เข้าสู่โหมดเลือกตั้ง จับตารบ.ตกเขียว!

“กกต.” เตรียมออกประกาศให้ชัดเจนเรื่องสิ่งทำได้ทำไม่ได้ในกรอบ 180 วัน “ก้าวไกล” รับได้บอกไม่มีเรื่องได้เปรียบเสียเปรียบ แต่จี้หน่วยงานรัฐระวังเป็นแพะ  ถูกนักการเมืองหลอกใช้หาเสียง พร้อมข้องใจป้าย "ประวิตร" เข้าข่ายหรือไม่ “เพื่อไทย” ซัดบัตรคนจนตกเขียวล่วงหน้า! “ชวน” ยอมรับพื้นที่ภาคใต้เริ่มเปลี่ยนไป ปัจจัยหลักมาจากการซื้อเสียง “ลุงป้อม” ลงนราธิวาส  ประชาชนแห่ต้อนรับ สุดเขินถูกเรียกท่านนายกฯ

เมื่อวันจันทร์ที่​ 19 กันยายน มีรายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการ​การ​เลือกตั้ง​ (กกต.)​ แจ้งว่า ได้เตรียมออกประกาศหลักเกณฑ์เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้สมัครและพรรคการเมืองปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  (ส.ส.) ภายในกรอบเวลา 180 วัน ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.นี้ ว่าสิ่งใดทำได้หรือไม่ได้บ้างในช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน โดยจะนำเนื้อหาของมาตรา 73 มากำหนดเป็นประกาศและรายละเอียดต่างๆ  เพื่อเป็นแนวทางให้พรรคการเมืองและผู้สมัครรับเลือกตั้ง  ส.ส.ได้ปฏิบัติตาม โดยร่างประกาศดังกล่าวอยู่ระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหา คาดว่าภายใน 1-2  วันนี้จะเผยแพร่ประกาศได้

ทั้งนี้ ในวันที่ 23 ก.ย. สำนักงาน กกต.มีกำหนดจัดประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการของพรรคการเมือง ครั้งที่ 4 ประจำปีงบประมาณ 2565 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือ zoom ซึ่งคาดว่านายแสวง บุญมี  เลขาธิการ กกต.จะชี้แจงเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมด้วย รวมทั้งชี้แจงการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด การรับฟังความคิดเห็นร่างประกาศ กกต. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการจัดประชุมสมาชิกเพื่อรับฟังความคิดเห็นและให้สมาชิกให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบรายชื่อผู้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ รวมทั้งการรับฟังความเห็นเบื้องต้นเกี่ยวกับกำหนดอัตราส่วนขั้นต่ำของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ซึ่งเป็นชายและหญิง

ด้านนายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะการไม่สามารถแจกสิ่งของช่วยน้ำท่วมหรือโควิด-19 ได้  จะทำให้เสียเปรียบพรรคร่วมรัฐบาลที่อาจมีรัฐมนตรีแอบแฝงช่วยหาเสียงหรือไม่ว่า กติกาเราไม่ได้กังวลว่าใครจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบ เพราะเป็นกติกาที่ออกมาเป็นทางการและทราบมาก่อนแล้ว แต่สิ่งที่ขาดหายไปคือ กกต.ไม่ได้ลงรายละเอียด เกรงว่าว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จะไม่เข้าใจในเชิงปฏิบัติ และในเดือน ต.ค.เป็นช่วงประเพณีทอดกฐิน  หาก กกต.สามารถออกระเบียบและแนวปฏิบัติ พร้อมช่องทางสำหรับสอบถามกรณีที่เกิดความไม่เข้าใจว่าสามารถทำได้หรือไม่ได้จะสมบูรณ์มากกว่า

