โฆษกรัฐบาลปลื้ม ยอดใช้จ่ายกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศระยะที่ 2 ใน 3 โครงการของรัฐ แตะ 7,780 ล้านบาท “คลัง” เผยเปิดลงทะเบียนคนจนวันแรกยอด 1.86 ล้านราย ผ่านเว็บไซต์ 1.61 ล้านราย และผ่านหน่วยรับลงทะเบียน 2.48 แสนราย กระทรวงพลังงานชงมาตรการช่วยค่าไฟ-ค่าก๊าซเข้า ครม. 13 ก.ย.นี้ เร่งลดผลกระทบค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแก่ประชาชน
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 5 กันยายน นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยการใช้จ่ายภาครัฐและประชาชน 3 โครงการสำคัญ ภายใต้ "มาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศปี 2565 ระยะที่ 2" ข้อมูลล่าสุด ณ วันอาทิตย์ที่ 4 ก.ย.65 เวลา 23.00 น. ยอดสะสมรวม 7,779.5 ล้านบาท โดยมีผู้ใช้สิทธิ์ 23.78 ล้านคน แบ่งเป็น 1.โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 มีผู้ใช้สิทธิ์สะสม 14.24 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 5,885.1 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 2,981.8 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 2,903.3 ล้านบาท 2.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 มีผู้ใช้สิทธิ์สะสม 9.02 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 1,792.6 ล้านบาท 3. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิ์สะสม 514,716 คน ยอดใช้จ่ายสะสม 101.8 ล้านบาท
"ทั้ง 3 โครงการนี้นอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งของการลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยอีกทางหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้รับประโยชน์จากการซื้อขายสินค้า และภาคบริการภายในประเทศ ซึ่งเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยอมรับว่า โครงการรักษาการบริโภคภายในประเทศของรัฐบาลช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้จริง และลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนด้วย" นายอนุชากล่าว
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 เริ่มเปิดรับลงทะเบียนวันแรก (5 ก.ย.65) โดยผ่านเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ตั้งแต่เวลา 06.00 น. และหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.), ธนาคารออมสิน, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ), สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ สังกัดกรมบัญชีกลาง, ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ ภายใต้กระทรวงมหาดไทย, สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต และศาลาว่าการเมืองพัทยา เมืองพัทยา โดย ณ เวลา 15.00 น. มีประชาชนลงทะเบียนทั้งสิ้นแล้ว 1,862,622 ราย โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ 1,613,926 ราย และลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน 248,696 ราย
ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง คือ 1.ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ที่เปิดให้ลงทะเบียน เวลา 06.00 น. ถึง 23.00 น.ของทุกวัน หรือ 2.ลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน ได้ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. จนถึงวันที่ 19 ต.ค.65 โดยหลังจากลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนด้วยตัวเองผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ถัดไป โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.65 เป็นต้นไป
