แฉรัฐเอื้อทุนค่าไฟแพง รื้อนโยบาย4บ./หน่วยได้

“สร้างอนาคตไทย” เปิดเวที ชำแหละรัฐต้นทุนไฟฟ้าแพง แฉเอกชนผูกปิ่นโตขายไฟให้รัฐยาว ปล่อยให้ประชาชนแบกภาระหลังแอ่น ลั่นถ้าได้เป็นรัฐบาลจะรื้อโครงสร้างครั้งใหญ่ไม่ให้นายทุนครอบงำ “ก้าวไกล” โต้ “กพพ.” เผยค่าไฟ 4 บาทต่อหน่วยยังเป็นไปได้ ชี้แม้รัฐพยายามช่วยแต่ทำได้แค่ชั่วคราว 

เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2565 ที่พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ร่วมกันแถลงข่าว “ชำแหละประเด็นค่าไฟแพง แก๊สแพง ใครทำร้ายประชาชน” โดยนายสนธิรัตน์กล่าวว่า วันก่อนเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ระบุจะไม่เห็นค่าไฟต่อหน่วยต่ำกว่า 4 บาทอีกแล้วนั้น เราจะยอมจำนนกับสิ่งเหล่านี้หรือไม่ ค่าไฟที่เราแบกอยู่มาจากค่าเอฟที ขณะนี้อยู่ 60-70 สตางค์ แบกค่าประกันค่าตอบแทนโรงไฟฟ้า แบกค่าราคาก๊าซ โดยต้นเดือน ก.ย.เราใช้ค่าไฟ 4.72 บาท ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ค่าไฟแพง มาจากเชื้อเพลิง 54.8% ใช้ก๊าซธรรมชาติ กฟผ.ผลิต 31% แต่เอกชน 31.2% กำลังผลิตกำลังเปลี่ยนผ่านไปยังมือเอกชน วันนี้ปริมาณกำลังผลิตตามสัญญา 51,828 เมกะวัตต์ ตอนนี้มีสัญญาที่ทำไว้กับเอกชน มีไฟฟ้าส่วนเกินครึ่งหนึ่งที่ประชาชนแบกภาระ 

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ขณะที่เรื่องค่าแก๊สแพง การใช้แก๊สในอ่าวไทยลดลงมาตั้งแต่ปี 60 พอพ้นปี 63 ปริมาณการผลิตลดลง ส่งผลต้นทุนแก๊สเราแพง ไทยเหลือแก๊สใช้เองไม่เกิน 7 ปี ดังนั้นไม่เกิน 10 ปีจากนี้เราต้องนำเข้า LNG ทั้งหมด ซึ่งการใช้แก๊สในอ่าวไทยลดลงโดยตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ราคาที่สูงจะกินเวลาไปอย่างน้อยเดือน มี.ค.66 ภาระจะไปตกกับประชาชน นโยบายพลังงานและการบริหารจัดการในช่วงที่ผ่านมาคือความผิดพลาดครั้งใหญ่ ตนขอถามว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าส่วนเกินที่เกิดขึ้นจากเอกชนใครได้ประโยชน์บ้าง การบริหารด้านความมั่นคงแก๊สในอ่าวไทยและการเปลี่ยนผ่านที่ผ่านมาเราได้เตรียมการรองรับปัญหานี้หรือไม่ หรือเราต้องการส่งเสริมไฟฟ้าเอกชน ธุรกิจ LNG วันนี้ใครได้ประโยชน์สูงสุด เอกชนหรือรัฐ ค่าการกลั่นที่ติดค้างในหัวใจประชาชนที่บอกว่าจะลดได้ให้แต่เงียบ สิ่งที่เรียกร้องมาตลอดคือ เมื่อเกิดวิกฤตต้องเอาต้นทุนจริงมาดู ไม่ใช่ใช้กลไกเดิม เมื่อราคามันสูงรัฐต้องหาทางสนับสนุน ทำไมไม่แก้ที่รากปัญหา แต่ปรากฏว่าไม่มีคำตอบ

 “เราต้องหาแหล่งพลังงานราคาถูกไม่ใช่การเซ็นสัญญาระยะยาวที่มีอยู่ ในโลกมีแหล่งพลังงานราคาถูกที่พร้อมขายให้ไทย ไม่เช่นนั้นเราจะต้องมาชดเชยที่ปลายทาง ทั้งค่าเอฟที ค่าแก๊ส ค่าน้ำมัน มันควักเงินจากประชาชนทั้งสิ้น เราเสนอให้แก้รากของปัญหา เมื่อเราแก้ได้จริงราคาพลังงานจะลดลง รัฐจะช่วยชดเชยประชาชนลดลง แก๊สในอ่าวไทยวันนี้เอาไปใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซื้อในราคาแก๊ส ควรต้องขึ้นราคาตรงนี้หรือไม่ แล้วเอากำไรตรงนี้ไปชดเชยประชาชน ไม่ใช่เอาภาษีมาชดเชยประชาชน เปลี่ยนวิธีบริหารเสีย รื้อโครงสร้างบริหารงานเสีย วางโครงสร้างบริหารพลังงานใหม่” นายสนธิรัตน์กล่าว

เลขาธิการพรรค สอท.กล่าวด้วยว่า  ถ้าพรรคได้เข้าไปบริหารเราจะรื้อสิ่งเหล่านี้และขอเสนอนโยบาย 4 โซลาร์ ได้แก่ โซลาร์รูฟท็อป สองโซลาร์ฟาร์มบนมิติโรงไฟฟ้าชุมชน โซลาร์สูบน้ำบาดาลทั่วทั้งประเทศ โซลาร์ลอยน้ำถึงเวลารื้อโครงสร้างพลังงานครั้งใหญ่ ไม่ปล่อยทุนครอบงำ