นายณัฐวุฒิระบุว่า ฝ่ายค้านเราทำหน้าที่ตามปกติเพื่อดูแลปัญหาความเดือดร้อนด้านปากท้องและน้ำท่วม แต่จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามกรอบที่ กกต.กำหนดมา ส่วนรัฐบาลมีหน้าที่ดูแลประชาชน แต่อย่าแฝงใช้ช่องเพื่อเอื้อประโยชน์และบอกว่าพรรคนั้นพรรคนี้ทำ หากเลือกพรรคนี้ในอนาคตจะกลับมาทำแบบนี้อีก เช่นการขึ้นป้ายขนาดใหญ่ตามจังหวัดต่างๆ ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งอาจบอกว่าทำหน้าที่รักษาการนายกฯ แต่ว่าเราก็เห็นชัดเจนว่ามีโลโก้พรรคการเมืองที่พูดถึงนโยบายเบื้องต้นที่จะทำในอนาคต  แม้เกิดขึ้นก่อนวันที่ 24 ก.ย.ก็ถือเป็นการใช้เงื่อนไขในการดำเนินการ ขณะเดียวกันพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล และกลไกฝ่ายรัฐบาลก็อย่าไปบังคับหรือให้คนอื่นกระทำการแทนด้วย จึงอยากเตือนข้าราชการสังกัดกระทรวง  ทบวง กรมต่างๆ ว่าอาจตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองโดยไม่รู้ตัวและทำผิดกฎหมายของ กกต.ด้วย

เมื่อถามว่า พรรคฝ่ายค้านจะตั้งทีมมอนิเตอร์เรื่องนี้หรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า พรรคได้ตักเตือนว่าที่ผู้สมัคร  ส.ส.ของพรรคตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แต่ในสัปดาห์นี้เราจะลงรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อป้องกันไม่ให้ขัดระเบียบ กกต. และหลีกเลี่ยงไม่ให้คู่แข่งทางการเมืองใช้ประโยชน์ในการร้องเรียน โดยพรรคจะทำ 3 ระดับ คือ 1.การตักเตือนเบื้องต้น 2.จะหารือแนวทางปฏิบัติให้ ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ได้รับทราบ และ 3.ช่วงปลายสัปดาห์นี้จะสัมมนา ส.ส.และบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่ออธิบายรายละเอียด และเปิดช่องตอบคำถาม

 “กกต.ต้องตั้งรับและทำงานเชิงรุกผ่านการทำหน้าที่ กกต.จังหวัด โดยการเปิดช่องให้สอบถามว่าการกระทำใดสามารถทำได้หรือไม่ได้อย่างไร เพื่อลดช่องโหว่การตีความระเบียบที่ไม่ชัดเจนด้วย ไม่ใช่ว่าโยนความรับผิดชอบมาให้พรรคการเมืองอย่างเดียว” นายณัฐวุฒิกล่าว

บัตรคนจนหาเสียงล่วงหน้า

นายคุณากร ปรีชาชนะชัย ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีรัฐบาลจัดให้ประชาชนไปลงทะเบียนเพื่อรับบัตรคนจน โดยตั้งเป้าที่ 20 ล้านใบว่า เท่ากับประเทศไทยมีคนจนเพิ่ม 7 ล้านคน จาก 13 ล้านใบเมื่อปี 2560 สะท้อนผลงานรัฐบาลบริหารประเทศได้ห่วยมาก และยังน่ากังขาว่า เหตุใดรัฐบาลจึงโหมประโคมข่าวการลงทะเบียนบัตรคนจนทุกช่องทางประชาสัมพันธ์ของรัฐ  แม้แต่ครั้งที่ พล.อ.ประวิตรลงพื้นที่หนองบัวลำภูยังติดป้ายโชว์บัตรคนจนทั่วเมือง หลายฝ่ายกังขาว่ารัฐบาลนำงบประมาณมาซื้อเสียงล่วงหน้าหรือไม่ แม้เป็นโครงการที่ช่วยประชาชน แต่ไม่ควรแฝงการหาเสียงให้พรรคการเมือง  การชิงความได้เปรียบทางการเมืองเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจมาก แม้จะช่วยประชาชนแต่ไร้ซึ่งความจริงใจ 

วันเดียวกัน ในเวลา 08.45 น. พล.อ.ประวิตรพร้อมคณะเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6  (บน.6) ดอนเมือง ด้วยเครื่องบินกองทัพอากาศ หมายเลข 60206 ไปยังท่าอากาศยานนราธิวาส จ.นราธิวาส  โดยทันทีที่เดินทางมาถึง นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน  และนายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  (พปชร.) นำ ส.ส.พรรคและว่าที่ผู้สมัครพรรคมารอให้ต้อนรับ โดย พล.อ.ประวิตรเข้าห้องรับรองพูดคุยร่วมกันใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก่อนออกเดินทางลงพื้นที่ด้วยรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด ป้ายแดง หมายเลขทะเบียน บ 7240 กรุงเทพมหานคร

