อย่าซ้ำรอยคดีซุกหุ้น ‘พิภพ’สะกิดศาลรัฐธรรมนูญ/‘พท.-กก.’รุมดีดปาก‘ชัยวุฒิ’

"สาทิตย์" คาดหากศาล รธน.ให้ "บิ๊กตู่" รอด ม็อบกลับมาตรึมแน่   ชี้มียุบสภาช้าสุดปลาย ก.พ.66 หากสุดท้ายต้องโหวตนายกฯ คนนอก พรรคร่วม-ปชป.ต้องถกกันหนัก "ก้าวไกล-พท." ดีดปาก "ชัยวุฒิ" น่ารังเกียจ ขู่จะไม่มีการเลือกตั้ง คณะหลอมรวมฯ ตั้งวงทวงคืนอำนาจอธิปไตย "ตู่-นกเขา" ยันม็อบไม่ป่วนเอเปก ซัด 3 ป.ตัวดีไม่อยากให้มีเลือกตั้ง "สุริยะใส" ฟันธง "3 ป." มาถึงฉากสุดท้าย กองหนุนประยุทธ์หมดแล้ว ลากไปต่อไม่ได้ "พิภพ" เตือนศาล รธน.อย่าซ้ำรอยคดีซุกหุ้น "ส.ศิวรักษ์" ไม่ไว้ใจศาล รธน. สับ "ประยุทธ์" ยิ่งอยู่บ้านเมืองยิ่งฉิบหาย 

เมื่อวันอาทิตย์ ผู้สื่อข่าวถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมเตรียมเคลื่อนไหวในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยวาระนายกฯ 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม เตรียมรับมืออย่างไร แต่ พล.อ.ประวิตรปฏิเสธตอบคำถามดังกล่าว

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าววิเคราะห์สถานการณ์การเมืองหลังวันที่ 30 ก.ย. ที่ศาลรัฐธรรมนญนัดอ่านคำวินิจฉัยคดี 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าประเมินไว้สองทาง กรณีแรกคือศาลยกคำร้อง หรือ พล.อ.ประยุทธ์รอด ซึ่งเท่าที่ฟังดูช่วงหลังเสียงในสภาประเมินว่ารอด แต่จะรอดแบบมีเงื่อนไข เช่น เหลือเวลาการเป็นนายกฯ อีกแค่ 2 ปี หากรอด โอกาสที่รัฐบาลจะอยู่ยาวไปจนถึงครบวาระ หรือใกล้ๆ ครบวาระแล้วยุบสภามีสูงมาก มีการพูดกันว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ได้กลับมา ภารกิจที่อยากทำคือการเป็นเจ้าภาพประชุมเอเปกในช่วงเดือนพ.ย.ที่จะถึงนี้ โดยพอจบเอเปกก็ประเมินว่าอาจจะเป็นการยุบช่วงปลายมกราคมหรือกุมภาพันธ์ 2566 เพราะจะทำให้การโยกย้ายพรรคการเมืองต้นสังกัดลงเลือกตั้งของ ส.ส. นักการเมืองทั้งหลายที่มีเค้าลางว่าเกิดเยอะแน่ จะทำได้ง่าย หากยุบสภาสังกัดพรรคไม่น้อยกว่า 30 วันจนถึงวันเลือกตั้ง

"แต่ผมประเมินว่าหากออกมาทางนี้ ม็อบอาจจะกลับมาชุกชุมมาก เพราะกระแสต่อต้านบิ๊กตู่จะสอดรับกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง เป็นม็อบมีเบื้องหลังทั้งนั้น พูดกันตรงๆ แต่พรรคร่วมรัฐบาลก็น่าจะประคับประคองกันไปได้ เพราะบารมีบิ๊กตู่ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลยังมีอยู่ แต่ที่ต้องเคลียร์ให้ดีก็คือความสัมพันธ์ของพี่น้องกันเอง (3 ป.) สำหรับพรรคร่วมรัฐบาลอาจจะทำงานได้ราบรื่นในแง่พรรคร่วม แต่การแข่งขันทางการเมืองก็คงจะเข้มข้น ก็จะมีการเจาะพื้นที่กันวุ่นวายไปหมด” นายสาทิตย์กล่าว

