ยื้อปรับครม.รอประยุทธ์ ภท.เมินสั่งครูโอ๊ะไขก๊อก

ปิดประตูปรับ ครม.ยุคลุงป้อม ยันให้รอผลตีความ 8 ปีลุงตู่เสร็จสรรพก่อนค่อยคิด ก้าวไกลสบช่องตีกินผลงานอภิปรายทำ “นิพนธ์” ไขก๊อก  “อนุทิน” ไม่สนให้ “กนกวรรณ” เดินตาม บอกพรรคใครพรรคมัน “ชัชชาติ” ปัดดีลลับโทร.คุย “ประวิตร” ถี่

เมื่อวันอังคารที่ 6 กันยายน ยังคงมีความต่อเนื่องจากกรณีนายนิพนธ์ บุญญามณี ลาออกจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อไปต่อสู้คดีในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคดีมีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า ไม่มีการจำหน่ายคดี โดยในวันที่ 14 ก.ย. ศาลยังต้องอ่านคำวินิจฉัยเรื่องคุณสมบัติของนายนิพนธ์

นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทยกล่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ยังไม่มีการแบ่งหน้าที่เพิ่มเติม เพราะถือว่าเร็วเกินไป

ขณะที่นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงกรณีนายนิพนธ์ลาออกว่า ที่มาที่ไปของการลาออกเป็นที่ทราบกันดีว่าได้อภิปรายไม่ไว้วางใจนายนิพนธ์ 2 ครั้ง ซึ่งการประกาศลาออกของนายนิพนธ์ เป็นผลสืบเนื่องจากการที่ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งแรก โดยเมื่ออภิปรายจบ ได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ ป.ป.ช.ได้ส่งฟ้องต่อศาลอาญาทุจริตกลางเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จากนั้นพรรคได้ยื่นหนังสือผ่านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการดำรงตำแหน่งของนายนิพนธ์

 “เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาวินิจฉัยพิพากษาในวันที่ 14 ก.ย. เพราะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ซึ่งจากหลักฐานต่างๆ ที่วิญญูชนได้เห็นแล้ว มีความเชื่อส่วนตัวว่านายนิพนธ์มีความผิดตามที่ ป.ป.ช.ชี้มูล การไม่จำหน่ายคดีออกของศาลรัฐธรรมนูญจะทำให้ความจริงปรากฏต่อสังคม ซึ่งการประกาศลาออกของนายนิพนธ์ เป็นการลาออกใกล้เวลาที่ศาลนัดพิจารณาคดี คือการรู้คำตอบล่วงหน้าหรือไม่เป็นการชิงลาออกเสียมากกว่า เพราะในความจริงควรลาออกตั้งแต่ ป.ป.ช.ชี้มูล หรือตั้งแต่ พล.อ.อนุพงษ์ปลดออกจากตำแหน่งนายก อบจ.สงขลาแล้ว” นายประเสริฐพงษ์กล่าว และว่า ขอฝาก รมช.มหาดไทยคนใหม่ที่จะเข้ามาดูแลกรมที่ดิน ให้ตรวจสอบนายนิพนธ์ และขบวนการออกโฉนดที่ดินเกาะนุ้ยนอก จ.กระบี่ ซึ่งได้อภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งที่ 2 และฝาก รมว.มหาดไทยตรวจสอบกรณีนี้ด้วย              นายวิษณุยังกล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรักษาราชการแทนนายกฯ ระบุรอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม กลับมาปรับ ครม. แสดงว่า ครม.ยังหวังให้ พล.อ.ประยุทธ์กลับมาดำรงตำแหน่งเช่นเดิมใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบ ใครคิดอะไรก็พูดไป ซึ่งคำตอบของ พล.อ.ประวิตรถูกต้องที่สุด เมื่อไปเซ้าซี้ถามท่าน ท่านยังไม่แน่ชัดว่า พล.อ.ประยุทธ์จะกลับหรือไม่กลับ เอาไว้ให้ พล.อ.ประยุทธ์กลับมาแล้วค่อยว่ากัน หรือถ้ารู้แน่ว่าไม่กลับจะได้ว่ากันใหม่ 

เมื่อถามว่า กรณีนายนิพนธ์จำเป็นต้องปรับ ครม.หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ยังไม่มีใครพูดอะไร สื่อก็ถามอยู่ทุกวัน ถ้าไปผลีผลามปรับ ครม. พอปรับ ครม.เสร็จแล้วมีเรื่องอะไรอีก รอให้ปิดบัญชีให้หมดเสียก่อน  

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการลาออกของนายนิพนธ์จะสร้างความกดดันให้ปรับ ครม.หรือไม่ ว่าไม่มี คนละพรรคกันอยู่แล้ว เรื่องนี้ต้องยอมรับการตัดสินใจของแต่ละคน

เมื่อถามว่า มีการมองว่ากรณีที่นายนิพนธ์ลาออกก่อนศาลวินิจฉัย นำมาเปรียบเทียบกับนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ ที่ถูกศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังไม่ลาออก นายอนุทินกล่าวว่า ใครมอง เมื่อถามย้ำว่านางกนกวรรณต้องลาออกหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มี

เมื่อถามว่า ขณะนี้ ภท.เตรียมคนมาแทนนางกนกวรรณหรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี ทุกคนยังทำงานตามหน้าที่ปกติ