ต่อมาเวลา 11.00 น. พล.อ.ประวิตรเดินทางถึงมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ โดยมี พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ให้การต้อนรับ พร้อมรายงานสรุปการขับเคลื่อนพัฒนาศักยภาพด่านศุลกากรไทย-มาเลเซีย, การเสริมอัตลักษณ์ทางภาษา ประเพณี และวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่ง พล.อ.ประวิตรยังได้เยี่ยมชมนิทรรศการเสริมสร้างศักยภาพมหาวิทยาลัย เพื่อรองรับการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และกิจกรรมโคบาลชายแดนใต้ ภายใต้โครงการเมืองปศุสัตว์ตามกรอบระเบียงเศรษฐกิจฮาลาลจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมฟังบรรยายภาพรวมการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

โดยระหว่างการรับฟังบรรยายสรุปโครงการสร้างเสริมศักยภาพมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อรองรับการพัฒนาจังหวัดนราธิวาส พล.อ.ประวิตรได้กล่าวฝากมหาวิทยาลัยให้ดูแลเรื่องภาษาไทย ทำอย่างไรจะให้เด็กในพื้นที่ใช้ภาษาไทยได้ดี เพราะเวลากลับบ้านใช้ภาษามลายูกัน

จากนั้น พล.อ.ประวิตรพูดคุยกับเกษตรกร อ.รามันและสุไหงปาดีผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ สอบถามถึงปัญหาต่างๆ พร้อมถามว่าพอใจหรือไม่ และขอให้กลุ่มเกษตรกรประสบความสำเร็จในการดำเนินการตามแผน  ขณะที่ตัวแทนเกษตรกร อ.สุไหงปาดีได้กล่าวขอบคุณและระบุว่า "พอใจมากครับท่านนายกฯ” ทำให้ พล.อ.ประวิตร อมยิ้มพร้อมตอบทันทีว่า "ผมไม่ใช่นายกฯ แต่เป็นรองนายกฯ" สร้างเสียงหัวเราะให้ผู้ร่วมงาน ซึ่ง พล.อ.ประวิตรยิ้มเขิน และต่อมา พล.อ.ประวิตรได้เป็นประธานประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) และภายหลังประชุม พล.อ.ประวิตร ร่วมพบปะหารือกับผู้บริหารภาคธุรกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย

จากนั้น พล.อ.ประวิตรแถลงถึงผลการประชุม กพต. ก่อนหารือนอกรอบกับกลุ่ม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐในพื้นที่ภาคใต้อีกครั้ง โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที

‘บิ๊กป้อม’ บอกรักทุกคน

ต่อมาเวลา 16.00 น. ที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก  พล.อ.ประวิตรรับฟังบรรยายสรุปและชมบริเวณจุดก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก ก่อนพบประชาชนกว่า  3,000 คนที่มารอต้อนรับ ซึ่งมีทั้งชูป้ายและถือดอกกุหลาบสีแดง พร้อมตะโกนเรารักลุงป้อม ลุงป้อมสู้ๆ ขอให้ลุงป้อมเป็นนายกฯ ก่อนที่จะมีชาวบ้านคนหนึ่งถาม พล.อ.ประวิตรว่ารักสุไหงโก-ลกไหม พล.อ.ประวิตรตอบว่า  "รัก" ขณะเดียวกันได้มีหญิงสูงวัยเข้าสวมกอด พล.อ.ประวิตรด้วยความดีใจ และบอกด้วยว่าขอ พล.อ.ประวิตรมีแต่รอยยิ้ม ก่อนที่ พล.อ.ประวิตรจะขึ้นเวทีกล่าวกับประชาชนว่ารักทุกคน ก่อนกล่าวถึงผลงานต่างๆ ของรัฐบาล ทั้งการส่งเสริมการเลี้ยงวัว, การแก้ไขการว่างงานช่วงโควิด-19, การบริหารจัดการไฟฟ้ายั่งยืน, การแก้ไขภาวะโภชนาการต่ำในเด็ก และแก้ไขปัญหาครัวเรือนยากจนอย่างยั่งยืน เป็นต้น

