พท.จมูกดี! ได้กลิ่นยุบสภาฯ

.vce-row-container .vcv-lozad {display: none}

เพื่อไทยจมูกดี ได้กลิ่นยุบสภาช่วงปลาย ธ.ค.-ม.ค. เพราะสภาเข้มข้นล่มบ่อย ชี้หาก พปชร.ดัน “บิ๊กป้อม” นั่งนายกฯ หลัง “บิ๊กตู่” พ้นตำแหน่งไม่สง่างาม เหตุเป็นนายกฯ คนนอก อย่าข้ามชื่อ “อนุทิน-อภิสิทธิ์” ก้าวไกลมองขาด เมื่อเหลือ 6 เดือนสุดท้าย แต่ละพรรคการเมืองก็ย่อมที่จะเป็นตัวของตัวเอง

เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2565 นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ ตามกฎหมายแล้วยังสามารถรักษาการต่อได้หรือไม่ ว่าหากพล.อ.ประยุทธ์พ้นจากตำแหน่ง คณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้ง 35 คนก็จะหลุดจากตำแหน่งด้วย และต้องมีการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่หากศาลรัฐธรรมนูญให้ พล.อ.ประยุทธ์กลับมาปฏิบัติหน้าที่ต่อ ก็สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีต่อได้เลย ทั้ง นี้ ขึ้นอยู่ที่วันที่ 30 ก.ย. ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยออกมาอย่างไร  แต่ก็ดูเหมือนว่า พล.อ.ประยุทธ์จะมั่นใจว่าจะได้กลับมา

เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่ล่าสุดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีการเตรียมรับมือกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องพ้นจากตำแหน่ง ก็จะมีการดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน เขาตอบว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์พ้นจากตำแหน่ง ก็ต้องมีการสรรหานายกรัฐมนตรีใหม่ในรัฐสภา เขาก็จะเสนอ พล.อ.ประวิตร ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก และไม่ได้อยู่ในบัญชีรายชื่อตามมาตรา 88 เพราะ พปชร.เสนอ พล.อ.ประยุทธ์เพียงคนเดียว หากจะมีการเสนอนายกรัฐมนตรีคนนอกก็สามารถทำได้

ทั้งนี้ หากจะต้องใช้คนนอก ก็ต้องใช้เสียง 2 ใน 3 คือ 500 เสียง เพื่อบอกว่าให้ยกเว้นรัฐธรรมนูญมาตรานี้ แต่การทำเช่นนี้ไม่สง่างาม เนื่องจากยังมีชื่อของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อยู่

ถามถึงกรณีที่ขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลเริ่มมีการบาดหมางกัน โอกาสที่จะยุบสภามีมากน้อยแค่ไหน นายสมคิดกล่าวว่า การยุบสภามีความเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้เท่าๆ กัน แต่ตนเชื่อว่าคนที่รักษาการนายกรัฐมนตรีอยู่จะไม่ยุบสภา เพราะวันนี้สภาปิด ไม่มีอะไรมาให้หนวกหู และสภาก็ไม่ได้มีปัญหากับรัฐบาล ฉะนั้นในระยะเวลาหนึ่งเดือนครึ่งที่มีการปิดสมัยประชุม จะไม่มีการยุบสภาล้านเปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อเปิดประชุมสภามาก็จะมีเรื่องของการประชุมเอเปก ซึ่งโดยมารยาทสภาก็จะไม่ไล่รัฐบาล เขาก็จะให้รัฐบาลเดินหน้าประชุมเอเปกให้เสร็จก่อนแล้วจึงค่อยไล่