ส.ส.ตรังพรรคประชาธิปัตย์ประเมินอีกว่า ทางที่สอง บิ๊กตู่ไม่รอด หากเป็นแบบนี้จะมีเงื่อนไขสำคัญคือว่าต้องเดินไปตามรัฐธรรมนูญ รัฐสภาต้องประชุมเพื่อโหวตเลือกนายกฯ คนใหม่ ที่เลือกจากรายชื่อที่พรรคการเมืองประกาศไว้ตอนเลือกตั้งปี 2562 ที่เหลืออยู่ 5 คน แต่ชัชชาติเขาประกาศสละสิทธิ์ไปแล้ว ก็เหลือ 4 คน คิดว่ารัฐสภาก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธที่จะต้องหยิบ 4 ชื่อนี้มาเรียงก่อน แล้วก็ลงมติ ซึ่งมองว่ายากที่ใน 4 คนนี้จะได้เสียงโหวตเห็นชอบจากที่ประชุมร่วมรัฐสภาเกินกึ่งหนึ่ง รัฐสภาก็ต้องมาใช้บทบัญญัติที่เป็นข้อยกเว้นเพื่อนำไปสู่การเลือกนายกฯ นอกบัญชี ก็คงไม่พ้น พล.อ.ประวิตร ที่คิดว่าหากไปถึงจุดนั้น พล.อ.ประวิตรในฐานะผู้จัดการรัฐบาล ต้องเรียกประชุมแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะเอาอย่างไร สำหรับ ปชป. หากบิ๊กตู่ไม่รอด ปชป.ที่เสนอชื่ออภิสิทธิ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ เราไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธอภิสิทธิ์ เราต้องสนับสนุนอภิสิทธิ์ แต่ก็ต้องคุยกันในพรรคร่วมรัฐบาล ก็ต้องถกกัน

เมื่อถามย้ำว่า หากสุดท้ายต้องเลือกนายกฯ คนนอก ปชป.จะเอาด้วยหรือไม่ นายสาทิตย์ตอบว่า อันนี้เรื่องใหญ่มาก ในพรรคคงต้องถกกันหนักมาก ต้องดูเงื่อนไขกันอีกที เพราะหากให้มีการโหวตเลือกนายกฯ เลย ไม่มีใครทำนายได้จะจบอย่างไร มันอาจจะวุ่นวายไปจนกระทั่งถึงเอเปกก็ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นประเทศก็อาจจะเสียหายได้

"พท.-ก.ก."ดีดปากชัยวุฒิ

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ชุมนุมเตรียมเคลื่อนไหวในวันที่ 30 ก.ย.นี้ หากเคลื่อนไหวมากๆ ระวังจะไม่ได้เลือกตั้งว่า เรื่องม็อบจะเคลื่อนไหวเป็นหน้าที่ของประชาชน เขาอยากจะแสดงออกก็เรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกัน แต่ทางพรรคเองก็ไม่ได้วิตกกังวลอะไร เพราะก็เหลือเวลาอีกไม่นานก็จะเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องการอยู่แล้ว ส่วนผู้แสดงออกภาคประชาชนเราก็ห้ามเขาไม่ได้

เมื่อถามว่า มีหลายฝ่ายมองว่าการที่นายชัยวุฒิพูดเช่นนี้ อาจจะเป็นการเรียกให้เกิดการรัฐประหารอีกหรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า "เขาพูดอาจจะไม่ได้คิดอะไร แต่เรื่องจริงคือภาคประชาชนสามารถเคลื่อนไหวได้ตามกฎหมายอยู่แล้ว ถึงคุณชัยวุฒิไม่พูด เขาก็เคลื่อนไหวได้ ไม่มีปัญหา"

นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวตอบโต้นายชัยวุฒิว่า เป็นเรื่องน่ารังเกียจสำหรับคำพูดแบบนี้ เพราะเป็นการพูดเหมือนคนที่ไม่ได้อยู่ในกระบวนการประชาธิปไตย ซึ่งหากไม่ได้มีการเลือกตั้ง หมายถึงจะมีอำนาจอื่นมาแทรกแซง ก็ไม่ค่อยสร้างสรรค์เท่าไร ไม่อยากให้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นตัวแทนประชาชนมีคำพูดแบบนี้ออกมาจากปาก ไม่ดีเลยสำหรับคนที่มาจากประชาชนแล้วมาพูดแบบนี้ พูดเหมือนกับเป็นการเอื้อที่ให้มีอำนาจนอกระบบที่ไม่ใช่อำนาจที่ประชาชนควรจะมี และไม่ให้มีการเลือกตั้ง ตนไม่สบายใจ และไม่อยากให้คนที่เป็นตัวแทนประชาชนพูดแบบนี้