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานเตรียมเสนอมาตรการบรรเทาผลกระทบด้านพลังงานแก่ประชาชน ในด้านค่าไฟฟ้าและราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 22 ส.ค.65 เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 13 ก.ย.65 เพื่อเร่งช่วยเหลือด้านค่าครองชีพของประชาชนในภาวะปัจจุบัน ประกอบด้วยด้านค่าไฟฟ้า แนวทางช่วยเหลือ 1.กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า 92.04 สตางค์ต่อหน่วย (ประกอบด้วยส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของค่า Ft เดือน พ.ค.-ส.ค.65 จำนวน 23.38 สตางค์ต่อหน่วย และส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของค่า Ft เดือน ก.ย.-ธ.ค.65 จำนวน 68.66 สตางค์ต่อหน่วย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยลดภาระค่าครองชีพของผู้ใช้ไฟฟ้าเป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่เดือน ก.ย.-ธ.ค.65
2.กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 301-500 หน่วยต่อเดือน ให้ส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของค่า Ft เดือน ก.ย.-ธ.ค.65 แบบขั้นบันได 15-75% ทั้งนี้ การดำเนินมาตรการตามแนวทางช่วยเหลือกลุ่ม 1 และ 2 ซึ่งเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ของ กฟน.และ กฟภ.จะครอบคลุมผู้ใช้ไฟฟ้าประมาณ 80% ของผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศ หรือคิดเป็น 89% ของผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย และนอกจากนี้จะดำเนินการให้ครอบคลุมบ้านที่อยู่อาศัยที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยของ กฟผ. และผู้ใช้ไฟฟ้าของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือด้วย
ขณะที่ด้านค่าก๊าซหุงต้ม ขยายระยะเวลามาตรการบรรเทาผลกระทบด้านราคาก๊าซหุงต้ม ให้ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มแก่ผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติม ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจาก 45 บาท ต่อคนต่อ 3 เดือน เพิ่มขึ้นอีก 55 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน รวมเป็น 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน เดิมมีกำหนดสิ้นสุดโครงการวันที่ 30 ก.ย.นี้ ให้ต่อไปอีก 3 เดือน ทั้งนี้ ในส่วนลดที่เพิ่ม 55 บาท/คน/3 เดือน คาดว่าจะสามารถใช้ได้ช่วงปลายเดือน ต.ค.65 โดยกระทรวงพลังงานจะแจ้งกำหนดที่แน่นอนเมื่อได้รับงบกลางปี 2566 แล้วต่อไป
“ขณะนี้มาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าแก่บ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือนอยู่ระหว่างการจัดเตรียมรายละเอียด ซึ่งเป็นการดำเนินการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย คือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ซึ่งคาดว่าจะสามารถใช้งบกลางได้ทันในรอบบิลค่าไฟฟ้าเดือนกันยายน 2565 รวมทั้งการขยายระยะเวลามาตรการบรรเทาผลกระทบด้านราคาก๊าซหุงต้มก็เช่นกัน คาดว่า ครม.จะพิจารณามาตรการดังกล่าวได้ในวันที่ 13 ก.ย.นี้” นายกุลิศกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โปรยยาหอม‘ชายแดนใต้’ อิ๊งค์ประทับใจจะกลับมาอีก
นายกฯ บินชายแดนใต้ อุ่นใจ ผบ.ตร.-ผบ.ทบ.ร่วมวง พร้อมเซลฟีฉ่ำ
พรรคส้ม-น้ำเงินโต้เดือด! ทุ่มร้อยล้านซื้อเสียงอบจ.
ปะทะเดือด! "ปชน." โวย สส.ค่ายน้ำเงินขู่กลางห้องประชุมสภาฯ อย่ายุ่งเลือกตั้ง อบจ. "มัลลิกา” ซัดกลับ “ประเสริฐพงษ์”
การันตี27ม.ค. นัดโอนเงินหมื่น เช็กสิทธิทางรัฐ
“เผ่าภูมิ” การันตี 27 ม.ค. นัดโอนเงิน 10,000 บาท พร้อมกางไทม์ไลน์ 22 ม.ค.
กกพ.ลดค่าไฟฟ้า 17สตางค์/หน่วย คงเหลือ3.98บาท
กกพ.ยกแนวทางลดค่าไฟฟ้า 17 สตางค์ รีดไขมันจากกลุ่ม Adder และ FiT ให้เหลือเท่าอัตราผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก
‘ผู้มีบารมี’นัดดีลลับกาสิโนที่ฮ่องกง
"นายกฯ" เปิดประชุม รมต.อาเซียนด้านดิจิทัลครั้งที่ 5 ชูนโยบายร่วมมือแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ยกระดับเข้มปราบภัยออนไลน์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์
รพ.ตร.ปกป้องแม้ว ส่งเวชระเบียนให้แพทยสภาแค่บางส่วน‘อมร’ย้ำต้องจบเร็ว
รพ.ตำรวจยังยึกยัก ส่งเวชระเบียนรักษา "นักโทษเทวดา" ให้กรรมการสอบแพทยสภา