ที่อาคารอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล นายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงแสดงความกังวลต่อค่าไฟที่แพงขึ้น พร้อมตอบโต้คำแถลงของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่ออกมาระบุว่าคนไทยจะไม่ได้เห็นค่าไฟฟ้า 4 บาทต่อหน่วยอีกแล้วว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาการขึ้นค่า Ft 92 สตางค์ ทำให้คนไทยต้องจ่ายค่าไฟเพิ่มโดยเฉลี่ยถึง 5 บาทต่อหน่วย กลายเป็นค่าไฟที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ และแม้ที่ผ่านมาจะมีการอนุมัติงบกลาง 9 พันล้านบาท ออกมาช่วยเหลือประชาชน แต่ก็เป็นเพียงมาตรการชั่วคราว 4 เดือนเท่านั้น ซึ่งในอนาคตประชาชนจะต้องมาเป็นผู้แบกรับภาระดังกล่าวนี้อย่างแน่นอน แม้จะมีการมองปัจจัยหลักของปัญหาไปอยู่ที่วิกฤตพลังงานจากสงครามยูเครน-รัสเซีย และขอยืนยันอีกครั้งว่าต้นตอจริงๆ เกิดจากนโยบายของรัฐบาลที่เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนพลังงานอยู่เหนือประโยชน์ของประชาชน

นายวรภพกล่าวว่า ประการแรกมาจากการที่ทุกหน่วยไฟฟ้าที่ประชาชนต้องจ่าย เป็นการจ่ายเข้าโดยตรงให้กลุ่มทุนโรงไฟฟ้าเอกชนที่ไม่ได้เดินเครื่องถึง 24 สตางค์ต่อหน่วย เหตุจากการที่รัฐไปทำสัญญาประกันกำไรค่าความพร้อมจ่ายให้โรงไฟฟ้าเอกชนมากเกินความต้องการใช้ไปถึง 54% และกลายมาเป็นต้นทุนที่รัฐนำมาคิดกับประชาชนอีกทีหนึ่ง และนอกจากนี้ ประชาชนยังต้องจ่ายค่าผ่านท่อก๊าซ ที่ไม่มีก๊าซผ่านเพราะโรงไฟฟ้าไม่ได้เดินเครื่อง ให้กับกลุ่มทุน ปตท.อีกต่อหนึ่ง โดยรัฐบาลไม่มีความพยายามใดเลยในการเจรจาขอปรับลดแต่อย่างใด ที่ผ่านมากลับมีการรีบอนุมัติทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า PPA กับ 5 เขื่อนในประเทศลาวเพิ่มอีก 3,900 MW โดยที่ไม่รอแผน PDP ฉบับใหม่ ที่จะพิจารณาถึงความจำเป็นในการสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่ม ซึ่งการดำเนินการอย่างเร่งรีบนี้ จะย้อนกลับมาเป็นภาระให้กับประชาชนในอนาคตต่อเนื่องอย่างแน่นอน

"การเก็บค่าไฟฟ้าจากครัวเรือนเป็นอัตราก้าวหน้า หรือยิ่งใช้มากยิ่งจ่ายแพง ขณะที่เก็บจากกิจการขนาดใหญ่เป็นอัตราคงที่ ซึ่งครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าแพงสุดต้องจ่ายที่ 4.10 บาทต่อหน่วย ขณะที่กิจการขนาดใหญ่กลับจ่ายค่าไฟฟ้าแพงสุดเพียง 3.74 บาทต่อหน่วยเท่านั้น ยืนยันว่าค่าไฟที่ถูกลงที่หน่วยละ 4 บาทเป็นไปได้ หากรัฐเปลี่ยนนโยบายนำเอาผลประโยชน์ของประชาชนมาเป็นหลักก่อน" นายวรภพกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘จุรินทร์’ เผย8ปัจจัย การเมืองปี68เดือด!

"จุรินทร์" เปิด 8 ปัจจัยการเมืองปี 2568 จับตามีคดีความที่มีผู้ร้องไปยื่นร้องนายกฯ และผู้เกี่ยวข้องไว้ที่ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีเรื่องที่ค้างอยู่อย่างน้อย

‘จ่าเอ็ม’ ผวาขออารักขา

กัมพูชาส่งตัว "จ่าเอ็ม" ให้ไทยแล้ว นำตัวเข้ากรุงสอบเครียดที่ สน.ชนะสงคราม แจ้งข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เจ้าตัวร้องขอเจ้าหน้าที่คุ้มครองเป็นพิเศษ

เป็นแม่ที่ดีหรือยัง! ‘อิ๊งค์’ เปิดอกวันเด็กสมัยก่อนไม่มีไอแพดโวยถูกบูลลี่

"นายกฯ อิ๊งค์" เปิดงานวันเด็กคึกคัก! เด็กขอถ่ายรูปแน่น พี่อิ๊งค์ล้อมวงเปิดอกตอบคำถามเด็กๆ มีพ่อเป็นต้นแบบ เผยวัยเด็กไม่มีไอแพด โทรศัพท์ ไลน์ พี่มีลูกสองคน

‘บิ๊กอ้วน’ เอาใจทอ. เคาะซื้อ ‘กริพเพน’

ปิดจ๊อบภายในปีนี้! "บิ๊กอ้วน" ไฟเขียว ทอ.เลือก "กริพเพน" มั่นใจคนใช้เป็นคนเลือก รออนุมัติแบบหลังทีมเจรจาออฟเซตกับสวีเดนจบ แจงทูตสหรัฐแล้ว ไทยยันไม่มีนโยบายกู้เงินซื้ออาวุธตามข้อเสนอขายเอฟ