“เรื่องยุบสภาในตอนนี้ผมว่ายังไม่ถึง ผมมองว่าน่าจะเป็นปลายเดือนธันวาคมหรือมกราคม เพราะช่วงนั้นสภาก็จะเข้มข้น และช่วงนั้นองค์ประชุมก็จะล่มบ่อย เนื่องจากรัฐบาลก็กัดหูกันอยู่ ซึ่งเมื่อการประชุมสภาเดินไปหลังเอเปก คนที่จะทำให้องค์ประชุมล่มก็คือรัฐบาล โดยรัฐบาลไม่ให้คนของตนเองมาประชุม เมื่อล่มบ่อย สังคมก็จะโจมตีหนักว่าหากไม่ประชุมกันจะอยู่ทำไม ยุบสภาแล้วให้มีการเลือกตั้งใหม่ไม่ดีกว่าหรือ ซึ่งก็จะเป็นช่วงที่สภาจะครบเทอมในเดือนมีนาคมด้วย เพราะหากมีการยุบสภา จะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ไม่เกิน 60 วัน และสมาชิกพรรคต้องสังกัดพรรคไม่น้อยกว่า 30 วัน หมายความว่าจะเป็นการเปลี่ยนถ่ายคนในพรรคที่จะมีการโยกไปโยกมา ผมว่าจะมีเยอะ พรรคเพื่อไทยก็จะมีเข้าและมีออกเป็นธรรมดา” นายสมคิดกล่าว

ไม่ให้ 250 ส.ว.เลือกนายกฯ

ด้านนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวว่า หากมีการผลักดัน พล.อ.ประวิตรมาแทนพล.อ.ประยุทธ์ ก็อยู่ในเครือข่ายเดิม เป็นลูกพี่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ถึงแม้จะมีความเห็นต่างหรือความแตกแยกกันในระดับหนึ่งของพี่น้อง แต่อย่างไรก็ไม่พ้นอำนาจเครือข่ายรัฐประหารเดิม อำนาจยังไม่อยู่กับประชาชนเหมือนเดิม ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์เท่าไหร่

เมื่อถามว่า พรรคร่วมรัฐบาลเริ่มมีการบาดหมางกัน ในอนาคตมีโอกาสที่จะยุบสภาเกิดขึ้นได้หรือไม่ นายธีรัจชัยตอบว่า เกิดได้เสมอในช่วง 6 เดือนสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง เพราะในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลในช่วงแรกๆ อาจจะเกรงใจเพราะกลัวจะถูกตัดออกจากพรรคร่วมรัฐบาล แต่เมื่อเหลือ 6 เดือนสุดท้าย แต่ละพรรคการเมืองก็ย่อมที่จะเป็นตัวของตัวเอง เพื่อจะให้ประชาชนเชื่อว่าตัวเองไม่ได้อยู่ฝ่ายรัฐประหาร ทั้งที่อยู่มา 3 ปีแล้ว และเพื่อแสดงว่ามีนโยบายหรือผลงานอะไร เพื่อจะให้ประชาชนเลือกต่อไปได้เท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีอะไรที่แปลก ทั้งนี้ การเมืองที่ควรจะเป็นแบบพรรค ก.ก.ทำ คือเรายืนยันชัดเจนว่าไม่เอาโครงสร้างการรัฐประหาร เราจะเปลี่ยนแปลงในรูปแบบโครงสร้างประเทศไปสู่ประชาธิปไตยที่มีอำนาจมาจากประชาชนจริงๆ ไม่ใช่ให้ ส.ว. 250 คน เลือกนายกฯ

“การเลือกตั้งครั้งที่จะถึง ผมเชื่อว่าประชาชนน่าจะมองเห็นอะไรชัดว่า อำนาจจากประชาชนที่บอกว่า เราจะทำตามสัญญาขอเวลาอีกไม่นาน ก็เป็นเพื่ออำนาจกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ได้เพื่ออำนาจประชาชนเลย” นายธีรัจชัย กล่าว

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย เผยว่า จากการที่พรรคสร้างอนาคตไทยจัดเวทีสานเสวนา "อันดามันรอด ประเทศไทยรุ่ง" ที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา พรรคได้รับทราบข้อมูลตรงจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ ทั้งภาคประชาชน ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี นักธุรกิจ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นจะถูกนำมาประมวลเป็นนโยบาย และมอบหมายให้ทีมงานในพื้นที่ของพรรคไปทำงานอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องกับทุกภาคส่วน เพื่อยืนยันว่านโยบายที่ได้นั้นมีการขับเคลื่อน และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนในพื้นที่ฝั่งอันดามันได้อย่างแท้จริงต่อไป

