ประทับบักกิงแฮม อัญเชิญพระบรมศพ‘ควีน’ ‘คิงชาร์ลส์’ปราศรัยรัฐสภา

อัญเชิญพระบรมศพ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ประดิษฐานพระราชวังบักกิงแฮม สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลา พร้อมพระบรมวงศานุวงศ์รอรับขบวนพระบรมศพ ก่อนเคลื่อนไปยังมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ เปิดให้พสกนิกรเข้าถวายสักการะท่ามกลางการดูแลเข้มงวด ทูตอังกฤษซาบซึ้งคนไทยร่วมแสดงความอาลัย

สื่อต่างประเทศรายงานว่า พระราชพิธีอัญเชิญหีบพระบรมศพ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ออกจากปราสาทบัลมอรัล ซึ่งเกิดขึ้นในเวลา 10.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันอาทิตย์ (11 ก.ย.) หรือตรงกับเวลา  16.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย โดยขบวนรถไฟอัญเชิญหีบพระบรมศพใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง มายังกรุงเอดินบะระ เมืองหลวงของสกอตแลนด์ จากนั้นมีการอัญเชิญไปประดิษฐานชั่วคราว ณ พระราชวังโฮลีรูดเฮาส์ ซึ่งเป็นพระราชฐานอย่างเป็นทางการในสกอตแลนด์

โดยวันจันทร์ที่ 12 กันยายน ในช่วงเช้ากษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 จะเสด็จพระราชดำเนินไปยังเวสต์มินสเตอร์ฮอลล์ เพื่อให้บรรดาสมาชิกรัฐสภาแสดงความอาลัยต่อสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 อย่างเป็นทางการ หลังจากนั้น สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 พร้อมด้วยสมเด็จพระราชินีคามิลลา เสด็จพระราชดำเนินโดยเครื่องบินพระที่นั่งไปยังเมืองเอดินบะระในช่วงบ่าย เพื่อทรงเข้าร่วมพระราชพิธีเคลื่อนหีบพระบรมศพจากพระราชวังโฮลีรูดเฮาส์ ไปยังวิหารเซนต์ไจลส์ในเอดินบะระ และพระบรมศพจะประดิษฐานอยู่ที่วิหารดังกล่าวเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อให้พสกนิกรได้เข้าถวายสักการะและจะมีการจัดพิธีสวดภาวนาตลอด 24 ชั่วโมง ในการนี้ นางนิโคลา สเตอร์เจียน นายกรัฐมนตรีของสกอตแลนด์ จะได้เข้าเฝ้าฯ  กษัตริย์พระองค์ใหม่ที่พระราชวังโฮลีรูดเฮาส์และเข้าร่วมพิธีทางศาสนาในช่วงค่ำด้วย

ทั้งนี้ เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ พระราชธิดาในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะเสด็จพร้อมขบวนอัญเชิญหีบพระบรมศพ ตั้งแต่ปราสาทบัลมอรัลมายังพระราชวังโฮลีรูดเฮาส์ โดยหีบพระบรมศพจะประดิษฐานอยู่ที่สกอตแลนด์จนถึงช่วงเย็นของวันที่ 13 ก.ย.ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนจะอัญเชิญมายังกรุงลอนดอนโดยทางเครื่องบิน และจะทรงเป็นผู้อัญเชิญหีบพระบรมศพจากวิหารเซนต์ไจลส์ไปยังท่าอากาศยานเอดินบะระ เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่งไปยังสนามบินของกองทัพอากาศในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จากนั้นจะอัญเชิญหีบพระบรมศพไปยังพระราชวังบักกิงแฮม โดยมี สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลา รอรับพระบรมศพอยู่

สำนักข่าวบีบีซีระบุว่า เมื่อได้อัญเชิญพระบรมศพมาถึงพระราชวังบักกิงแฮมในกรุงลอนดอนแล้ว พิธีแรกที่จะจัดขึ้นเป็นรัฐพิธีที่รัฐบาลอังกฤษเป็นผู้ดูแลจัดการ โดยในวันที่ 14 ก.ย.จะมีการอัญเชิญหีบพระบรมศพจากพระราชวังบักกิงแฮมไปประดิษฐาน ณ เวสต์มินสเตอร์ฮอลล์  ห้องโถงใหญ่ซึ่งมีอายุเก่าแก่ที่สุดในกลุ่มอาคารรัฐสภาภายในพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการปกครองของรัฐบาลอังกฤษมายาวนาน เพื่อเปิดให้สาธารณชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพเป็นเวลา 4 วัน ระหว่างวันที่  15-18 กันยายน ตลอด 24 ชั่วโมง และสิ้นสุดลงในเวลา 06.30 น.ของวันจันทร์ที่ 19 กันยายน ซึ่งจะเป็นวันที่มีการจัดพระราชพิธีพระบรมศพ โดยมีการเชิญประมุขแห่งรัฐและผู้นำประเทศต่างๆ มาเข้าร่วมในรัฐพิธีสำคัญครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้ ขบวนพระบรมศพจะเคลื่อนช้าๆ จากพระราชวังบักกิงแฮมมายังเวสต์มินสเตอร์ฮอลล์ โดยมีทหารกองเกียรติยศและบรรดาพระราชวงศ์ทรงร่วมขบวนด้วย ส่วนประชาชนสามารถเฝ้ารอชมขบวนพระบรมศพนี้ได้ที่สองข้างทางใจกลางกรุงลอนดอน คาดว่าจะมีการจัดตั้งจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่เพื่อถ่ายทอดสดพระราชพิธีดังกล่าวตามสวนสาธารณะหลายแห่ง