วันเดียวกัน ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว คณะหลอมรวมประชาชนจัดเสวนา "นับหนึ่งประเทศไทย ด้วยอธิปไตยของปวงชน หลัง 30 กันยายน" โดยมีนายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.), นายสุริยะใส กตะศิลา อดีตผู้ประสานงาน พธม.และคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต, นายปราโมทย์ นาครทรรพ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์, นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) ร่วมเสวนา 

โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวว่า พวกเรายังมีนัดหมายวันที่ 30 ก.ย. เวลา 17.00 น. ที่แยกราชประสงค์ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม บอกว่าการออกมาเคลื่อนไหวในวันที่ 30 ก.ย. ถ้าเคลื่อนไหวมากๆ จะไม่มีการเลือกตั้ง นายชัยวุฒิต้องรู้จักพวกตนว่าไม่ใช่คนที่ใครจะมาขู่อะไรง่ายๆ นายชัยวุฒิกระจอกมาก การจะไม่มีการเลือกตั้งเกิดจากการออกแบบของ 3 ป. เวลานี้สร้างละครลวงโลก กกต.ประกาศกรอบเวลา 180 วัน ว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์อยู่ครบวาระ จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 7 พ.ค. แต่ขณะเดียวกันศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องกรณีขอให้ตีความพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ขนาดมีกติกาครบ แต่การเลือกตั้งก็ไม่เกิดหลายครั้ง การจะใช้สูตรหาร 100 หรือหาร 500 ถูกวางไว้ให้ขัดรัฐธรรมนูญทั้งคู่ อายุของสภาเหลืออยู่สมัยเดียว

ย้อน 3 ป.ไม่อยากเลือกตั้ง

"การที่นายชัยวุฒิออกมาพูดว่าไม่มีการเลือกตั้ง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการชุมนุมของประชาชน แต่เพราะ 3 ป.ไม่ยอมให้เลือกตั้ง ด้วยการเล่นแร่แปรธาตุในเรื่องรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูก คณะหลอมรวมประชาชนยืนยันชัดเจนว่าจะไม่เป็นอุปสรรคขัดขวางการประชุมเอเปก เพียงแต่เราไม่เอา 3 ป. ไม่เอารัฐประหาร สถาปนาอำนาจอธิปไตยของปวงชน” นายจตุพรกล่าว

ด้านนายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำคณะหลอมรวมฯ กล่าวว่า ถ้าการเลือกตั้งไม่เกิดขึ้นในวันนี้ คือนายชัยวุฒิ ซึ่งเป็นตัวแทนของรัฐบาล เป็นผู้พูดออกมาเองว่าจะไม่มีการเลือกตั้ง ไม่ใช่คณะหลอมรวมประชาชน ไม่ใช่ประชาชน เป็นเรื่องของรัฐบาลเรื่องของนักการเมืองทั้งสิ้น สิ่งที่ประชาชนโกรธแค้นมาตลอด 9 ปี วันที่ 30 ก.ย. พี่น้องประชาชนต้องออกมาระบายความโกรธแค้นทั้งหมด แล้วเริ่มต้นนับหนึ่งประเทศไทย 

จากนั้นได้เริ่มเสวนา โดยนายปราโมทย์กล่าวว่า การนับหนึ่งของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นการทำลายอธิปไตย รัฐบาลมีหน้าที่อดทนฟังราษฎร เพราะอำนาจอธิปไตยมาจากประชาชนที่ได้ให้ไป  อยากให้รัฐบาลย้อนไปอ่านหนังสือ จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน ของ อ.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เขียนไว้ เพราะเข้ากับยุคสมัยในตอนนี้ การลุกออกมาของประชาชนเป็นสิทธิที่ทำได้ สิ่งที่ทำให้วุ่นวาย สรุปได้เพียงครึ่งบทกลอนคือ นักกฎหมายขายวิญญาณ ทหารโง่ ถ้าไม่มี 2 อย่างนี้ ประเทศก็จะไม่ยุ่ง 