ถามย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้ปรับ ครม.มองอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า คนปรับ ครม.คือนายกฯ เรายังไม่ได้รับสัญญาณใดๆ เลย และยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องพรรคใครพรรคมัน แต่ละพรรคไม่จำเป็นต้องทำตามกันทุกเรื่อง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังมีการวิพากษ์วิจารณ์รูปนายอนุทินและ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ไปทานข้าวกลางวันกับ พล.อ.ประยุทธ์ที่กระทรวงกลาโหม ว่าถ้า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ไปต่อจากปม 8 ปี อาจส่งไม้ต่อให้นายอนุทินนั่งนายกฯ นายอนุทินหัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ พร้อมระบุว่า no news is good news

นายทรงศักดิ์กล่าวเช่นกันว่า พรรค ภท.ยังไม่ได้รับการส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับ ครม. แม้ว่าพรรค ปชป.ยืนยันและเตรียมเสนอชื่อบุคคลที่จะมาแทน และหากจะปรับพรรค ภท.ก็ต้องหารือกันอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าขณะนี้ไม่มีการปรับแน่ๆ

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรคงไม่ปรับ ครม. ด้วยเหตุผลเพราะเป็นรักษาการ และรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ก็มีจุดแข็งตรงปรับ ครม.ยาก เพราะการปรับ ครม.ไม่บ่อยครั้งจะทำไม่ให้เกิดความร้าวฉาน เกิดความแตกแยก และอีกประเด็นคืออายุรัฐบาลเหลือประมาณ 6 เดือน ซึ่งไม่ได้มีงานอะไรมากมาย โดยเฉพาะงานของสภาที่เหลืออีก 1 สัปดาห์ก็จะปิดสมัยประชุม ฉะนั้นงานที่ให้รัฐมนตรีไปตอบคำถามในสภาก็ไม่มี จึงคิดว่าการปรับ ครม. โดยนายกฯ รักษาการในความคิดไม่น่าจะมี อีกทั้ง พล.อ.ประวิตรก็ระบุไว้แล้วในส่วนของพรรค พปชร.ไม่มีการปรับอะไร

 “ในอดีตผมเคยเห็นรักษาราชการแทนนายกฯ ก็ไม่มีใครเคยปรับ ครม. ดังนั้นหากศาลวินิจฉัยให้ พล.อ.ประยุทธ์ยังทำหน้าที่ต่อไปได้ อำนาจการปรับ ครม.ก็เป็นของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งชัดเจนอยู่แล้ว” นายสมศักดิ์ระบุ

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรระบุแล้วว่าจะไม่ทำสิ่งนี้ในช่วงรักษาราชการแทน เป็นเรื่องที่ต้องรอให้นายกฯ เป็นคนทำ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า พล.อ.ประวิตรจะทำอะไรก็ให้เกียรติ พล.อ.ประยุทธ์ตลอด มีการคุยกันตลอด แต่ทราบมาว่าแต่ละพรรคมีรัฐมนตรีที่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือลาออกไป มีตำแหน่งว่าง จึงเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ทุกพรรคต้องมาคุยกัน

 “รัฐบาลยังทำงานได้ สามารถทดแทนกันได้ และอยากให้ความมั่นใจกับประชาชนว่ารัฐบาลยังทำงานได้” นายชัยวุฒิกล่าว

นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ และ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวในเรื่องนี้ว่า ต้องรอให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป.เดินทางกลับจากประเทศมองโกเลียก่อน

เมื่อถามว่าต้องสรรหาคนในพรรค ปชป.เพื่อมารับตำแหน่งรัฐมนตรีใหม่หรือไม่ นายสินิตย์พยักหน้ารับ

ในขณะที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า ตำแหน่งที่ว่างลงนั้น เป็นตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย ปัจจุบันยังมีรัฐมนตรีว่าการอยู่ การบริหารราชการแผ่นดินยังสามารถดำเนินการได้อยู่ ดังนั้นจึงไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาล

วันเดียวกัน ที่สถานีกลางบางซื่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีคนตั้งข้อสังเกตระบุการคุยและโทรศัพท์กับ พล.อ.ประวิตรบ่อยครั้ง อาจมีการดีลลับทางการเมืองอะไรหรือไม่ ว่าไม่มีหรอก ไม่ได้มีความทะเยอทะยานทางการเมืองอะไรทั้งสิ้น ขอเป็นผู้ว่าฯ กทม. หน้าที่ของผมคือรับใช้ประชาชนให้เต็มที่ หากมีอะไรขาดเหลือ พล.อ.ประวิตรท่านก็กรุณา 

“จริงๆ ได้ประสานตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ แต่อาจไม่ได้ยกหูถึงท่านโดยตรง ซึ่งไม่ได้มีผลอะไรในประสิทธิภาพ และเป็นการร่วมมือกันเพื่อเป็นเนื้อเดียวในการทำงานของรัฐบาลและ กทม. และยืนยันว่าไม่มีเรื่องดีลลับอะไร ย้ำว่าหน้าที่เราคือผู้รับใช้คนกรุงเทพฯ เพราะฉะนั้นจะคุยกับใครเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานเราก็ทำ ในการคุยโทรศัทพ์คุยกันสั้นๆ ท่านถามว่ามีอะไร แค่นั้น จบ วางหู ไม่มีคุยเรื่องอื่น สั้นๆ ไม่มีสารทุกข์สุกดิบ” นายชัชชาติกล่าว.