2ป.หวานผู้ว่าฯ แก้นํ้าท่วมกรุง 17จ.ยังน่าห่วง

2 ป. ลงพื้นที่เกาะติดน้ำท่วม "บิ๊กป้อม" การันตีเมืองกรุงไม่จมบาดาล สั่งเร่งตั้งเครื่องสูบน้ำระบายออก ชมเปาะผู้ว่าฯ กทม.เข้มแข็ง ขณะที่ "ชัชชาติ" อยู่เป็นอวยหนักผลงานบ้านมั่นคงคลองลาดพร้าวระบายน้ำโล่ง ด้าน ปภ.เผย 17 จังหวัดยังน่าห่วง 

 เมื่อวันพุธ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ถ่ายทอดสดผ่านเพจ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ขณะลงพื้นที่เขตลาดกระบังช่วงเช้า ก่อนพบ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ว่า วันนี้ (14 ก.ย.) เราอยู่ที่ลาดกระบัง เป็นจุดที่สู้กันหนักสุด โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะลงมาตรวจพื้นที่ เราก็ลงมาให้ข้อมูลและหารือ และหากถามว่าทำไมลาดกระบังท่วม เพราะเดือน ก.ย. ลาดกระบังฝนตกเยอะมาก ถ้าดูค่าเฉลี่ยที่ผ่านมาจากการเก็บข้อมูล 30 ปี เราเก็บข้อมูล 30 ปี ลาดกระบังมีน้ำเฉลี่ย 120 มิลลิเมตร วันที่ 1-14 ก.ย. เฉลี่ย 120 มิลลิเมตร โดยปีนี้ของจริงตกมาแล้ว 300 มิลลิเมตร เรียกว่า 2 เท่าของปกติ

นายชัชชาติระบุว่า ทำให้ประสิทธิภาพการระบายน้ำยาก ซึ่งลาดกระบังจะถูกล้อม 3 ด้าน ด้านตะวันออกจะเป็น จ.ฉะเชิงเทรา ด้านใต้จะเป็น จ.สมุทรปราการ ลงทะเล ด้านตะวันตกคือแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะฉะนั้น กทม.พยายามดึงมาออกสถานีสูบน้ำพระโขนง แต่อีก 2 ด้านกรมชลประทานต้องช่วยกัน มีการหารือกันตลอด

ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ซึ่งปี 54 น้ำเหนือไม่ได้มาถึงจุดนี้ น้ำฝนเป็นหลัก แถวนี้ไม่ได้หนักเหมือนกับแถวด้านบน เพราะฉะนั้น ถ้าเอาปี 54 มาเป็นเครื่องชี้วัด อาจจะได้ระดับหนึง่ แต่ไม่ได้บอกถึงความรุนแรงของปี 54 เพราะปี 54 คือน้ำเหนือ ซึ่งตรงนี้อยู่ไกลไม่ได้รับผลกระทบ

ต่อมาในเวลา 10.00 น. ที่ลาดกระบัง  นายชัชชาติให้การต้อนรับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยและผู้ปฏิบัติงาน และตรวจจุดติดตั้งเครื่องสูบน้ำของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) บริเวณสะพานคลองพระยาเพชร ถนนหลวงแพ่งและเดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของสำนักการระบายน้ำ กทม. บริเวณสะพานคลองทับยาว

โดย พล.อ.อนุพงษ์กล่าวให้กำลังใจ นายชัชชาติ พร้อมระบุว่า ถ้าขาดเหลืออะไรก็ขอให้บอก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปกรณ์เครื่องสูบน้ำ เรือท้องแบน ให้ปรึกษากับ ผอ.ของเขตได้ทันที อยากจะให้กำลังใจท่านผู้ว่าฯ มีไรก็พูดคุยกันใกล้ชิดอยู่แล้วไม่มีปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวมีการปล่อยน้ำเพื่อการเมือง พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตอนนี้สื่อในโซเชียล บางทีก็เป็นข่าวที่ไม่สร้างสรรค์ ไม่มีใครหรอกคิดอย่างนั้น ขอให้สังคมเข้าใจ

วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ตรวจเยี่ยมพื้นที่น้ำท่วมเขตมีนบุรีและเขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร โดยจุดแรกเวลา 15.10 น. ไปที่ประตูระบายน้ำคลองแสนแสบ (ตอนมีนบุรี) โดยมีนายชัชชาติให้การต้อนรับ

พล.อ.ประวิตรรับฟังการบรรยายเรื่องการบริหารจัดการน้ำภายในคันกั้นน้ำพระราชดำริและโครงการก่อสร้างโรงบำบัดน้ำเสียมีนบุรี ระยะ 1 และระยะ 2 จากนายชัชชาติ โดยระบุว่า ช่วงที่ผ่านมาฝนตกในพื้นที่ กทม.จำนวนมาก ตอนนี้อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ โดยหลังจากนี้จะเสนอแผนทำทางด่วนน้ำให้การระบายน้ำไม่ต้องไปผ่านบริเวณพระโขนง โดยจะเร่งเสนอคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ในเดือน ต.ค.นี้

