“ประวิตร” โยนสื่อถามค่าเงินบาททีม ศก. ปัดแทรกแซง “อาคม” รับถกแบงก์ชาติติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจ-บาทอ่อน รับเอื้อส่งออกมั่นใจจีดีพีปีนี้โตฉลุย 3-3.5% ท่องเที่ยวคึกคักต่างชาติเข้าไทยตามเป้า “อุตตม” หนุนตั้งคณะทำงานร่วมแก้ปมค่าเงิน “กรณ์” แนะรัฐพยุงกลุ่มเปราะบาง อย่าสร้างความตื่นตระหนก
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 23 กันยายน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีค่าเงินบาทที่ได้สั่งการให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง ไปหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ก็ต้องไปถามทีมเศรษฐกิจ ได้ให้เขาไปดูเฉยๆ
เมื่อถามว่า ไม่ได้จะมีการเข้าไปแทรกแซงใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวปฏิเสธว่า “ไม่มี ไม่เกี่ยว”
ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ย. กระทรวงการคลังได้หารือกับ ธปท.เพื่อติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด และมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในทุกเรื่อง ทั้งการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปัญหาความยืดเยื้อของสงครามรัสเซีย-ยูเครน และสถานการณ์การอ่อนค่าของเงินบาท ซึ่งไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ เพราะเป็นหน้าที่ของ ธปท. โดย ธปท.เองมีความเห็นว่าจะดูแลติดตามให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างปกติให้มากที่สุด
ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงการคลังยังเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยปี 2565 จะโตได้ที่ 3-3.5% ถือว่าเป็นระดับที่ดีแล้ว และน่าจะทำได้ โดยเป็นผลมาจากการส่งออกที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทที่อ่อนค่าลง และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่ตั้งเป้าว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 8 ล้านคนก็น่าจะทำได้ตามเป้าหมาย จากเดิมที่อาจจะทำไม่ได้ โดยปัจจุบันได้แล้ว 5 ล้านคน ช่วงเวลาที่เหลือหากมีเข้ามาเดือนละ 1 ล้านคน ก็จะได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน
รมว.การคลังยอมรับว่า เงินบาทของไทยอ่อนค่าลงจริง ซึ่งทำให้ผู้ส่งออกได้ประโยชน์มาก ส่วนผลกระทบต่อราคาน้ำมัน จากการนำเข้าน้ำมัน ถือว่าไม่มาก เพราะราคาน้ำมันไม่ผันผวนมากนัก ค่ากลางอยู่ที่ 90-95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาเรล ถือว่าเป็นระดับที่ดี แต่ทุกเรื่องก็ต้องติดตาม เพราะว่าอีกไม่กี่เดือนจะเข้าสู่ฤดูหนาว ต้องดูว่าราคาน้ำมันจะผันผวนสูงอีกหรือไม่
"การที่เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% จะกระทบกับเศรษฐกิจไทยหรือไม่นั้น ยืนยันว่าคลังและ ธปท.ได้ดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะเศรษฐกิจมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ทั้งผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก ราคาพลังงานและเรื่องสงคราม ส่วนไทยจะต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายตามหรือไม่ เป็นการตัดสินใจของ ธปท." นายอาคมกล่าว
นายอาคมกล่าวอีกว่า หลักการของธนาคารกลางทุกแห่ง รวมถึงไทย เกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ย จะต้องดูปัจจัยหลักสำคัญ 3 เรื่องคือ 1.การขึ้นดอกเบี้ยจะช่วยลดเงินเฟ้อได้จริงหรือไม่ และจำเป็น ถึงเวลาหรือยังที่จะต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อลดเงินเฟ้อ 2.การขึ้นดอกเบี้ยต้องไม่กระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพราะว่าที่ผ่านมา ธปท.ก็ต้องการดูแลให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวกลับมาสู่ภาวะปกติได้เร็วที่สุด และ 3.การขึ้นดอกเบี้ยจะต้องดูเรื่องเงินทุนไหลออก แต่ที่ผ่านมายังพบว่ามีเงินทุนไหลออกบ้าง แต่จำนวนไม่มาก ยังไม่มีนัยสำคัญ
นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย และอดีต รมว.การคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ระบุให้ทุกหน่วยงานดูแลเรื่องค่าเงินบาทว่า การดูแลอัตราแลกเปลี่ยนเป็นเรื่องของ ธปท.โดยตรง ที่ต้องไปดูว่าอัตราใดที่เหมาะสม และดูสภาพของเศรษฐกิจของไทยว่าเข้มแข็งแค่ไหน เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่ได้อยู่ที่เรากำหนด แต่ขึ้นอยู่กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศว่าต้องการเงินบาทแค่ไหน ประเด็นสำคัญคือรัฐบาลจะบริหารจัดการอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า การพูดของ พล.อ.ประวิตร เข้าข่ายไปชี้นำแนวทางของ ธปท.หรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า ทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง แม้ ธปท.จะเป็นกลไกส่วนหนึ่งของภาครัฐ แต่ไม่ใช่รัฐอิสระ ต้องมีการพูดคุยกับหน่วยงานเกี่ยวข้องโดยไม่เข้าไปก้าวก่าย ก่อนหน้านี้ตนเตรียมเสนอตั้งคณะทำงานขึ้นมาหารือเชิงนโยบาย ระหว่างกระทรวงการคลัง คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ ธปท. เหมือนกับที่ประเทศอื่นมี และเวลานี้ยังทันหากจะตั้งคณะกรรมการดังกล่าวขึ้นมาเพื่อช่วยแก้ปัญหา
นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.การคลัง โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีอเมริกาเพิ่มดอกเบี้ยว่า อเมริกาเพิ่มดอกเบี้ยอย่างแรงอีก 0.75% ขึ้นไปอยู่ที่ 3.0-3.25% สูงที่สุดตั้งแต่ช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ปี 2008 ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยกับไทยเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 3% โดยที่ตลาดคาดการณ์ว่าดอกเบี้ยอเมริกาต้องขึ้นไปอีก 1% เต็มภายในปีนี้ ส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงิน เรื่องนี้เป็นปัญหา แต่ไม่ใช่เป็นวิกฤต
"อย่าสร้างความตื่นตระหนกด้วยการคิดว่าเงินบาทต้องเป็นเท่าโน้นเท่านี้ เงินบาทที่ 37 (เช้านี้ 37.2 แล้ว) จะไม่ทำให้เกิดวิกฤตแบบต้มยำกุ้งในอดีต ทุนสำรองเราสูง หนี้สาธารณะเราเอาอยู่ และวันนี้ดอลลาร์แข็ง ไม่ใช่เงินบาทอ่อน สิ่งที่ต้องทำคือช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางที่ต้องแบกรับภาระค่าครองชีพที่สูง และช่วยป้องกันไม่ให้ลูกหนี้ต้องติด black list จนหมดโอกาสฟื้นตัวแม้เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น" อดีต รมว.การคลังระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอ๊ะยังไง! 2 สัปดาห์ ชื่อ 'กิตติรัตน์' ประธานบอร์ด ธปท. ยังไม่ถึงมือขุนคลัง
'พิชัย' บอกยังไม่ได้รับรายงาน ผลการเลือก 'ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ' คาดติดช่วงวันหยุด ชี้ช่วยค่าเกี่ยวข้าวชาวนาไร่ละ 500 บาท ขอฟังความเห็นที่ประชุม นบข.
ตั้งกก.สอบผกก.บางซื่อ ทนายปาเกียวเล็งทิ้งตั้ม
“ดีเอสไอ” เตรียมสรุปสำนวนคดี 18 บอสดิไอคอนเสนออัยการคดีพิเศษภายใน 20 ธ.ค.นี้
นิกรหักเพื่อไทย เตือนส่อผิดกม. ให้กมธ.ตีความ
“นิกร” หักข้อเสนอ “ชูศักดิ์” เลยช่วงเวลาแปลงร่างประชามติเป็นกฎหมายการเงินแล้ว
‘สนธิ’ลั่นการเมืองใกล้สุกงอม!
“อุ๊งอิ๊ง” เมินปม กกต.สอบครอบงำต่อ เด็ก พท.ยันเป็นการดำเนินการตามปกติ
จ่อส่งคดีหมอบุญให้DSI
ตร.สอบปากคำอดีตภรรยา-ลูกสาว “หมอบุญ” เพิ่มเติม
ทักษิณรอดคลุมปี๊บ! ส้มเหลวปักธงอุดรธานี ‘คนคอน’ตบหน้า‘ปชป.’
เลือกตั้ง อบจ. 3 จังหวัด “เพชรบุรี-อุดรธานี-นครศรีธรรมราช” ราบรื่น