ครม.รุมกินโต๊ะภท.ปม‘กยศ.’

"บิ๊กป้อม" ปิดปากเงียบเรื่องจับมือ "หญิงอ้อ" ทำงานการเมืองในอนาคต "สุชาติ" ลั่นไม่ง่ายแก้รัฐธรรมนูญพา "โทนี่" กลับ "ชัยวุฒิ" ชี้นักการเมืองควรทำเพื่อส่วนร่วมไม่ใช่เพื่อครอบครัว แกนนำ พปชร.ยังแบ่งรับแบ่งสู้เรื่องเศรษฐกิจไทยกลับคอกเดิม "ธรรมนัส" โผล่โพสต์อัดให้ความสนใจน้ำท่วมดีกว่ามาพูดเรื่องย้ายพรรค "ไผ่" ปูดวาระบิ๊กตู่ 8 ปีก็เป็นปัจจัยให้หวนถ้ำเดิม ครม.ระอุ! พรรคร่วมรุมกินโต๊ะ ภท. ปมดอกเบี้ย กยศ.

เมื่อวันอังคารที่ 13 ก.ย. ยังคงมีความเคลื่อนไหวทางการเมืองในหลายๆ ภาคส่วน โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร  อดีตภริยานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ออกมาร่วมงานพรรคเพื่อไทย (พปชร.) เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ในส่วนพรรค พปชร.จะรับไมตรีจิตคุณหญิงพจมานด้วยหรือไม่ว่า ก็ไปถามคุณหญิงพจมานสิ

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะทำการเมืองร่วมกันในอนาคต พล.อ.ประวิตรไม่ตอบคำถามดังกล่าว ได้แต่โบกมือและส่ายหน้า และเมื่อถามย้ำว่าที่โบกมือแสดงว่าจะไม่ร่วมกิจกรรมทางการเมืองกันใช่หรือไม่ เพราะ พล.อ.ประวิตรและคุณหญิงพจมานสามารถพูดคุยทางการเมืองกันได้ พล.อ.ประวิตรไม่ตอบก่อนเดินขึ้นรถออกไปทันที

ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรค พปชร. กล่าวถึงการร่วมกิจกรรมของคุณหญิงพจมาน  ว่า เป็นเรื่องปกติที่เขาต้องให้กำลังใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวอยู่แล้ว ที่เขากระโดดลงไปเป็นนักการเมืองที่เป็นแคนดิเดตผู้นำ หรือเสนอตัวเป็นนายกฯ ก็ต้องอาศัยความอบอุ่นของครอบครัว อาศัยคุณพ่อคุณแม่ให้กำลังใจ ถือเป็นเรื่องปกติของนักการเมือง ซึ่งคุณหญิงพจมานคงมาให้กำลังใจมากกว่าที่จะเข้าสู่การเมือง

ถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทยจะพานายทักษิณกลับบ้านด้วยการแก้รัฐธรรมนูญอย่างไร นายสุชาติตอบว่า มันไม่ง่ายขนาดนั้น มันยาก อะไรทุกอย่างอยู่ในประเทศไทยก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายประเทศไทยทุกอย่าง อันนี้เราไม่ไปก้าวล่วง เพราะเราไม่เคยพูดถึงท่านอยู่แล้ว เราก็ถือว่าท่านเคยเป็นผู้นำประเทศ                    

เมื่อถามต่อว่า กังวลหรือไม่ที่คุณหญิงพจมานเปิดตัวออกมาอย่างนี้ นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่เลย มันเป็นเรื่องของครอบครัวเขา

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อพานายทักษิณกลับว่า ยังไม่เห็นรายละเอียด แต่คิดว่าไม่น่าเกี่ยวกัน การเมืองเป็นการเลือกคนมาทำงานเพื่อประชาชน ไม่ใช่เลือกมาเพื่อช่วยคนใดคนหนึ่ง ฟังแล้วก็ขัดๆ ความรู้สึกเหมือนกัน