ขณะที่หีบพระบรมศพจะประดิษฐานบนแท่นยกสูงที่เรียกว่า catafalque ซึ่งอยู่ภายใต้หลังคาไม้ซุงของห้องโถงใหญ่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคกลางในศตวรรษที่ 11  โดยทั้งสี่ทิศจะมีทหารรักษาพระองค์ยืนเฝ้ารักษาการณ์อยู่โดยรอบ เมื่อประดิษฐานหีบพระบรมศพแล้วจะมีการประกอบพิธีทางศาสนาสั้นๆ ซึ่งกษัตริย์พระองค์ใหม่และพระบรมวงศานุวงศ์จะทรงเข้าร่วม ก่อนจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาถวายสักการะ โดยเดินเรียงแถววนรอบพระบรมศพไปคราวละหลายสิบคน

ทั้งนี้ สมาชิกราชวงศ์อังกฤษพระองค์ล่าสุดที่พระศพถูกนำมาประดิษฐานในสถานที่แห่งนี้ ได้แก่ สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธในพระเจ้าจอร์จที่ 6 หรือ “ควีนมัม” ซึ่งก็คือพระราชมารดาของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2  โดยเมื่อปี พ.ศ.2545 มีประชาชนถึง 200,000 คน  พากันต่อแถวยาวรอนานหลายชั่วโมงเพื่อจะได้เข้าถวายสักการะพระศพในรัฐพิธีครั้งนั้น

สำหรับมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ นับเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญตลอดพระชนม์ชีพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 โดยเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก หรือพระราชพิธีขึ้นครองราชย์ของพระองค์ในปี  2496 และทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าชายฟิลิปที่นี่เมื่อปี  2490 ด้วย

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่มีการนำพระบรมศพไปประดิษฐาน ณ พระราชวังเวสต์มินสเตอร์ หีบพระบรมศพจะวางอยู่บนแท่นสูง ณ โถงเวสต์มินสเตอร์ มีการออกคำเตือนว่า ผู้ที่ต้องการเข้าไปสักการะพระบรมศพอาจต้องเข้าแถวรอนานหลายชั่วโมง หรืออาจจะต้องเข้าแถวรอข้ามคืนโดยแทบไม่มีโอกาสจะได้นั่ง เพราะคิวจะเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะมีความล่าช้าในด้านการเดินทางโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ขณะที่จะมีการปิดถนนโดยรอบพื้นที่ดังกล่าว

ผู้ที่จะเข้าถวายสักการะพระบรมศพจะต้องผ่านการตรวจสอบภายใต้มาตรฐานการรักษาความปลอดภัยแบบเดียวกับที่ใช้ในสนามบิน จะมีการอนุญาตให้นำกระเป๋าติดตัวเข้าไปได้เพียงใบเดียวต่อคน และต้องเป็นกระเป๋าแบบที่มีช่องเปิดหรือซิปเพียงอันเดียวเท่านั้น ผู้ที่เข้าถวายสักการะพระบรมศพต้องเคารพความศักดิ์สิทธิ์ของงาน  โดยให้งดใช้เสียงขณะอยู่ในพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ แต่งกายให้เหมาะสม ห้ามสวมใส่เสื้อผ้าที่มีข้อความทางการเมืองหรือข้อความที่ไม่เหมาะสม

นอกจากนี้ ผู้ที่อยู่ภายในพระราชวังเวสต์มินสเตอร์จะถูกขอให้ปิดโทรศัพท์มือถือหรือใช้โหมดปิดเสียงเพื่อไม่ให้เกิดเสียงดังขึ้น ทั้งนี้จะไม่อนุญาตให้มีการถ่ายภาพหรือภาพเคลื่อนไหวใดๆ รวมถึงห้ามใช้โทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์ใดๆ ในพื้นที่ปลอดภัยและในพระราชวังเวสต์มินสเตอร์

ด้านนายมาร์ก กูดดิง เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย กล่าวว่า รู้สึกซาบซึ้งและขอแสดงความขอบคุณถึงมิตรสหายและพันธมิตรในไทย ที่ได้ร่วมกันแสดงความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง