ลุ้นระทึก! ตุลาการศาลรธน.นัดอ่านคำวินิจฉัยปม 8 ปีนายกฯ ประธานศาล รธน.ออกประกาศเป็นพื้นที่ปลอดภัย หลังฝ่ายมั่นคงประเมินเสี่ยงเกิดความไม่สงบ สั่งคุมเข้มตรวจทั้งคน-ยานพาหนะ มีผลถึง 6 โมงเช้าวันจันทร์ "กองทัพ" อยู่ที่ตั้งตามปกติ บช.น.เตรียมตำรวจ 2 กองร้อยรักษาความปลอดภัย "บิ๊กตู่" ไม่เครียดพร้อมยอมรับคำตัดสิน ช่วงบ่ายปักหลักรอฟังที่บ้านพัก "บิ๊กป้อม" ไม่ห่วงม็อบ 30 ก.ย. "ธนกร" วอนสารพัดม็อบอย่าออกมาร่วมชุมนุมอาจถูกมองว่าพยายามกดดันศาล
เมื่อวันที่ 29 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญว่า เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมสถานที่เพื่อรองรับสื่อมวลชนที่จะมารายงานสดและติดตามการอ่านคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในคดีวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะประชุมในเวลา 09.00 น. เพื่อพิจารณาวินิจฉัยและปรึกษาหารือก่อนลงมติ และจะออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยในเวลา 15.00 น.
โดยจะมีการถ่ายทอดการอ่านคำวินิจฉัยจากห้องพิจารณาลงมายังห้องสื่อมวลชนที่บริเวณลานชั้น 2 ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ที่ได้มีการติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิดและลำโพงเรียบร้อยแล้ว ประกอบกับจะมีการถ่ายทอดผ่านยูทูบ “สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ” เพื่อให้ประชาชนได้ผิดตามการอ่านคำวินิจฉัย โดยไม่ต้องเดินทางมาที่ศาลรัฐธรรมนูญ
สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยยังคงยึดตามระเบียบสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญที่จะควบคุมพื้นที่โดยรอบ มีการติดป้ายเขตอำนาจศาล และจัดกำลังตำรวจดูแลความเรียบร้อย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาดูสถานที่และจัดตั้งวอร์รูมที่บริเวณชั้นล่างของสำนักงาน ซึ่งจะมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตามสถานการณ์ที่เฝ้าติดตามในกรณีมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ โดยในช่วงเย็นได้นำแผงเหล็กมาวางตามแนวบริเวณด้านหน้าสำนักงานเพื่อแสดงถึงพื้นที่ขอบเขตอำนาจศาล ประกอบกับไม่ให้บุคคลเข้า-ออกหรือใช้พื้นที่ดังกล่าว
ขณะเดียวกัน นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ลงนามประกาศศาลรัฐธรรมนูญเรื่อง อาณาบริเวณหรือพื้นที่ที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญและสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติงาน รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย โดยระบุว่า ทางหน่วยงานความมั่นคงได้แจ้งต่อสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญว่า จะมีสถานการณ์ที่มีสิ่งบอกเหตุหรือข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าอาจจะมีเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยและความไม่สงบเรียบร้อยเกิดขึ้น เพื่อให้กระบวนการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงออกประกาศกำหนดให้อาณาบริเวณหรือพื้นที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A) ตามแนวเขตเป็นพื้นที่ชั้นนอกในการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย บุคคลและยานพาหนะที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในพื้นที่ ต้องผ่านการตรวจของเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน และห้ามผู้ใดเข้ามาในพื้นที่ควบคุม เว้นแต่ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาปฏิบัติงานหรือมาติดต่อราชการ และต้องผ่านการตรวจตัวบุคคลและสิ่งของที่นำมา ตามวิธีการของหน่วยงานซึ่งมีหน้าที่รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. เวลา 19.00 น. ถึงวันที่ 3 ต.ค. เวลา 06.00 น.
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.น. ดูแลความมั่นคง เรียกประชุมรอง ผบก.น.1-9, รอง บก.สส.บช.น., รอง ผบก.อคฝ. ประชุมเตรียมความพร้อมดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณศาลรัฐธรรมนูญ โดย พล.ต.ต.รุ่งโรจน์เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทางกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (บก.น.2) ได้มีการจัดเตรียมกำลังตำรวจไว้จำนวน 2 กองร้อย เพื่ออำนวยความสะดวกความปลอดภัยบริเวณพื้นที่ดังกล่าว พื้นที่ศาลมีการประกาศออกมาเป็นพื้นที่ควบคุมกรณีมีผู้มารอฟังผลคำวินิจฉัยของศาล
ส่วนกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมมาชุมนุมพื้นที่อื่นนั้น พล.ต.ต.รุ่งโรจน์กล่าวว่า จุดที่มีการชุมนุมเพิ่มเติมมี 2 จุด ได้แก่ กลุ่มของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมมีการกิจกรรมตั้งทีวีถ่ายทอดสดติดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญบริเวณดังกล่าว และอีกจุดหนึ่งคณะหลอมรวมประชาชน นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ จัดกิจกรรมชุมนุมบริเวณด้านข้างห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์เพื่อติดตามติดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญบริเวณดังกล่าว
'บิ๊กตู่'ไม่เครียดรอลุ้นที่บ้่านพัก
"ทั้ง 2 กลุ่มได้มีการดำเนินการขออนุญาตกับสถานีตำรวจที่รับผิดชอบบริเวณดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ ยังไม่มีการข่าวว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูแลบริเวณจุดต่างๆ อย่างเต็มที่เพื่อป้องกันไม่มีเหตุการณ์ก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับพี่น้องประชาชนบริเวณดังกล่าวต่อไป” รองผบช.น.กล่าว
สำหรับความเคลื่อนไหว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ได้ทำบุญตักบาตรตามปกติเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา ก่อนที่เวลา 09.30 น. เดินทางเข้ากระทรวงกลาโหม เพื่อปฏิบัติภารกิจในฐานะ รมว.กลาโหม โดยไม่มีภารกิจใดเป็นพิเศษเป็นการเข้าทำงานตามปกติ
มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์พูดคุยกับคนใกล้ชิดว่า ไม่ว่าในวันที่ 30 ก.ย.นี้ผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไร ก็พร้อมยอมรับในกระบวนการ ไม่ได้รู้สึกเครียดอะไร มีท่าทีปกติ
ผูัสื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในช่วงเช้าวันที่ 30 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่กระทรวงกลาโหม จากนั้นจะกลับเข้าบ้านพักภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 ทม.รอ.) เพื่อติดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
พล.อ.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ เสนาธิการทหารบก และโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบกก็ยังคงทำหน้าที่ปกติ ส่วนกรณีที่อาจจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมการเมืองออกมาเคลื่อนไหวก็ขึ้นอยู่กับการร้องขอของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า จะให้ทหารเข้าไปช่วยดูแลสถานการณ์หรือไม่
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวว่า กอ.รมน.ยังไม่ได้มีภารกิจอะไร ซึ่งปกติทุกหน่วยราชการ ก็จะติดตามสถานการณ์บ้านเมืองอยู่แล้ว และก็มีหน่วยงานหลักรับผิดชอบดูแลอยู่แล้วเช่นกัน ส่วนที่ผู้ชุมนุมเคลื่อนไหว ทุกหน่วยงานติดตามอยู่แล้ว แต่ในส่วนอื่นยังไม่มีข้อมูลเพียงพอ ที่ผ่านมามีความเคลื่อนไหวทางการเมืองบ้าง แต่ผู้ที่มีหน้าที่หลักก็ยังทำหน้าที่ปกติ
เมื่อถามว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ไปต่อ การทำงานของ กอ.รมน. จะเป็นอย่างไร พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ปกติ กอ.รมน. มีงานรับผิดชอบตามกรอบกฎหมายกำหนดอยู่แล้ว เราก็ยังเป็นหน่วยปฏิบัติไปตามกลไก และขณะนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติในด้านความมั่นคง
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีการเปิดให้ตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมที่ปักหลักข้างทำเนียบรัฐบาล เข้าพบเมื่อวันที่ 28 ก.ย. ได้มีการพูดคุยกันหรือไม่ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดจะเดินทางกลับวันไหนว่า ไม่รู้เขา เขามาขอร้องในฐานะที่ตนเป็นประธานในการช่วยเรื่องความยากจน ปัญหาที่ดิน ปัญหาเรื่องน้ำ และปัญหาที่อยู่ที่อาศัย ซึ่งเขาก็บอกว่ายังไม่ได้อะไรบ้าง เขามาแค่นั้นเอง
วอนม็อบยุติเคลื่อนไหว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการมองกันว่ากลุ่มผู้ชุมนุมที่มาปักหลักข้างทำเนียบฯ เพื่อมาเป็นแนวป้องกันกลุ่มผู้ชุมนุมอื่นๆ ที่จะมาชุมนุมในวันที่ 30 ก.ย.นี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวปฏิเสธว่า ตนไม่รู้
เมื่อถามย้ำว่า กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้แจ้งใช่หรือไม่ว่าจะเดินทางกลับเมื่อไหร่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ได้แจ้ง เมื่อถามว่าไม่ได้เป็นการเอาม็อบมาชนม็อบใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มี
เมื่อถามว่า วันที่ 30 ก.ย.นี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ไม่ห่วง ผมไม่ห่วง”
นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมเตรียมนัดชุมนุมในวันที่ 30 ก.ย.ว่า อยากให้ผู้ชุมนุมทุกกลุ่มยุติความคิดที่จะออกมาเคลื่อนไหวในขณะนี้ เพราะหากออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมอาจจะถูกมองว่าเป็นการกดดันศาลรัฐธรรมนูญได้ ควรรอฟังคำวินิจฉัยของศาลก่อน อย่าด่วนฟังคำพูดบิดเบือนของนักการเมืองบางกลุ่มแล้วรีบออกมาร่วมม็อบบนท้องถนน เพราะสุดท้ายแล้ว หากเกิดอะไรขึ้น แม้แต่แกนนำที่ปลุกปั่นให้ท่านออกมาชุมนุมนั้น ก็ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบใดๆ
“อยากขอให้พี่น้องประชาชนรอฟังคำวินิจฉัยของศาลอยู่ที่บ้าน เพราะไม่ว่าผลตัดสินออกมาอย่างไรนั้น ท่านนายกฯ พร้อมน้อมรับคำตัดสินอย่างชายชาติทหาร แต่แกนนำที่พยายามปลุกปั่นท่านอยู่ในขณะนี้นั้น อยากถามว่า เขาพร้อมน้อมรับคำตัดสินอย่างลูกผู้ชายด้วยหรือไม่ หรือมีธงในใจอยู่แล้วว่าจะทำอะไรต่อไป ไม่ว่าคำตัดสินจะออกมาแบบไหนก็ตาม” นายธนกรกล่าว
ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยวาระนายกฯ 8 หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง สภามีการเตรียมการอย่างไรไว้หรือไม่ ว่า ในเรื่องนี้มีข้อกฎหมายกำหนดไว้อยู่แล้ว ไม่มีอะไรพิเศษ แต่อย่าเพิ่งไปพูดอะไรก่อน ต้องรอให้ศาลตัดสินก่อน
เมื่อถามว่า ช่วงนี้เป็นช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯ หากต้องเลือกนายกฯ คนใหม่ต้องทำอย่างไร นายชวนกล่าวว่า อย่าเพิ่งไปสมมติเลย ศาลยังไม่ตัดสิน ไว้ดูพรุ่งนี้ และจะไม่มีสุญญากาศทางการเมือง ปกติก็เป็นเรื่องที่ตำแหน่งนายกฯ จะอยู่หรือจะไป ซึ่งก็ต้องรอดูศาลตัดสิน ทั้งนี้ สภาก็ต้องมีตัวแทนไป เนื่องจากเป็นผู้ร้องไป เพราะมี ส.ส.ร้องมา และสภา ดำเนินการส่งต่อไปยังศาลให้ ตนได้เซ็นมอบอำนาจให้ฝ่ายกฎหมายไป
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงโค้งสุดท้ายของรัฐบาล ฉะนั้นยังไม่ทราบคำวินิจฉัยของศาล รธน.จะเป็นอย่างไร แต่จะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่ คิดว่ากลไกของกฎหาย กลไกของ รธน. กับช่วงระยะเวลาที่เหลืออยู่ 6 เดือนนี้ ก็ไม่น่าที่จะมีผลกระทบอะไรมาก ฉะนั้นเป็นเรื่องของการช่วยกันประคับประคองสถานการณ์ต่างๆเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งให้เกิดความเรียบร้อย ไม่ว่าใครจะเป็นนายกฯ หรือจะเป็นนายกฯ ท่านเดิม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นายกฯ อิ๊งค์' เตรียมบินไปเปรูประชุมเอเปก
นายกฯเสร็จภารกิจแอลเอเตรียมบินต่อเปรูร่วมประชุมผู้นำเอเปก
นายกฯ พบค่ายหนังยักษ์มะกันหวังดันไทยเป็นฮับถ่ายทำภาพยนตร์
นายกฯ พบค่ายหนังยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ ดันไทยเป็นฮับถ่ายทำภาพยนตร์ โชว์ซอฟพาวเวอร์ทำรายได้เข้าประเทศ
ครม.ตั้ง‘โต้ง’19พ.ย. ดี๊ด๊าคุมธปท.ฝ่าเสียงต้าน สถิตย์การันตีล้วงลูกไม่ได้
"กิตติรัตน์" ดี๊ด๊า! แชร์ข่าวได้นั่ง "ปธ.บอร์ด ธปท." ระบุทุกเสียงสนับสนุนคือกำลังใจ
นัดถกบอร์ดศก. ปล่อยกู้7หมื่นล. สางหนี้-ซื้อบ้าน
นายกฯ นัดถก "บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ" ครั้งแรก 19 พ.ย.นี้
เรียก‘พื้นที่อ้างสิทธิ’เลิกใช้‘ทับซ้อน’
เลขาฯ กฤษฎีกาชี้ชัดยกเลิก "เอ็มโอยู" ฝ่ายเดียวได้แต่ไม่ควร
รบ.โต้ขัดแย้งเขากระโดง คลอดพรฎ.แก้พิพาทที่ดิน
แกนนำรัฐบาลประสานเสียงปมที่ดินเขากระโดง ไม่สร้างขัดแย้ง "เพื่อไทย-ภูมิใจไทย"