‘ชวน’กรีดหวังดีคิดถึงปท. หน่อยอัดประชานิยมกยศ.

“ไตรศุลี” ย้ำรัฐบาลยังมี กม.ดูแลกัญชาอยู่เต็มที่แม้ร่าง พ.ร.บ.ถูกยื้อเวลา “ชวน” ต้นตำรับ กยศ.ชี้เรื่องยังไม่จบ กรีดนิ่มๆ ทุกคนหวังดีแต่บางเรื่องนั้นต้องคิดถึงความอยู่รอดของประเทศ ชี้ดอกเบี้ยดูเป็นการสร้างวินัย “สุดารัตน์” ซัดตัดสินใจแบบเสื้อโหล ประชานิยมมุ่งแต่หาเสียง

เมื่อวันอาทิตย์ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยถึงกรณีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้มีมติให้ถอนร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ…. ออกจากวาระประชุม เพื่อให้ทบทวนร่างกฎหมายใหม่อีกครั้ง ทำให้เกิดกระแสความกังวลว่าจะไม่มีกฎหมายควบคุมการใช้กัญชาและกัญชง ว่ารัฐบาลขอยืนยันว่าปัจจุบันมีกฎหมายที่ควบคุมการใช้กัญชา กัญชงให้เหมาะสมอย่างรอบด้าน เพราะตั้งแต่รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายส่งเสริมกัญชาทางการแพทย์ โดยปลดล็อกให้ทุกส่วนของกัญชาและกัญชงออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษ ยกเว้นแต่เพียงสารสกัดจากกัญชาและกัญชงที่มีสาร THC เกินกว่า 0.2% ที่ยังถือเป็นยาเสพติด มีผลมาตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.2565 กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ออกกฎหมายหลายฉบับเพื่อควบคุมให้เกิดการใช้ให้เป็นไปตามนโยบายที่มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์เพื่อเศรษฐกิจ ไม่สนับสนุนการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ

“แม้ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ ยังคงต้องอยู่ในการพิจารณาของรัฐสภา กฎหมายที่มีอยู่ในขณะนี้ก็ควบคุมการใช้กัญชา กัญชง ไปจนกว่าพระราชบัญญัติฉบับสมบูรณ์จะออกมาบังคับใช้ หรือหากมีกรณีใดที่มีความจำเป็นต้องออกกฎหมายมารองรับ ก็มีคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพืชกัญชาและกัญชง ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน สามารถพิจารณาออกประกาศหลักเกณฑ์ต่างๆ มาดูแลเพื่อให้เกิดความเหมาะสมเพิ่มเติมได้” น.ส.ไตรศุลีกล่าว

ขณะเดียวกัน นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีสภาผู้แทนราษฎรผ่านร่าง พ.ร.บ.เงินกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) โดยไม่เก็บดอกเบี้ยและค่าปรับใช้หนี้ล่าช้า ว่านั่งประชุมและเป็นประธานอยู่ โดยมีคน 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งคิดดอกเบี้ย ซึ่งรัฐบาลขอดอกเบี้ยคิด 2% แต่กรรมาธิการให้ลดดอกเบี้ยเหลือ 0.25% มติที่ประชุมยกให้ 0.25% แต่พอมาเข้าที่ประชุมสภากลุ่มที่ไม่เอาดอกเบี้ยชนะ ก็เลยต้องถามในมติว่ามีกี่มติแล้วถอนเหลือมติเดียวว่าไม่คิดดอกเบี้ย ซึ่งหมายความว่ามีปัญหากับ กยศ.ต่อไป เท่ากับว่าไม่มีรายได้ไว้บริหารเลย และไม่คิดเงินเพิ่มเบี้ยปรับ

“การไม่คิดทำให้คนที่ผิดนัดไม่ต้องเสียค่าปรับ แทนที่จะเสียตามกำหนดเวลาก็ยืดเยื้อที่จะไม่จ่าย เงินก็เข้ามาหมุนไม่ทัน ซึ่งทุกคนหวังดีต่อประชาชน แต่ความหวังดีนั้นบางเรื่องนั้นต้องคิดถึงความอยู่รอดของประเทศด้วย ว่าจะทำให้ส่วนรวมของประเทศอยู่รอดได้อย่างไร ต้องปลูกฝังคนให้รู้จักสำนึกรับผิดชอบ 0.25 สตางค์ฝ่ายที่คิดว่าคิดดอกเบี้ยดูว่าไม่มาก แต่มันเป็นการสร้างวินัยให้กับพี่น้องประชาชน” นายชวนกล่าว

