ลุ้น!ศาลถกด่วน8ก.ย. หากสิ้นข้อสงสัยนัดลงมติคดี8ปีได้เลย/ชาวกระบี่เชียร์‘ลุงป้อมสู้ๆ’

ศาล รธน.นัดด่วนประชุมพิเศษ​ พิจารณา​คดี  8 ปี​นายกฯ​ 8 ก.ย.นี้ หากสิ้นข้อสงสัยจะนัดลงมติวินิจฉัยได้เลย "บิ๊กป้อม" ควง "ชัยวุฒิ-บิ๊กช้าง" ลงกระบี่ ชาวบ้านต้อนรับคึกคักชูป้าย "ลุงป้อมสู้ๆ" ยันรัฐบาลพร้อมดูแลเกษตรกร อ้อนบอกอายุมากแล้วแต่พยายามทำงานเพื่อ ปชช. โดยใช้ใจบันดาลแรง ปลุกเลือกรัฐบาลให้ดีๆ "เต้น"  แนะ "บิ๊กตู่" ดู "นิพนธ์" ไขก๊อกเตรียมสู้คดี มติ "วิป 3  ฝ่าย" ถกร่างแก้ไข รธน.ตัดอำนาจ ส.ว.จบค่ำ 7 ก.ย.  "ส.ว.สมชาย" ลั่นทุกคนมีเอกสิทธิ์โหวต ไม่มีใครชี้นำได้

เมื่อวันที่ 5 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้เรียกประชุมนัดพิเศษในวันพฤหัสบดีที่ 8  ก.ย.นี้ เพื่อพิจารณาคดีวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีการนัดประชุมมาก่อน มีเพียงการนัดประชุมในวันที่ 14 ก.ย.นี้ เพื่อลงมติวินิจฉัยกรณีความสิ้นสุดการเป็นรัฐมนตรีของนายนิพนธ์  บุญญามณี รมช.มหาดไทย

ทั้งนี้ มีรายงานว่านายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งว่า ได้รับคำชี้แจงของพยาน 3 ปาก เรียบร้อยแล้ว คือคำชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง, นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ และนายปกรณ์ นิลประพันธ์  อดีตเลขานุการคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ จึงนัดประชุมพิเศษวันดังกล่าวขึ้นเพื่ออภิปรายคำชี้แจงและหลักฐานต่างๆ ว่าสิ้นข้อสงสัยเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้แล้วหรือไม่  หากยังไม่สิ้นข้อสงสัยจะต้องแสวงหาหลักฐานและพยานเพิ่มเติมต่อไปหรือไม่ ทั้งนี้หากสิ้นข้อสงสัยจะนัดลงมติวินิจฉัยได้เลย

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ทีมกฎหมายของ พล.อ.ประยุทธ์ นำโดย พล.ต.วิระ โรจนวาศ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้รับผิดชอบจัดทำคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ได้ส่งคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญ และศาลได้รับเอกสารดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว เป็นเอกสารที่มีเนื้อหาสาระเหตุผลประกอบคำร้องรวมกว่า 30  แผ่น เนื้อหาที่ยื่นชี้แจงไปนั้นระบุว่า การนับวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปีไม่ควรนับตั้งแต่ปี 2557

ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี   รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในช่วงเช้าเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.กระบี่ ด้วยเครื่องบินกองทัพอากาศ  บ.ล.18 (Superjet) 60206 ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติ ต.เหนือคลอง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ โดยมีนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง พล.อ.ชัยชาญ  ช้างมงคล รมช.กลาโหม และคณะทำงาน ร่วมลงพื้นที่ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ จ.กระบี่ การพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร พร้อมมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ ส.ป.ก.4-01 ติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมัน ซึ่งเป็นการลงพื้นที่ต่อเนื่องหลังรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี โดยวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมาลงพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทราเป็นที่แรก

โดยเวลา 10.00 น. เมื่อเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ มี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)  ประกอบด้วย นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.เขต 2  นครศรีธรรมราช นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.เขต 7  นครศรีธรรมราช นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.เขต 1  นครศรีธรรมราช นายนัทธี ถิ่นสาคู ส.ส.เขต 2 ภูเก็ต  นายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ส.ส.เขต 3 นครศรีธรรมราช  นายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.เขต 1 ตรัง และสมาชิก พปชร.มาให้การต้อนรับ

ชูป้ายเชียร์ 'ลุงป้อมสู้ๆ'