เมื่อถามว่า หากพรรค พท.ใช้แนวทางดังกล่าวหาเสียง จะได้รับความนิยมเยอะหรือไม่ นายชัยวุฒิตอบว่า คนที่ชอบเขาก็เลือก คนที่ไม่ชอบเขาไม่เลือกก็เป็นเรื่องปกติ การทำการเมืองควรมองเรื่องนโยบายและการทำงานเพื่อประชาชน ไม่ควรทำเพื่อคนใดคนหนึ่งหรือครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง

พปชร.แบ่งรับแบ่งสู้

สำหรับความเคลื่อนไหวกรณีพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) จะย้ายกลับมาพรรค พปชร.นั้น นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร.กล่าวว่า ทุกอย่างยังมีระเบียบและคณะกรรมการบริหารพรรคที่ต้องพิจารณา แต่พรรคไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะความจริงแล้ว ส.ส.พรรค ศท.ในปัจจุบันก็เป็น ส.ส.ของพรรคเรา และมีการออกไปในขณะนั้น และวันนี้หาก ส.ส.เหล่านั้นเห็นว่าพรรคเราในวันนี้เป็นพรรคที่ดี มีพลังช่วยเหลือประชาชน หากเขาจะกลับมาก็คงไม่มีปัญหาอะไร ที่พูดเฉพาะในส่วน ส.ส.เท่านั้น

เมื่อถามว่า หาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะหัวหน้าพรรค ศท. จะกลับเข้ามาด้วย ยินดีหรือไม่ นายสันติกล่าวว่า ต้องดูมติของ กก.บห.พรรค แต่ในความเป็นจริงความเป็นพรรคการเมืองไม่ควรไปรังเกียจใคร แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับระเบียบและมติ กก.บห. ซึ่งยังอีกนาน ส่วนที่ พล.อ.ประวิตรพูดวันที่ 12 ก.ย. ก็เป็นการพูดตามปกติว่า ส.ส.ทุกคนก็มีเกียรติ และยืนยันว่าที่ผ่านมายังไม่มีการพูดคุยในเรื่องนี้

“ไม่มี ไม่ได้คุย ผมยังไม่ได้เปลี่ยนใจจากพรรคพลังประชารัฐ ไม่เคยคิดที่จะย้ายพรรค ต่อให้ ร.อ.ธรรมนัสกลับเข้ามาก็ไม่ย้าย ส่วนที่มีข่าวว่าจะย้ายพรรคนั้นก็ไม่ทราบ แต่ยืนยันว่าไม่มี” นายสันติกล่าวตอบข้อถามว่าได้พูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส บ้างหรือยัง

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พปชร. กล่าวในเรื่องนี้ว่า เป็นกระแสข่าวจากสื่อ ซึ่งพรรค พปชร.ยังไม่มีการพูดคุยอะไรกัน จึงยังให้ความเห็นอะไรไม่ได้ ซึ่งกลุ่มสามมิตรก็ยังไม่ได้พูดคุยกัน ส่วนความเป็นไปได้นั้น ก็มีทางเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยและรับฟังจากสมาชิกพรรคว่าเขามีความคิดเห็นอย่างไร จึงขอเวลาอีกซักระยะ โดยในสัปดาห์นี้จะเป็นช่วงที่ ส.ส.จะได้พบเจอกัน ก็คงจะมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมมากขึ้น แต่ตอนนี้เราพูดอะไรไม่ได้

นายสุชาติกล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้และไม่กล้าพูด เพราะไม่รู้ว่าข้อมูลคืออะไร ซึ่งก็เห็นรัฐมนตรีของพรรคให้สัมภาษณ์อยู่ แต่เรื่องมันยังไม่เกิด ยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้ในพรรค และมันคงยากละมั้ง

“การเมืองเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ถ้าพูดไปแล้วไม่ใช่ข้อมูลที่แท้จริง มันจะเป็นคำพูดที่ไม่ดี ขอให้เป็นข้อมูลที่แท้จริงก่อนแล้วค่อยพูดคุยกัน เรื่องการเมืองต้องอาศัยหลายคนคุยกัน” นายสุชาติกล่าว

นายชัยวุฒิกล่าวว่า ใครเขาจะยุบพรรคมารวม อยู่ทำพรรคขนาดนี้แล้วเป็นหัวหน้าพรรค เขาก็มีบทบาทการเมืองของเขา ส่วนที่มองว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจไม่รอดเรื่องการดำรงตำแหน่ง 8 ปีจึงกลับมานั้น มันไม่เกี่ยวกัน พรรค พปชร.คงดูความเหมาะสมในการพิจารณาใครมาอยู่ในพรรค แต่ตัว ส.ส.ก็ย้ายพรรคกันได้อยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ อย่างเช่นพรรค พปชร.ตอนนี้ก็มีคนเข้ามาสมัครเรื่อยๆ เพราะอยากอยู่พรรคใหญ่ที่มีความพร้อมในการทำงานให้ประชาชนได้ พรรค พปชร.ก็ถือเป็นทางเลือกหนึ่ง

ธรรมนัสโผล่สวนอย่าจุ้น

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส โพสต์เฟซบุ๊กถึงเรื่องดังกล่าวครั้งแรกว่า ในช่วงนี้เราไม่ควรให้ความสำคัญกับการย้ายสังกัดของนักการเมือง เพราะเวลานี้เป็นห้วงเวลาที่พี่น้องประชาชนกำลังหวาดผวากับอุทกภัยหรือน้ำท่วม ทั้งน้ำเหนือและน้ำจากฟ้ากำลังถล่มลงมาในหลายจังหวัด และพี่น้องประชาชนเดือดร้อนกันถ้วนหน้า เราเอาเวลาไปคิดเรื่องการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนดีกว่าไหม การเมืองต้องเอาประชาชนเป็นที่ตั้งครับ

นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร เลขาธิการพรรค ศท. กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตรระบุว่าจะไม่ส่งผู้สมัครลงชิงชนกับพื้นที่ของพรรค ศท. ว่าไม่มีข้อตกลงร่วมกัน เป็นเรื่องในอนาคต ไม่สามารถนำมาพูดได้ แต่ขอบคุณ พล.อ.ประวิตร ที่ยังมีเมตตาและเอ็นดูพวกเรา ส่วนกระแสข่าวกลับมาร่วมงานกับพรรค พปชร.นั้น เรื่องนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ ต้องดู ณ วันนั้น และต้องให้เกิดการพูดคุยกันจริงๆ ก่อนจะได้รู้ว่าควรทำอย่างไร แต่ตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน โดยไม่มีปัจจัยหรือเงื่อนไขอะไรประกอบการตัดสินใจที่จะกลับมาทำงานร่วมกันในนามพรรคเดียวกัน ทั้งนี้พรรคเศรษฐกิจไทยและ พล.อ.ประวิตร ทำงานร่วมกันได้อยู่แล้ว ไม่ใช่ปัญหา แต่การเมืองมีหลายองค์ประกอบ และต้องหารือตัดสินร่วมกันในพรรค

“ที่ผ่านมาอยู่กันมา 4 ปี ก็ทำงานกันได้ พล.อ.ประวิตรเป็นผู้ใหญ่ที่น่ารัก ดูแล ห่วงใย ส.ส. เอาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนมาบอกก็ได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว” นายไผ่กล่าว

เมื่อถามว่า ปัจจัยเรื่องวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นอีกเงื่อนไขหนึ่งด้วยหรือไม่ นายไผ่กล่าวว่า อาจเป็นส่วนหนึ่ง และต้องดูทุกอย่างประกอบกัน

วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงวันคล้ายวันเกิดครบ 56 ปีในวันที่ 13 ก.ย. อยากให้บ้านเมืองเป็นอย่างไรว่า อยากให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง สงบสุข ปราศจากความขัดแย้ง ประชาชนมีความสุขมากๆ ถ้าแลกทุกอย่างได้ก็จะแลกด้วยสิ่งเหล่านี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้อวยพรวันเกิดหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เดี๋ยวจะเขียนไลน์ไปบอก ไปขอพรท่าน

ถามว่า อยากได้ ส.ส.สมัยหน้ากี่ที่นั่งเพื่อเป็นของขวัญวันเกิด นายอนุทินกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ตั้งใจทำงานอย่างดีที่สุด พูดแล้วทำ ทำแต่สิ่งที่ดีๆ สิ่งที่ทำให้บ้านเมืองและประชาชนมีความแข็งแรง มีความสุข อยู่ดีกินดี จะได้ ส.ส.เท่าไหร่ก็เท่านั้น เราตั้งเป้าจากการทำงาน โดยผู้สมัครและ ส.ส.ต้องขยันลงพื้นที่เพราะเป็นคนที่เสนอตัวให้ประชาชน และประชาชนจะเป็นผู้ว่าตัดสินใจเลือกเข้ามาทำงานให้หรือไม่ พรรคภูมิใจไทยทำงานแบบนี้โดยไม่ได้คิดว่าต้องได้ จะได้หรือไม่ได้ ส.ส.อย่างน้อยผู้สมัครภูมิใจไทย ไม่เคยทิ้งพื้นที่ หากทิ้งพื้นที่เมื่อไหร่ พรรคดีดออกทันที

ขณะที่ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) พร้อมด้วยนายวราวุธ ศิลปอาชา  รมว.ทรัพยากรฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรค และแกนนำพรรค เปิดตัวนายตรงสิทธิ์ ตั้งจตุรวิธ อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ยโสธร เป็นผู้สมัคร ส.ส.ยโสธร เขต 3

ส่วนนายนริศ เชยกลิ่น โฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) เผยว่า ในวันที่ 15 ก.ย. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค จะนำคณะผู้บริหารพรรคลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตพบปะประชาชนนักธุรกิจอันดามัน และกล่าวปาฐกถาพิเศษเพื่อทำงานเชิงรุกในการติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมนำเสนอนโยบายการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชนของพรรค

ครม.รุมกินโต๊ะ 'ภท.'

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ เป็นประธาน มีการแสดงความเห็นกันมากเรื่องร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาฯ วาระ 2 โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม หยิบยกขึ้นมาหารือว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาอยู่ สภายุ่งเหยิงไปหมด ถ้าไม่เก็บดอกเบี้ย แล้วกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จะบริหารจัดการอย่างไร ทุกคนจ้องแต่จะหาเสียง จากนั้นนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวเสริมว่า เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมาก ที่ประชุมจะให้แต่ละพรรคฟรีโหวต ทำให้นายสมศักดิ์ท้วงติงว่า ฟรีโหวตไมได้ เพราะกระทบเสถียรภาพรัฐบาล รัฐบาลจะเสียหายมาก เป็นกฎหมายสำคัญ และไม่ควรเสนอสภาในช่วงนี้ จะเป็นการหาเสียง น่าจะเสนอเป็นพระราชกฤษฎีกาเลย อยู่ในช่วงสุดท้ายแล้ว ถ้าเสนอไปเกรงว่าจะไม่มีเอกภาพ จะเป็นขี้ปากชาวบ้านและสื่อมวลชนเปล่าๆ

 ขณะที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง ระบุว่า ตนเป็นประธานคณะกรรมาธิการร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้อยู่ ตอนแรกพรรคร่วมรัฐบาลให้ความร่วมมือกันดี แต่พอตอนปลายรัฐบาลกลับจ้องจะนำกฎหมายนี้ไปหาเสียง ถ้าปล่อยเข้าสภาจะวุ่นวาย ดอกเบี้ยเป็นศูนย์ไม่ได้ จะทำให้คนไม่มีความรับผิดชอบ ถ้าไม่มีวินัยปัญหาใหญ่จะเกิดในอนาคต ซึ่งนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ระบุทำนองเดียวกันว่า โลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นของฟรี ไม่ควรสร้างวัฒนธรรมเบี้ยวหนี้ไห้ประชาชน จะเป็นจุดอ่อนของระบบเศรษฐกิจ จะเละเทะและล้มละลายได้ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่ารัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยที่นำร่างกฎหมายนี้ไปหาเสียงว่าจะไม่เก็บดอกเบี้ยจากกองทุน กยศ. ไม่ได้แสดงความคิดเห็น ทำให้ พล.อ.ประวิตรต้องพูดขึ้นว่า เรื่องนี้พรรคร่วมควรต้องคุยกันหลังประชุมอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประชุม ครม. พล.อ.ประวิตรได้เรียกหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคเข้าหารือในประเด็นดังกล่าวที่ห้องรับรอง ขณะที่นายอนุทิน ไม่ได้อยู่ในห้องประชุมแล้ว เนื่องจากต้องมีคนมาอวยพรวันคล้ายวันเกิดที่ห้องทำงานตึกบัญชาการ 1 ทำให้ไม่ได้ร่วมหารือต่อในประเด็นดังกล่าว โดย พล.อ.ประวิตรได้กล่าวในห้องประชุมว่า เวลาแต่ละพรรคไปหาเสียงในพื้นที่ตัวเอง พูดจำนวนดอกเบี้ยคนละตัวเลขกัน จึงอยากให้แต่ละพรรคกลับไปคุยกันให้ดีว่าจะใช้ดอกเบี้ยเท่าไหร่ แล้วกลับมาคุยกันใหม่

ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคระบุว่า จากประสบการณ์ทำงานเป็น ส.ส.มา 6 สมัย และจากข้อร้องเรียนของประชาชนกับประสบการณ์ในวงราชการและการเมืองของกว่า 30 ปี พบว่าปัญหาเศรษฐกิจที่แท้จริงของชาวบ้าน หรือระดับรากหญ้าเกิดจากความขัดแย้งกันเองของกฎหมายของส่วนราชการเดียวกัน จึงได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคยกร่างกฎหมายกลางแล้ว และจะนำสนอที่ประชุม กก.บห.ต่อไป โดยเบื้องต้นกฎหมายฉบับนี้จะใช้ชื่อว่า พ.ร.บ.ว่าด้วยการบริหารราชการเพื่อความถูกต้องและเป็นธรรม พ.ศ.... ซึ่งพรรคพร้อมเสนอกฎหมายนี้เข้าสภาทันทีในสมัยหน้าหากประชาชนไว้วางใจเลือกสมาชิกพรรคเป็น ส.ส.เพียงพอ

ส่วนที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พรรคเสรีรวมไทยได้เข้าให้ถ้อยคำคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนของ กกต. กรณี 6 พรรคเล็กรับเงินจากพรรคใหญ่เพื่อแลกกับการโหวตสนับสนุนในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งมีโทษถึงขั้นยุบพรรค โดยเชื่อว่า กกต.จะส่งเรื่องนี้ไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณายุบ 6 พรรคเล็ก และ 1 พรรคใหญ่ รวมทั้งตัดสิทธิทางการเมือง กก.บห.พรรค ซึ่งในจำนวนนั้นมี พล.อ.ประวิตรและ ร.อ.ธรรมนัสในขณะนั้นด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

งัดกม.กดดันนายกฯ พปชร.อ้างข้อบังคับพรรค ทวงใบกรอกประวัติ‘ป๊อด’

"อุ๊งอิ๊ง" ยังเล่นบทเตมีย์ใบ้ "หมอมิ้ง" ขึงขังไม่ขีดเส้นตายรายชื่อ รมต. แต่ถ้าไม่ส่งก็ถือว่าไม่ส่ง พลิ้วไม่รู้หนังสือ