“ทุกเรื่องเป็นความห่วงใยและปรารถนาดีของรัฐบาล  และถือเป็นเรื่องสำคัญที่ กพต.ดำเนินการเพื่อประชาชนทุกภาคส่วน ขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมกันต้อนรับอย่างอบอุ่น และขอให้ช่วยกันบอกต่อพี่น้องประชาชนให้ได้รับข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ เพื่อเข้าร่วมโครงการตามที่ท่านต้องการได้ ผมเน้นย้ำว่าประธาน กพต.ได้ทำให้ท่านอย่างเต็มที่ เพื่อประโยชน์และความสุขต่อชีวิตของท่านและครอบครัวในทุกมิติโดยเร็วต่อไป" พล.อ.ประวิตร กล่าวท่ามกลางเสียงปรบมือ

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงพรรคการเมืองต่างๆ ลงพื้นที่ภาคใต้ว่า ในฐานะที่เป็น  ส.ส.ภาคใต้ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่มีการซื้อเสียง สลึงเดียวก็ไม่เคยใช้ในทางการเมือง แต่ก็ต้องเหนื่อยและต้องรับใช้พี่น้องประชาชนตลอดชีวิต แต่ขณะนี้ด้วยความที่เป็นพื้นที่เดิมที่ไม่มีการใช้เงิน พอเริ่มมีการใช้เงินก็มีผลทางเศรษฐกิจของคนที่ไม่ค่อยดี คนที่ลงทุนก็ลงทุนที่อื่นแพง แต่ลงทุนที่นั่นถูกเพราะไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป และการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาการเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไป แต่การเลือกตั้งครั้งต่อไปคงต้องแย่งกันหลายพรรค

 “เห็นทุกพรรคบอกจะแลนด์สไลด์หมด แต่จะแลนด์หรือไม่ต้องเอาไว้ดูตอนนั้น แต่สิ่งที่พวกผมยังทำอยู่คือ การรณรงค์กับพี่น้องประชาชนว่าขอให้รักษาอุดมการณ์เดิม อย่ายอมให้ใครมาซื้อ ต้องทำให้นักการเมืองไม่โกง  ถ้าคนลงทุนแล้วไม่เอาคืนมันยาก หรือถ้านักการเมืองไม่โกง พรรคการเมืองก็ต้องโกง เพราะต้องเอาเงินมาเป็นทุน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ไม่มีคนที่ไปซื้อตำแหน่งเข้ามาแล้วไม่หาผลประโยชน์ หายาก ฉะนั้นประชาชนต้องตระหนักเรื่องนี้ ว่าถ้าเรายอมรับเงื่อนไขที่เขาให้เงินแล้วไปลงคะแนน ผลที่ตามมาก็คือประชาชนขาดทุน เพราะคนเหล่านั้นเข้ามาหาผลประโยชน์” นายชวนกล่าว

ขณะที่นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ หรือซ้อเจน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกระแสข่าวเตรียมย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย (พท.) เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต 5 จังหวัดกาญจนบุรี ว่า ยืนยันว่ายังเป็น ส.ส.ของพรรค ปชป. ยังไม่ได้ลาออกไปไหน และยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องนี้ แต่ยอมรับว่ามีแกนนำพรรคการเมืองต่างๆ ติดต่อทาบทามมาจริง บางพรรคก็ได้พูดคุยกัน ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติทางการเมือง ส่วนที่วิเคราะห์กันนั้นก็อาจมาจากนายรังสรรค์ รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ สามีที่มีความสนิทสนมกับเพื่อนหลายคนในพรรคเพื่อไทย แต่ยืนยันว่าวันนี้ยังอยู่กับประชาธิปัตย์.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

7+1 โล่ง! ศาลรธน. ปัดตกคำร้องฟัน 'กกต.' ล้มล้างการปกครองฯ

สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ออกเอกสารข่าวเผยแพร่ผลการประชุมกรณี นายพลภาขุน เศรษฐญาบดี (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การที่ผู้ถูกร้องทั้งแปดร่วมกันใช้อำนาจตามกฎหมาย

งัดกม.กดดันนายกฯ พปชร.อ้างข้อบังคับพรรค ทวงใบกรอกประวัติ‘ป๊อด’

"อุ๊งอิ๊ง" ยังเล่นบทเตมีย์ใบ้ "หมอมิ้ง" ขึงขังไม่ขีดเส้นตายรายชื่อ รมต. แต่ถ้าไม่ส่งก็ถือว่าไม่ส่ง พลิ้วไม่รู้หนังสือ