นายสาวิทย์กล่าวว่า วันที่ 30 ก.ย. ออกมาได้ทั้งสองทาง ส่วนตัวไม่ได้โกรธ เกลียด พล.อ.ประยุทธ์ เราถูกชนชั้นปกครอง ชนชั้นนำ ทำให้เรายากลำบาก ภาคแรงงาน การขึ้นค่าจ้าง ขึ้นเพียงแค่ 5เปอร์เซ็นต์ ค่าอาหาร ขึ้นไปเกือบ 100เปอร์เซ็นต์ เอาใจแต่นายทุน แต่ปล่อยให้เราจนๆ อยู่อย่างนั้น ไม่รู้ว่ากระบวนการยุติธรรมว่าอย่างไร แต่เท่าที่สัมผัสประชาชนบอกว่าไปได้ก็ดี 8 ปีที่ผ่านมา จะไปนั่งรอ ให้มีการตีความทำไม ดิ้นรนทำไม ควรนับตั้งแต่วันที่เริ่มเป็นนายกฯ เมื่อครบ 8 ปีก็ควรพอ หยุดได้แล้ว แม้กระบวนการยุติธรรมบอกว่าไปต่อได้ แต่ท้ายที่สุดประชาชนจะเอาหรือไม่ จะฝ่าพลังประชาชนไปได้หรือไม่ ที่ผ่านมากระบวนการเปลี่ยนแปลงมักเกิดจากประชาชน ถ้าเขาเบื่อแล้ว พอแล้ว ต่อให้มีปืน รถถัง ระเบิด ไปดูในหลายประเทศก็เคยพังมาทั้งนั้น

ขณะที่นายสุริยะใสกล่าวว่า โจทย์ของคณะหลอมรวมฯ คงไม่ใช่แค่ 30 ก.ย. ไม่ว่ าพล.อ.ประยุทธ์จะอยู่หรือไป ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง นักการเมืองทุกพรรค พูดน้อยต่อการเมืองระหว่างประเทศ ทำไมไม่คิดว่าไม่พึ่งพาสหรัฐหรือจีน เราก็อยู่ได้ โจทย์ตอนนี้ไม่ใช่รัฐบาลกับฝ่ายค้าน หรือเรื่องทักษิณจะได้กลับบ้านหรือไม่ แต่สถานการณ์ที่เรายังอ่านไม่ออก ถ้ามีสงครามใหญ่ เราจะอยู่ตรงไหน ถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่จะปล่อยให้เป็นเรื่องนักการเมืองอีกต่อไป

นายสุริยะใสกล่าวว่า วันที่ 30 ก.ย. ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะกลับ-ไม่กลับ ก็เป็นโค้งสุดท้ายของ พล.อ.ประยุทธ์ การเมืองยังมีเรื่องอื่น เพื่อไทยแลนด์สไลด์ได้หรือไม่ ถ้าได้แล้วจะอย่างไร ถ้าพลังประชารัฐต่อท่ออำนาจต่อไปอีก นึกถึงคนเป็นนายกฯ มีกี่คน พูดแบบนี้เดี๋ยวโดนถามกลับ แล้วจะเอาใครถ้าไม่เอาเลือกตั้ง เป็นโจทย์ที่ใหญ่มากกว่าเอาประยุทธ์-ไม่เอาประยุทธ์ เพื่อไทยจะแลนด์สไลด์หรือไม่ แต่ที่คณะหลอมรวมฯ ทำคือได้ทำให้คนเห็นต่างกันอย่างสุดโต่ง ได้มานั่งคุยกันได้ โดยไม่ต้องตีกัน ถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่แล้ว และไม่เชื่อว่าความปรองดองจะมาจากนักการเมือง เพราะนักการเมืองหากินกับความขัดแย้ง ปรองดองถ้าเริ่มจากประชาชนได้ เชื่อว่าไปได้ 

3 ป.ถึงตอนจบไปต่อยาก

"3 ป.วันนี้ถึงตอนจบแล้ว ไม่มีทางที่จะลากต่อ ได้คิดถึง 3 ป. สำหรับประชาชนแล้วคือ ปรองดอง ที่มาจากประชาชน ถ้าปรองดองไม่มา ปฏิรูปไม่เกิด จากนั้นจะได้มีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อาจมาช้าหน่อย เหนื่อยหน่อย โดยเฉพาะความหวังกับการปรองดอง อยากให้มาเร็วที่สุด  เคยคุยกับทนายนกเขา ถ้าจัดม็อบแตกหัก 3 ป. อย่าไปทำ เหนื่อย แต่ควรออกแบบประเทศหลังยุค 3 ป.ดีกว่า คำเตือน พล.อ.เปรมบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ใช้กองหนุนเปลือง ส่วนตัวมองว่าไม่ใช่แค่เปลือง แต่ใช้หมดแล้ว รวมทั้ง พล.อ.เปรมยังบอก พล.อ.ประยุทธ์ไม่นำพา มองประชาชนเป็นของตาย และในวันนี้ถือว่าสายเกินไปแล้ว” นายสุริยะใสกล่าว 

