ประวิตรสั่งกำชับ แผน13มาตรการ แก้ปัญหานํ้าท่วม

ไทยยังรับศึกหนักฝนถล่ม 5-9 ก.ย. รัฐบาลตีฆ้องเตือนประชาชนเตรียมพร้อม เกาะติดข้อมูลกรมอุตุฯ อย่างใกล้ชิด “บิ๊กป้อม” หอบ สทนช.ลงกระบี่ กางแผนป้องกัน 13 มาตรการแก้ปัญหาในระยะยาวท่วม-แล้ง ขณะที่ "ชัชชาติ" ส่องสมรภูมิหลักด่านแรกน้ำทะลักเข้า กทม.

เมื่อวันจันทร์ กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับที่  4 ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 5-9 กันยายน 2565) ในช่วงวันที่ 5-9 กันยายน 2565 ร่องมรสุมกำลังแรงเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม

 “ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 5-9 กันยายน 2565”  ประกาศกรมอุตุฯ ระบุ

 ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม  ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

 “โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เพื่อความปลอดภัยประชาชนสามารถติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา หรือสอบถามที่ 0-2399-4012 ถึง 13 และ 1182 ได้ตลอด 24  ชั่วโมง” นายอนุชาระบุ

ที่ จ.กระบี่ ที่ห้องประชุมพนมเบญจา ศาลากลางจังหวัดกระบี่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ การคาดการณ์ และการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคใต้ จ.กระบี่ ระบุว่า  รัฐบาลมีความห่วงใยผลกระทบต่อประชาชน ได้กำชับให้หน่วยงานต่างๆ ร่วมดำเนินการจัดทำแผนเผชิญเหตุรับมือล่วงหน้า

พล.อ.ประวิตรระบุว่า หากเกิดเหตุอุทกภัยขึ้น รวมถึงการวางแผนอย่างเป็นระบบเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำในระยะยาว โดยให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ  (สทนช.) กรมชลประทาน และจังหวัดกระบี่ ดำเนินการตามแผนรับมือฤดูฝนทั้ง 13 มาตรการอย่างเคร่งครัด และดำเนินการตามแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วมปี  2565 ที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.)  ได้เห็นชอบไว้

พล.อ.ประวิตรระบุว่า พร้อมมอบหมายให้กรมชลประทานวางแผนการบริหารจัดการน้ำร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด รวมทั้งเร่งก่อสร้างโครงการระบบส่งน้ำพร้อมอาคารประกอบอ่างเก็บน้ำคลองแห้ง ให้แล้วเสร็จตามแผนที่กำหนดไว้ เพื่ออำนวยประโยชน์ให้พื้นที่สามารถรองรับกับปริมาณความต้องการใช้น้ำเพื่ออุปโภค บริโภค และการเกษตรในพื้นที่ ได้อย่างเพียงพอ  ปัญหาน้ำมีทั้งอุทกภัย น้ำแล้ง น้ำหลาก ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อประชาชน จึงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานราชการในการแก้ปัญหาให้ประชาชน ดังนั้นข้าราชการและประชาชนต้องทำงานร่วมกัน ต้องรู้ว่าใครจะทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร  ฝากทุกคนไว้ด้วย รวมทั้งการวางแผนอย่างเป็นระบบเพื่อวางแผนเรื่องน้ำในระยะยาว

 “ฝากให้ใช้อย่างประหยัด ไม่ใช่เททิ้งเทขว้าง เพราะเราต้องเตรียมการเก็บน้ำไว้ด้วย โดยผมจะให้กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการเก็บน้ำไว้บนดินและใต้ดินในช่วงฤดูฝนนี้ เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ฤดูแล้งซึ่งทำมาแล้ว 3 ปี ไม่มีพื้นที่ไหนในประเทศไทยเกิดแล้งขึ้น ดังนั้นถือว่าทำแล้วประสบความสำเร็จพอสมควร เพราะ 3 ปีแล้วไม่มีแล้งเลย ดังนั้นเราจะทำแบบนี้ต่อไป” พล.อ.ประวิตรระบุ

ที่ประตูระบายน้ำเปรมใต้รังสิต คลองรังสิตประยูรศักดิ์  จ.ปทุมธานี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วยนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. และนายอรรถเศรษฐ์ เพชรมีศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ประตูระบายน้ำเปรมใต้รังสิต เพื่อเตรียมพร้อมการบริหารจัดการน้ำ จากการพยากรณ์อากาศว่าจะมีมรสุมเข้า ทำให้มีฝนตกมากในกรุงเทพฯ และปริมณฑล

นายชัชชาติกล่าวว่า คลองรังสิตประยูรศักดิ์เป็นคลองหลักที่วิ่งจากตะวันออก-ตะวันตก และวิ่งลงแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นจุดที่ภายใน 1-2 วันนี้เป็นสมรภูมิหลักของเรา ว่ามีการคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกบริเวณนี้ ทั้งนี้คลองรังสิตน้ำจะวิ่งมาทางตะวันออก-ตะวันตก ซึ่งคลองเปรมฯ จะมาตัดกับคลองรังสิต และคลองเปรมฯ ก็มาจากกรุงเทพฯ  มีประตูทางคลองเปรมฯ เหนือ กันไม่ให้เข้ามายังคลองรังสิต ส่วนประตูน้ำตรงนี้อยู่ตรงคลองเปรมใต้ ที่ตัดน้ำไม่ให้เข้ากรุงเทพฯ

 “คลองเปรมฯ มีน้ำออกได้ คือเอาน้ำลงมาด้านล่างออกทางอุโมงค์คลองเปรมฯ ไปบางซื่อ กับเอาขึ้นเหนือมาออกรังสิต เพราะฉะนั้นถ้าเกิดกรมชลประทานช่วยส่วนตรงนี้ ให้ข้ามมาส่วนคลองเปรมฯ และออกทางตะวันตกไปลงแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะฉะนั้นตอนนี้ต้องพยายามพร่องน้ำในคลองเปรมฯ โดยการสูบมาลงคลองรังสิต ที่ประตูน้ำคลองเปรมใต้ ต้องรีบพร่อง” นายชัชชาติกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 4 เตือน 9 จังหวัดมีฝนตกหนัก คลื่นลมอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเรื่อง ฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยรวมทั้งทะเลอันดามัน (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 18 มกราคม 2568) ฉบับที่ 4