จากนั้นมีการแสดงมโนราห์ต้อนรับ โดยนางแขม  เครือวัลย์ ศิษย์มโนราห์ฉลวยประดิษฐ์ศิลป์ อายุ 82 ปี  ขับกลอนมโนราห์ต้อนรับ พร้อมอวยพรให้ พล.อ.ประวิตร คิดปรารถนาสิ่งใดขอให้สมใจปอง สมปรารถนาตามที่คิด  สุขภาพร่างกายแข็งแรง และประสบความสำเร็จในการทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง จากนั้น พล.อ.ประวิตรเดินทักทายประชาชนที่มาต้อนรับ โดยประชาชนได้มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ ซึ่ง พล.อ.ประวิตรมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส  ทักทายประชาชนอย่างอารมณ์ดี

พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงการลงพื้นที่ว่า จะลงพื้นที่ทุกวันจันทร์ต่อเนื่องตลอดทั้งเดือน ก.ย.

ต่อมาเวลา 11.00 น. ที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่  พล.อ.ประวิตรได้เยี่ยมชมนิทรรศการสินค้าพื้นบ้าน พร้อมอุดหนุนผลิตภัณฑ์สินค้าพื้นบ้าน และเซ็นชื่อบนเรือหัวโทงจำลอง บ้านเกาะกลาง จ.กระบี่ เพื่อเป็นที่ระลึก

จากนั้น พล.อ.ประวิตรพบปะกับเกษตรกรชาวสวนปาล์ม โดยมีตัวแทนชาวสวนปาล์มชูป้ายให้กำลังใจ อาทิ ข้อความว่า "ลุงป้อมสู้สู้" และ "อสร.กระบี่รักลุงป้อม"  โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวตอนหนึ่งว่า ตนมีความห่วงใยชาวสวนปาล์ม ที่ผ่านมาพยายามลดต้นทุนพร้อมออกมาตรการแก้ปัญหามาเป็นระยะ โดยมีผลงานที่ชัดเจน ซึ่งรัฐบาลต้องแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ โดยมีการผลักดันและส่งออกจนราคาปาล์มน้ำมันดีขึ้นสูงกว่าราคาประกันรายได้ที่อยู่ราคากิโลละ 4 บาท โดยในปี 64 ขยับมาเป็น 6  บาทกว่า และคาดว่าปีนี้ขึ้นมาเป็น 7.50 บาท ซึ่งรัฐบาลจะดูแลเกษตรกรให้อยู่ดีกินดี มีเศรษฐกิจที่ดี ปาล์มราคาดี มีแต่รอยยิ้มกันทั่วทุกคน

"ขอบคุณทุกคน ผมอายุมากแล้ว แต่จะพยายามทำงานให้พี่น้องประชาชน โดยใช้ใจบันดาลแรง ไม่ใช่แรงบันดาลใจ เพื่อมีกำลังใจในการช่วยให้ประชาชนอยู่ดีกินดีและมีความสุขตลอดไป" พล.อ.ประวิตรกล่าว

เวลา 13.00 น. ที่โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร พื้นที่ดำเนินการ ส.ป.ก. จังหวัดกระบี่ พล.อ.ประวิตรมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่  ส.ป.ก.4-01 บ้านสองแพรก ม.9 บ้านหว่างคลองไทย  ม.10 ต.กระบี่น้อย อ.เมืองพัทลุง พร้อมตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรพื้นที่ดำเนินการ  ส.ป.ก.4-01 มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์  ส.ป.ก.4-01 ให้ตัวแทนชาวบ้านจำนวน 10 ราย

โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวกับประชาชนตอนหนึ่งว่า  ขอถอดแมสก์ออกจะได้เห็นหน้าตนชัดๆ จะได้รู้จักกันไว้  รัฐบาลชุดนี้ให้ความห่วงใยและเห็นถึงความทุกข์ร้อนของประชาชนมาโดยตลอด โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เห็นใจประชาชนทุกคน ให้มีที่ทำกินเพื่อให้อยู่ดีกินดี มีที่อยู่อาศัยและที่ทำกินของทุกคน ฝากประชาชนให้สนับสนุนให้รัฐบาลได้พัฒนาประเทศเพื่อความมั่นคงมั่งคั่ง ยั่งยืนตลอดไป