นายพิภพกล่าวว่า เรื่องวาระการดำรงตำแหน่งได้ 8 ปี ทำไมประยุทธ์ไม่รู้ ถ้าเป็นชายชาติทหาร เป็นนักการเมืองที่ดี ต้องประกาศลาออกวันนี้เลย เพราะประยุทธ์รู้เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญอยู่แล้ว การที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินวันที่ 30 ก.ย.เพราะต้องดูกระแสจากประชาชน ศาลจะดูทั้งข้อกฎหมายและทั้งทางรัฐศาสตร์ ถ้าประยุทธ์ลาออกเหมือน พล.อ.เปรม จะเป็นรัฐบุรุษ ทั้งที่มีเวลา 8 ปี ที่ทำไม่ได้ ทำไม่เป็นคือการปฏิรูปตำรวจ การปฏิรูปการศึกษา การโกงที่ชั่วร้ายที่สุดคือการโกงความยุติธรรม จะเป็นปัญหาลูกโซ่กันไป 

"วันที่ 30 ก.ย. ขอเตือนศาลรัฐธรรมนูญ อย่าทำเหมือนตอนคดีซุกหุ้นนายทักษิณ กระบวนการยุติธรรม ทำให้เกิดปัญหา ทำให้นักการเมืองเป็นนักการเมืองเลวหรือดี อยู่ที่กระบวนการยุติธรรม ขอให้ศาลดำรงความยุติธรรม รู้ว่าเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญมาจากประยุทธ์ด้วย ไม่อย่างนั้นจะให้นายมีชัยเขียนเรื่อง 8 ปีได้อย่างไร บ้านเมืองถ้าไม่มีการปฏิรูป เป็นของชนชั้นนำ วันนี้ที่คุณประยุทธ์ไม่ปฏิรูปประเทศ บ้านเมืองเลยกลายเป็นของคุณประยุทธ์ ขอเตือนว่าอันตรายทั้งประยุทธ์และคณะทหาร ที่คุณประยุทธ์พยายามทำคือ ให้ 3 ป.สามัคคีกันไว้ แตกกันไม่ได้ โดย 3 ป. ก็มีตัวอย่างมาแล้วกับ 3 ทรราช ถนอม ประภาส ณรงค์ ขอเตือน 3 ป. ต้องหยุดด้วย เชื่อว่าประเทศไทยยังมีทางออก นอกจากนี้โจทย์ของสังคมไทย เรื่องรัฐประหาร จะทำอย่างไร ยุติการทำรัฐประหารให้ได้" นายพิภพกล่าว   

ด้านนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ ให้สัมภาษณ์ว่า พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อไปนานเท่าไหร่ ความฉิบหายจะเกิดกับบ้านเมืองนานเท่านั้น แต่คนพวกนี้ไม่มีความละอายทั้งสิ้น จะดื้ออยู่ในตำแหน่ง เราจึงต้องต่อสู้กับเผด็จการ วันนี้ดีใจที่คนรุ่นใหม่ออกมาต่อต้านระบบเผด็จการ ต้องชื่นชม เราต้องใช้แนวทางการต่อสู้แบบสันติประชาธรรม หากศาลรัฐธรรมนูญมีศักดิ์ศรี มีความยุติธรรม พล.อ.ประยุทธ์ก็อยู่ไม่ได้ แต่ตนไม่ไว้ใจศาลรัฐธรรมนูญ ขอโทษที

เมื่อถามว่า หากวันที่ 30 กันยายน พล.อ.ประยุทธ์รอด จะกลายเป็นบรรทัดฐานทางกฎหมายในการนับวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ ให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือไม่ นายศิวรักษ์ ระบุว่า ไม่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นทักษิณหรือทักอะไรก็ตาม คนพวกนี้ก็มักจะตะแบงกฎหมายเพื่อความอยู่รอดของตัวเองทั้งนั้น นายทักษิณได้เปรียบ พล.อ.ประยุทธ์ ตรงที่ฉลาดกว่าและมีเงินมากกว่าเท่านั้น แต่หากพูดถึงความระยำพอๆ กัน.