิ่งของบริจาค

จ.อ่างทอง สถานการณ์น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านจังหวัดอ่างทอง หลังเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อรองรับมวลน้ำเหนือ ทำให้ระดับน้ำเจ้าพระยาไหลผ่านจังหวัดอ่างทองเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง สูง 8.99 เมตร จากระดับตลิ่ง 10  เมตร ไหลผ่าน  2374 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

จ.บุรีรัมย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลพวงจากอิทธิพลพายุโนรู ส่งผลให้มีฝนตกตลอดทั้งวัน ประกอบกับมวลน้ำจากที่สูงได้ไหลมาสมทบเพิ่มเติม ทำให้ปริมาณน้ำในลำน้ำชีที่ไหลผ่าน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ หนุนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และได้เอ่อล้นตลิ่งหลากเข้าท่วม 2 หมู่บ้านคือ บ้านโนนสว่างและบ้านแสลงพัน ในพื้นที่ ต.ลำดวน อ.กระสัง โดยเฉพาะบ้านโนนสว่าง ได้ถูกน้ำท่วมล้อมรอบหมู่บ้าน   และถนนทางเข้า-ออกสูงเกือบ 2 เมตร จนไม่สามารถใช้รถสัญจรเข้า-ออกได้ ทำให้ชาวบ้านจำนวน 42 หลังคาเรือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอกเป็นเวลา 2 วันแล้ว

จ.ชัยภูมิ นายสมบัติ ไตรศักดิ์ รองผู้ว่าฯ ชัยภูมิ ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้ว่าฯ ชัยภูมิ แถลงสถานการณ์น้ำท่วมหลังพายุโนรูผ่าน จ.ชัยภูมิ ส่งผลทำให้พื้นที่ใน จ.ชัยภูมิ เกิดฝนตกหนักไม่หยุดมาต่อเนื่องนานข้ามวันยันถึงช่วงสายที่ 30 ก.ย.65 ฝนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตก ล่าสุดทางจังหวัดชัยภูมิได้ประกาศจังหวัดให้มีพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน (อุทกภัย) แล้วใน 2 อำเภอ ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ทั้ง 25 ชุมชนในเขตโซนเศรษฐกิจในย่านกลางตัวเมืองชัยภูมิทั้งหมด และที่ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ

จ.ตรัง อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง ได้มีการปักธงแดงบริเวณริมชายหาดปากเมง ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง การปักธงแดงนั้นเป็นสัญญาณเตือนไม่ให้นักท่องเที่ยวลงไปเล่นน้ำทะเลโดยเด็ดขาด โดยบรรยากาศที่บริเวณชายหาดปากเมงพบว่าในท้องทะเลมีคลื่นสูงและลมแรง อย่างไรก็ตามทางอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมขอเตือนประชาชนและชาวเรือ ขอให้ติดตามการพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด หากสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจขอให้อพยพไปอาศัยอยู่ในที่ปลอดภัย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

งัดกม.กดดันนายกฯ พปชร.อ้างข้อบังคับพรรค ทวงใบกรอกประวัติ‘ป๊อด’

"อุ๊งอิ๊ง" ยังเล่นบทเตมีย์ใบ้ "หมอมิ้ง" ขึงขังไม่ขีดเส้นตายรายชื่อ รมต. แต่ถ้าไม่ส่งก็ถือว่าไม่ส่ง พลิ้วไม่รู้หนังสือ