ทั้งนี้ ระหว่างพบปะประชาชนช่วงหนึ่ง มีชาวบ้านกล่าวให้กำลังใจบอกให้สู้ๆ พล.อ.ประวิตรจึงกล่าวตอบกลับอย่างอารมณ์ดีว่า "สู้ไม่ไหวแล้ว สู้ด้วยใจ อายุ  78 แล้ว" และประชาชนได้ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก พล.อ.ประวิตรได้ตอบรับว่า "ได้ครับ" จากนั้นให้ประชาชนถ่ายเซลฟีอย่างเป็นกันเอง และย้ำว่าที่ดิน ส.ป.ก.มีไว้ให้ประชาชนทุกคน ขณะที่ชาวบ้านบางบางส่วนได้ถือป้ายให้กำลังใจ "เลิฟลุงป้อม" และ "เรารัก พล.อ.ประวิตร"

ต่อมาเวลา 14.45 น. ที่ ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ พล.อ.ประวิตรได้ตรวจเยี่ยมโครงการระบบส่งน้ำพร้อมอาคารประกอบอ่างเก็บน้ำคลองแห้ง จ.กระบี่  โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวในช่วงท้ายด้วยว่า "รัฐบาลจะยั่งยืนมั่นคงต่อไปได้อย่างไร ก็ต้องอาศัยประชาชน หากประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รัฐบาลก็จะมีความมั่นคงยั่งยืน จึงขอให้เลือกรัฐบาลที่ดีๆ เถอะครับ ถ้าเลือกรัฐบาลดี เราก็มีที่อยู่ที่อาศัยที่ทำกิน ฝากทุกท่านไว้ด้วย"

พปชร.ชม 'บิ๊กป้อม' ทำหน้าที่ได้ดี

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรค พปชร. ในฐานะประธานวิปรัฐบาล  กล่าวถึงกรณี ส.ส.พปชร.ดูคึกคักเป็นพิเศษตั้งแต่ พล.อ.ประวิตรทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกฯ ว่า พล.อ.ประวิตรเป็นความอบอุ่นของ พปชร. สมาชิก พปชร.รู้สึกว่าได้รับความอบอุ่นจากท่านตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นนายกฯ รักษาการ พอมาทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกฯ เรารู้สึกว่ามีความตื่นเต้น เพราะจะดูว่าท่านสามารถทำหน้าที่ได้หรือไม่ แต่ผลปรากฏว่าท่านทำหน้าที่นี้ได้ดี และมีความเป็นกันเองกับประชาชน 

เมื่อถามว่า ประเมินศักยภาพ พล.อ.ประวิตรแล้วสามารถทำหน้าที่นายกฯ ได้หรือไม่ หากเกิดอุบัติเหตุกับ พล.อ.ประยุทธ์ นายนิโรธกล่าวว่า ส่วนนี้ตนไม่คาดเดา  แต่ พล.อ.ประวิตรมีคุณสมบัติและมีความรู้ความสามารถในการเป็นผู้บริหารของประเทศ มีประสบการณ์ทางการเมือง มีวิสัยทัศน์ทางการเมือง สรุปง่ายๆ พล.อ.ประวิตรคือนักการเมือง ส่วนจะสามารถเป็นแคนดิเดตนายกฯ เบอร์หนึ่งของ พปชร.ได้หรือไม่ เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่จะต้องคุยกัน ตนไม่ก้าวล่วง

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เห็นด้วยกับสำนักวิจัยซูเปอร์โพลที่สำรวจความคิดเห็นของประชาชน กรณีหลังศาลรัฐธรรมนูญรับพิจารณาปม 8 ปีของนายกฯ ประยุทธ์ โดยพบว่าส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 90.9 ไม่ต้องการเห็นการเมืองพาคนลงถนน ชุมนุมใหญ่ เผชิญหน้า ขัดแย้งรุนแรงบานปลาย เสียภาพลักษณ์ กระทบการประชุมเอเปก

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย  กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ดูตัวอย่างจาก นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ที่ประกาศลาออกจากตำแหน่งเพื่อไปต่อสู้คดีในชั้นศาล อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้พิจารณาแล้วตัดสินใจ ประเทศอยู่ได้เพราะไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ แต่ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีอำนาจ  ขณะที่ พล.อ.ประวิตรขยันลงพื้นที่ เดินเหินแข็งแรงอย่างน่าอัศจรรย์ ยินดีหาก พล.อ.ประวิตรมุ่งแก้ไขปัญหาให้ประชาชน เพราะทุกปัญหานั้นมีความสำคัญ แต่อยากให้ พล.อ.ประวิตรสร้างความแตกต่างจาก 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ เช่นการจัดการปัญหายาเสพติด ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญไม่ต่างจากเรื่องอื่นๆ

นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. กล่าวตอบโต้นายณัฐวุฒิว่า ไม่แน่ใจว่านายณัฐวุฒิแยกไม่ออกจริงๆ หรือแกล้งทำเป็นแยกไม่ออก เพราะกรณีของนายนิพนธ์นั้น ป.ป.ช.มีมติฟ้องคดีอาญา เมื่อครั้งที่นายนิพนธ์ดำรงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นคนละเรื่องคนละกรณีกันกับของท่านนายกฯ ทันทีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องไว้วินิจฉัย  ท่านนายกฯ ก็หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันทีเช่นกัน

ถกแก้ รธน.ตัดอำนาจ ส.ว.

ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะวิปฝ่ายค้าน  ให้สัมภาษณ์ก่อนเปิดประชุมวิปฝ่ายค้านว่า จะหารือเรื่องวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันที่ 6-7 ก.ย.ของสัปดาห์นี้ ซี่งจะมีการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม มีทั้งหมด 5 ฉบับ ได้แก่  ร่างแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 272 เสนอโดยนายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคเสรีรวมไทย กับประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง จำนวน 64,151 คน, ร่างแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา  120 เสนอโดยนายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ  พรรคภูมิใจไทย กับคณะ ส่วนที่เสนอโดยพรรคเพื่อไทยมีทั้งหมด 3 ฉบับ ในวาระการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 5 ฉบับนั้น จะเป็นการรวมพิจารณาและอภิปรายพร้อมกันทั้ง 5 ฉบับ และจะลงมติแยกกันทีละฉบับ โดยคาดว่าจะใช้เวลาประชุมถึงเวลาเที่ยงคืนของทั้งวันที่ 6 ก.ย.และ 7 ก.ย.

นายสุทินกล่าวถึงแนวโน้มการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เคยเสนอกันมาหลายครั้งแล้ว แต่ที่ผ่านมาไม่สำเร็จ  ส.ว.จะเห็นชอบกับการตัดอำนาจ ส.ว.ได้หรือไม่  พูดตามหลักแล้วมันก็ยากที่จะให้เขาตัดอำนาจตัวเอง แต่เขาอาจจะคิดได้ว่าจวนจะหมดวาระไปแล้ว อีกประการคือมี  ส.ว.ไม่น้อยที่เห็นควรว่าตัดอำนาจข้อนี้ออก จากเหตุปัจจัยทั้งสถานการณ์และบริบท จึงจะมีความหวังมากขึ้น

นายนิโรธ สุนทรเลขา ในฐานะประธานวิปรัฐบาล  กล่าวว่า การประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 6 ก.ย.จะมีการพิจารณากฎหมายเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อไม่ให้  ส.ว.มีอำนาจโหวตเลือกนายกฯ คิดว่าจะไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อดูแล้วก็เป็นเรื่องที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ การจะไปแก้ในหลักการคิดว่าคงทำได้ยาก เพราะต้องใช้เสียงของ  ส.ว.ด้วย 

นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะเลขานุการ กมธ.วิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการประสานงาน 3 ฝ่าย (วิป 3 ฝ่าย)  ว่า การประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 6 ก.ย.เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 5 ฉบับ ซึ่งจากมติวิป 3 ฝ่ายจะให้เวลาผู้เสนอร่างรวมทั้ง 5 ฉบับ เป็นเวลา 2 ชม. ฝ่ายรัฐบาล 6 ชม. ฝ่ายค้าน 6 ชม. ส.ว. 6 ชม. และประธานในที่ประชุม 1 ชม. คาดว่าการประชุมวันแรกจะพิจารณาจนเลยเวลาเที่ยงคืน จากนั้นวันที่ 7 ก.ย.จะเริ่มประชุมอีกครั้งเวลา 09.00 น. คาดว่าไม่เกิน 19.00  น.จะสามารถโหวตได้ ซึ่งการนับคะแนนจะเป็นแบบขานชื่อรายบุคคล โดยใช้คะแนนเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา  และในจำนวนนั้นต้องมี ส.ว. 1 ใน 3 ให้ความเห็นชอบด้วย จึงคาดว่าการประชุมจะเสร็จสิ้นก่อนเวลา 22.00  น.

เมื่อถามว่า การโหวตของ ส.ว.มีการรอสัญญาณจากผู้ใหญ่บางคนหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ไม่มีผู้ใหญ่  กำนัน อบต.อะไรทั้งนั้น เพราะการโหวตเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีหลายประเด็น มีเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับ ส.ว.ด้วย ดังนั้นแต่ละคนจึงมีเอกสิทธิ์ในการโหวต ไม่มีใครสั่งใครได้ เรื่องดังกล่าวจึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และเชื่อว่าการประชุมจะราบรื่น.