นายชัชชาติกล่าวอีกว่า ปริมาณน้ำที่ประตูระบายน้ำแห่งนี้ยังไม่เท่าในปี 2554 ยังมีความห่างในระดับความสูงของน้ำอีกประมาณ 50 เซนติเมตร พร้อมระบุว่า ปริมาณน้ำในพื้นที่มีนบุรีไม่หนักมาก ที่หนักคือคลองประเวศ ลาดพร้าว และคลองเปรมประชากร ซึ่งต้องขอขอบคุณ พล.อ.ประวิตร ที่ไปทำเรื่องบ้านมั่นคงในคลองลาดพร้าวดีขึ้นมาก ทำให้การระบายน้ำคล่องตัว

พล.อ.ประวิตรกล่าวอีกว่า ต้องช่วยประชาชนให้รอดน้ำท่วม ขอให้รีบทำแผนเสนอมา และขอให้เร่งกู้พื้นที่น้ำท่วมขัง โดยเฉพาะบ้านเรือนประชาชนที่มีน้ำท่วมขังนานกว่า 7 วัน ให้เร่งดำเนินการ พร้อมกล่าวชื่นชมนายชัชชาติว่าโชคดีที่มีผู้ว่าฯกทม.ที่เข้มแข็ง ทำให้นายชัชชาติถึงกับกล่าวว่า เป็นการร่วมมือและช่วยกันจากหลายหน่วยงาน จึงทำให้การทำงานสามารถเดินหน้าได้ กทม.ก็ต้องประสานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวกับประชาชนช่วงหนึ่งว่า ที่ผ่านมาได้ติดเครื่องสูบน้ำทั้งในและนอกพื้นที่ถึง 18 ตัว ขนาด 3 ลูกบาศก์เมตร จึงไม่ต้องห่วง ขอให้เชื่อมั่น ไม่ว่าเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือรัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะป้องกันไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม รัฐบาลจะรีบระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมนี้ให้บรรเทาความเดือดร้อนอย่างเร็วที่สุด

ด้านนายชัชชาติกล่าวว่า ขอบคุณชาวหนองจอก และขอบคุณรัฐบาลในการช่วยเหลือ กทม.เป็นอย่างดีในการช่วยน้ำท่วม โดยยืนยันว่าทุกหน่วยงานร่วมมือกันอย่างดีเพื่อบรรเทาปัญหาให้ได้ วันนี้ไม่มีพรรคพวก มีแต่ร่วมกันทำเพื่อประชาชน

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร​ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ว่า ขอให้มั่นใจได้เลยว่าน้ำจะไม่ท่วมแน่นอน เพราะทุกหน่วยงานได้ช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี ไม่มีอะไร ตอนนี้ก็เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบายออก

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีอะไรที่น่ากังวลหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มีอะไรน่ากังวล และตนก็ไม่ห่วงอะไร เพราะทุกฝ่ายร่วมมือกันดี และในวันจันทร์ที่ 19 ก.ย.จะลงพื้นที่อีก และเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ เมื่อถามว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้มีการชื่นชมนายชัชชาติที่ทำงานอย่างเข้มแข็ง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ต้องชื่นชม แล้วเขาดีหรือเปล่าล่ะ

ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพี่น้องที่ประสบภัยน้ำท่วมขังเขตหลักสี่และเขตดอนเมือง ระบุว่า จุดสำคัญที่เป็นปากทางระบายน้ำจากกรุงเทพฯ โซนเหนือไปสู่คลองรังสิตประยูรศักดิ์ คือประตูน้ำคลองเปรมใต้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในกรุงเทพมหานครและชลประทาน ควรเร่งเสริมกำลังที่ประตูระบายน้ำนี้ 

วันเดียวกัน นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วม 17 จังหวัด รวม 49 อำเภอ 190 ตำบล 988 หมู่บ้าน ได้แก่ ลำพูน ลำปาง พะเยา ตาก หนองบัวลำภู ขอนแก่น กาฬสินธุ์ เลย ปทุมธานี สมุทรปราการ สระแก้ว ระยอง ชลบุรี จันทบุรี พระนครศรีอยุธยา และอ่างทอง ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดเร่งให้การช่วยเหลือประชาชน

นายบุญธรรมระบุว่า ปภ.ได้ส่งเครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถบรรทุก เข้าไปเสริมกำลังเพิ่มเติมที่มีในพื้นที่อยู่แล้ว ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ได้สนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยด้านอุทกภัยแล้วรวมกว่า 629 รายการ โดยในเขตกรุงเทพมหานครได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำขนาดอัตราสูบ 28,000 ลิตร/นาที รวม 16 รายการ ประจำพื้นที่เสี่ยงและจุดบ่อสูบน้ำ รวม 14 แห่ง ใน 6 เขต (วังทองหลาง 7 แห่ง ลาดพร้าว 2 แห่ง บึงกุ่ม 2 แห่ง สะพานสูง 1 แห่ง บางเขน 1 แห่ง และมีนบุรี 1 แห่ง).

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง