โพลประจานชัด คน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เชื่อบัญชีผีในหน่วยงาน 3 จังหวัดมีจริง คาดเป็นเรื่องผลประโยชน์แอบแฝง แต่ 57% ยังเชื่อมั่นจะแก้ปัญหาได้ “เพื่อไทย” จี้ “บิ๊กป้อม” เร่งสางกาฝาก “วันชัย” เดือดส่งทนายฟ้องกราวรูด
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพลของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เผยผลสำรวจของประชาชน เรื่องบัญชีผีหน่วยงานภาครัฐใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งสอบถามประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปในจังหวัดปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส จำนวน 1,102 หน่วยตัวอย่าง
โดยเมื่อถามถึงความเชื่อของประชาชนต่อข่าวเจ้าหน้าที่รัฐจำนวนหนึ่ง มีชื่อปฏิบัติงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ไม่มีตัวตนเข้ามาทำหน้าที่จริงในหน่วยงานนั้นๆ (บัญชีผีหน่วยงานภาครัฐ) พบว่า ตัวอย่าง 40.29% ระบุว่าเชื่อว่าเกิดขึ้นจริง 25.95% ระบุว่าค่อนข้างเชื่อว่าเกิดขึ้นจริง 19.33% ระบุว่าไม่เชื่อเลย 14.07% ระบุว่าไม่ค่อยเชื่อว่าเกิดขึ้นจริง และ 0.36% ระบุว่าไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ด้านความรู้สึกของประชาชนต่อข่าวเจ้าหน้าที่รัฐจำนวนหนึ่งมีชื่อปฏิบัติงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ไม่มีตัวตนเข้ามาทำหน้าที่จริงในหน่วยงานนั้นๆ เฉพาะผู้ที่ระบุว่าเชื่อว่าเกิดขึ้นจริง ค่อนข้างเชื่อว่าเกิดขึ้นจริง และไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ (จำนวน 734 หน่วยตัวอย่าง) พบว่า 43.32% ระบุว่าอาจจะมีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่ 41.55% ระบุว่าไม่เป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่รัฐผู้ที่ปฏิบัติงานจริงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 30.65% ระบุว่าเป็นการย้ายแค่ชื่อเข้ามาเอาตำแหน่งเพื่อการเติบโตทางราชการในวันหน้า 30.38% ระบุว่าเป็นการใช้เส้นสายทางราชการ/การเมือง 27.38% ระบุว่าเป็นเรื่องปกติในระบบราชการไทย 17.57% ระบุว่าผู้บริหารในส่วนกลางไม่ใส่ใจดูแลแก้ปัญหาบัญชีผีหน่วยงานภาครัฐใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 14.85% ระบุว่าเป็นการอาศัยช่องว่างทางกฎระเบียบในระบบราชการ และ 1.91% ระบุว่าไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อการแก้ไขปัญหาบัญชีผีหน่วยงานภาครัฐใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เฉพาะตัวอย่างที่ระบุว่าเชื่อว่าเกิดขึ้นจริง ค่อนข้างเชื่อว่าเกิดขึ้นจริง และไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ พบว่า 57.08% ระบุว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ เพราะ หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความเข้มงวดในการตรวจสอบอย่างจริงจัง และมีบทลงโทษที่รุนแรงสำหรับคนที่กระทำผิดก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ ขณะที่ 40.74% ระบุว่าไม่มีทางแก้ไขปัญหาได้ เพราะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มานานจนกลายเป็นเรื่องปกติ มีเรื่องของอำนาจ ผลประโยชน์และเส้นสายเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยาก และ 21.8% ระบุว่าไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ด้าน น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงผลการสอบของคณะกรรมการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ต่อกรณีการช่วยราชการของ ส.ต.ท.หญิง เป็นการขอมาช่วยราชการเอง พิจารณาแล้วเหมาะสม และได้มีคำสั่งให้พ้นหน้าที่โดยมีผลย้อนหลังนั้น การกระทำดังกล่าวถือว่าจบ ว่าคำถามที่สังคมสงสัยคือกรณีแบบนี้มีอีกกี่คน และใครควรต้องรับผิดชอบ กอ.รมน.เองใช้จ่ายเงินภาษีของประชาชนอย่างคุ้มค่าหรือไม่ เพราะทุกวันนี้ประชาชนทุกข์ยากลำบากจากสภาวะเศรษฐกิจแค่ไหน แต่ก็ยังต้องจ่ายภาษีทุกวัน เพื่อให้ผู้มีอำนาจบางคนถลุงเงินภาษีไปในทางที่ไม่เหมาะสม