นายชวนกล่าวต่อว่า กฎหมายนี้ยังไม่ออกมา ยังไม่ผ่านวุฒิสภา ต้องรอดูวุฒิสภาว่ามีความคิดเห็นอย่างไร ถ้าวุฒิสภามีความเห็นไม่แก้ไขก็ผ่านไปได้ เลยไม่คิดดอกเบี้ย แต่ถ้าแก้ไขก็ต้องย้อนกลับมาอีกที และต้องถามที่ประชุมว่าเห็นด้วยหรือไม่ ถ้าเห็นด้วยก็จบ แต่ถ้าไม่เห็นด้วยก็ต้องตั้งกรรมาธิการ 2 ฝ่ายเข้ามาหารือ ซึ่งเรื่องยังไม่ยุติ

ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวในเรื่องนี้ว่า การลงมติของสภาเป็นเหมือนนโยบายประชานิยม มุ่งแต่การหาเสียง โดยไม่ได้คำนึงถึงผลที่ตามมา และจริงๆ เรื่อง กยศ. มีปัญหาที่หลักการและระบบของการคิดหนี้ ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ควรแก้ไขแค่ว่าจะเก็บดอกเบี้ยหรือไม่เก็บดอกเบี้ย แต่ควรใช้วิธีการที่แก้ปัญหาให้ตรงจุด เช่น คนที่เป็นหนี้เสีย เขาทำหนี้เสียเพราะอะไร ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ

“สภาตัดสินใจแบบเสื้อโหล ไม่ได้ดูปัญหาเงื่อนไขอะไรเลย เอาง่ายเข้าว่า คำถามว่าวันนี้ต้องแก้หนี้ กยศ.ไหม ต้องแก้  แต่ต้องแก้อย่างเป็นระบบ โดยให้เด็กเข้ามาสู่ระบบของการแก้หนี้ การไม่คิดดอกเบี้ยทำได้ แต่ต้องไม่ก่อให้เกิดการกระทำตามหรือการสร้างหนี้เสีย” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว และว่า พรรคเราไม่คิดแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุแบบนี้ เรามีการวางระบบล้างหนี้ กยศ.ให้กับเด็กทุกคนที่เป็นหนี้อย่างเป็นธรรม พร้อมเสนอให้ใช้วิธีการเรียนฟรีจนจบปริญญาตรี ซึ่งหากเป็นนโยบายนี้ก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึงการกู้หนี้ยืมสิน

ส่วนนายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ คณะทำงานฝ่ายการเมือง พรรคกล้ากล่าวถึงกรณีสภามีมติถอนร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ และยกเลิกดอกเบี้ย กยศ. ว่าหากพักเรื่องการเมืองลงบ้าง มาดูที่เนื้อหาจริงๆ คำนึงถึงประชาชนเป็นที่ตั้งกัญชาเสรีแบบ 100% ไม่ดีแน่นอน โดยเฉพาะช่วงสุญญากาศ และการที่ปัดตกถอนร่างกฎหมาย พ.ร.บ.กัญชาฯ เท่ากับว่าเพิ่มเวลาสุญญากาศให้กัญชายังเสพได้-ขายได้ แทนที่จะโหวตรับบางข้อที่เป็นประโยชน์ ส่วนการยกเลิกไม่คิดดอกเบี้ย กยศ.เป็นการช่วยเชิงประชานิยมที่ผิดพลาด ดูหวังผลคะแนนนิยมมากกว่ามองทั้งระบบ เพราะที่ควรแก้ด้วยการปรับดอกเบี้ยต่ำ 0.5-1% หรือเพิ่มระยะเวลาชำระหนี้ให้นักเรียนมากกว่า

“การยกเลิกดอกเบี้ย 0% ไม่แฟร์กับกลุ่มนักเรียนวินัยดีรุ่นก่อนๆ ที่ชำระดอกเบี้ยครบตามกำหนด เมื่อกองทุนสำรองเพื่อการศึกษาขาดทุนเรื่อยๆ และพังลง จะเกิดเป็นปัญหาระยะยาว ภาระไปตกกับใคร ถ้าไม่ใช่เด็กรุ่นหลังต่อๆ ไป ที่เขาอาจไม่มีโอกาสเข้าถึงทุนเล่าเรียนแบบนี้ ดีไม่ดีอนาคตเราอาจได้เห็นภาพ เด็กคนหนึ่งที่ไม่ได้เรียนและพี้กัญชา เพราะว่าเกมการเมืองในวันนี้” นายพงศ์พลระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

งัดกม.กดดันนายกฯ พปชร.อ้างข้อบังคับพรรค ทวงใบกรอกประวัติ‘ป๊อด’

"อุ๊งอิ๊ง" ยังเล่นบทเตมีย์ใบ้ "หมอมิ้ง" ขึงขังไม่ขีดเส้นตายรายชื่อ รมต. แต่ถ้าไม่ส่งก็ถือว่าไม่ส่ง พลิ้วไม่รู้หนังสือ