พูดถึงคนจนแล้วน้ำลายไหล

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย เผยกรณีมีการวิจารณ์ว่านายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อยู่บนหอคอยงาช้าง ไม่รู้จักคนจน เรามาทำความเข้าใจเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกันอีกสักครั้งว่า ต้องยอมรับว่าประชาชนส่วนใหญ่พอใจกับนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ชื่นชอบและพูดถึงเรื่องนี้กันมาก การที่ประชาชนที่ได้ประโยชน์จากโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะชื่นชอบ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะนโยบายนี้ใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2560 ตอนท่านเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ส่วนใหญ่ลืมไปว่าคนที่ทำนโยบายเรื่องนี้ คือนายสมคิด 

"ผมยกเรื่องนี้ขึ้นมากล่าว เพราะคนที่ถูกปรามาสว่าอยู่บนหอคอยงาช้างนั่นแหละคือคนที่ดูแลคนจน 14.2 ล้านคนในปี 2560 ผ่านทางบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เสียดายนักการเมืองบางคนบอกว่ารักคนจน พูดถึงคนจนแล้วน้ำลายไหล แต่คนจนอยู่แค่ปลายจมูกกลับมองไม่เห็น หากใครได้ประโยชน์จากโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะนึกถึง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ สักหน่อย "พรรคสร้างอนาคตไทย" ก็ดีใจแล้ว เราขอแค่นั้น" นายนิพิฏฐ์ระบุ

ขณะที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ วันที่ 17 ก.ย. ในการเปิดตัวผู้สมัคร การวางตัวผู้สมัครว่า ภาพรวมในส่วนของการวางตัวผู้สมัครทั่วประเทศ ผู้สมัครเดิมก็ให้ลงพื้นที่ทำกิจกรรมการเมือง ซึ่งทางพรรคจะมีกิจกรรมเป็นระยะๆ รวมถึงเปิดตัวผู้สมัครและนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลทำมา ซึ่งทั้งหมดนี้ พล.อ.ประวิตรได้ลงพื้นที่ไปพบกับประชาชน เพื่อพูดถึงการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะการดูแลประชาชน เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน

ส่วนที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ประธานองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ระบุเรื่องการติดป้ายต้อนรับ พล.อ.ประวิตร ว่ามีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ เพราะไม่ใช่ช่วงที่มีกฤษฎีกาเลือกตั้ง นายชัยวุฒิกล่าวว่า การติดป้ายหาเสียงประชาสัมพันธ์ต่างๆ ทางการเมืองมีอยู่ในทุกจังหวัด ทุกที่ ไม่ใช่เฉพาะพรรคพลังประชารัฐ หากนายศรีสุวรรณจะร้อง ต้องร้องให้ครบทุกคนด้วย อย่าเลือกที่จะร้องบางคนบางกลุ่ม ที่สำคัญตนยังไม่ทราบรายละเอียดว่าร้องจุดใดบ้าง เพราะแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน บางจุดเป็นพื้นที่เอกชน ซึ่งหากเป็นที่สาธารณะหรือที่ทางหลวง ก็คงมีการพูดคุยขออนุญาตเจ้าของพื้นที่ เป็นเรื่องปกติที่ต้องทำตามกฎหมายอยู่แล้ว ซึ่งถ้าจะร้องก็อยากให้ไปดูรายละเอียดเป็นจุดๆ ไป ไม่ใช่ร้องแบบเหมารวม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

งัดกม.กดดันนายกฯ พปชร.อ้างข้อบังคับพรรค ทวงใบกรอกประวัติ‘ป๊อด’

"อุ๊งอิ๊ง" ยังเล่นบทเตมีย์ใบ้ "หมอมิ้ง" ขึงขังไม่ขีดเส้นตายรายชื่อ รมต. แต่ถ้าไม่ส่งก็ถือว่าไม่ส่ง พลิ้วไม่รู้หนังสือ