น.ส.อรุณีกล่าวว่า ที่ผ่านมาในขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บริหารประเทศ ได้มีการออกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 312/2562 แบ่งโครงสร้าง กอ.รมน.ใหม่ 17 หน่วยงาน ให้หน้าที่อำนาจส่วนงานศูนย์ประสานการปฏิบัติ กอ.รมน.ภาค-จังหวัด ขึ้นตรงกับ ผอ.กอ.รมน. ส่วนอัตรากำลังให้ ผอ.กอ.รมน.จัดสรรจำนวนตามที่ ครม.กำหนดให้เพียงพอกับความจำเป็น และยังให้หน่วยงานของรัฐให้การสนับสนุนตามที่ได้รับการประสานและร้องขอ อำนาจของ กอ.รมน.ที่ขยายออกไปอย่างกว้างขวางเช่นนี้ ก่อให้เกิดคำถามว่า กอ.รมน.เข้าไปแทรกแซงการบริหารงานของราชการส่วนภูมิภาคหรือไม่ เพราะมีทั้ง กอ.รมน.ภาคตามพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาค ส่วนในระดับจังหวัดแม้จะมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานเช่นกฎหมายเดิม แต่ก็จะเพิ่มจังหวัดทหารบก หรือมณฑลทหารบกที่รับผิดชอบพื้นที่จังหวัด โดยแต่งตั้งเป็นรองผู้ว่าราชการฝ่ายทหาร เพราะทหารพยายามผูกโยงว่าทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกับมิติด้านความมั่นคง แทนที่ กอ.รมน.จะเป็นหน่วยงานที่พึ่งที่หวังของประชาชนเพราะมีเจ้าหน้าที่อยู่ทุกจังหวัด แต่กลับเป็นหน่วยงานที่เป็นเสมือนดินแดนสนธยาที่ประชาชนยากจะเข้าถึงและตรวจสอบ กรณีของ ส.ต.ท.หญิงคือภาพสะท้อนของสิ่งเหล่านั้น
“วันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี แม้อยู่ในตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี และเป็น ผอ.กอ.รมน.ด้วย มีอำนาจเต็มมือ ควรต้องตระหนักเร่งสั่งการ ตรวจสอบทั้งระบบ โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นกำลังพลผู้ปฏิบัติงานในอัตราช่วยราชการแบบปีต่อปี ซึ่งจะเป็นกำลังพลส่วนใหญ่ประกอบด้วย พลเรือน ตำรวจ และทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ ทั้งนี้เพื่อเป็นการทำลายระบบกาฝากทั้งองคาพยพ ไม่ใช่แก้ปัญหาแบบเป็นรายกรณีแล้วจบไป" น.ส.อรุณีกล่าว
นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า จะดำเนินคดีคนโพสต์กล่าวหาว่าตนเองมี ส.ต.ท.หญิงเป็นเมียน้อย โดยได้มอบหมายให้บริษัท สำนักงานกฎหมายปรเมษฐ์ จำกัด จัดการดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญาอย่างเด็ดขาด โดยคดีแพ่งอย่างน้อยต้องร้อยล้านบาท อาญาก็ต่างกรรมต่างวาระ จะได้รู้สำนึกกันเสียบ้าง ทีหลังอย่าได้ทำอะไรส่งเดชอย่างนี้อีก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
27ม.ค.โอนเงินหมื่นเฟส2 คลังยันคุยธปท.ดันศก.โต
นายกฯ สรุปทิศทางทำงบปี 69 ย้ำต้องตอบโจทย์พัฒนาประเทศ
สภา415เสียง แก้ไขข้อบังคับ คนนอกรื้อรธน.
“รัฐสภา” ถกแก้ข้อบังคับการประชุม "สว.-รทสช." รุมค้านเปิดทาง
เสด็จฯพระราชพิธีสมมงคล
"ในหลวง" เสด็จฯ ไปในการพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าสมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระราชวงศ์จักรี
พนันออนไลน์ถูกกม.! จบ1เดือนปาดหน้ากาสิโน/ผวาทุนเทา
“จุลพันธ์” อวยเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์สุดลิ่ม ปูดมีมากกว่า 1 จุดแน่ เพราะช่วยกระตุ้นจีดีพี รีบปัดมีการเกี้ยเซียะทุนใหญ่
เหนือ-อีสาน อุณหภูมิยังหนาวจัด กทม.16 องศา มีหมอกบาง
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและ
ขอแบ่งเค้ก‘กาสิโน’ แทบทุกหน่วยงานหนุน/รบ.ยกสิงคโปร์โมเดลทำรายได้พุ่ง
รัฐบาลอุ๊งอิ๊งทุบโต๊ะทำคลอด “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”