สว.เฉ่งปลุกปั่นเด็กทำแตกแยก

"ศรีสุวรรณ" ยื่นคำร้อง กกต.เสนอยุบ "เพื่อไทย" เหตุรับลูก "ทักษิณ" หลังโพสต์เบรกแก้ ม.112 ถือว่าครอบงำพรรค พร้อมให้ถ้อยคำประเด็นวิดีโอคอลงานเลี้ยง "ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย" บุกสภายื่นคัดค้านแก้ ม.112,116 ผ่าน"หมอระวี" ประกาศจุดยืนปกป้องสถาบันเบื้องสูง แกนนำ พท.อ้อมแอ้มแก้ ม.112 ต้องฟังเสียง ปชช. รับข้อเสนอกลุ่มพลเมืองเพื่อผู้ต้องขัง ดันตั้ง กมธ.สอบกระบวนการใช้ กม.ที่ล้นเกิน กมธ.พัฒนาการเมือง วุฒิฯ ซัดเล่นการเมืองเลอะเทอะ เอาเด็กเป็นเครื่องมือปลูกฝั่งให้เข้าใจผิดๆ สร้างความแตกแยก

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วันที่ 8 พฤศจิกายน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นคำร้องต่อ กกต.เรื่องของนายทักษิณ ชินวัตร โดยกล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 31 ต.ค.64 กลุ่มราษฎร และแนวร่วมต่างๆ ได้ร่วมกันจัดชุมนุมใหญ่ที่แยกราชประสงค์ ซึ่งการชุมนุมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ในการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วย ต่อมาในคืนดังกล่าวนายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกที่โพสต์ในโซเชียลมีเดียของพรรคเพื่อไทยว่า ให้การสนับสนุนการขับเคลื่อนของกลุ่มราษฎรในการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 และ 116 ภายหลังไม่นานวันที่ 2 พ.ย. นายทักษิณได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า มาตรา 112 ไม่ใช่ประเด็นปัญหา จึงทำให้พรรคเพื่อไทยพลิกกลับในประเด็นการขับเคลื่อนมาตรา 112 ในทันที ซึ่งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยได้ออกมาพูดในทำนองว่า อาจจะเป็นเพียงสะพานเชื่อมในการนำปัญหาเหล่านี้ไปสู่การแก้ไขในรัฐสภาเท่านั้น มิได้เป็นตัวตั้งตัวตีในการผลักดันแก้ไขมาตรา 112

"การกระทำดังกล่าวของนายทักษิณและพรรคเพื่อไทยอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืน ม.28 และหรือ ม.29 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 หรือไม่ เพราะกฎหมายกำหนดว่าห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอม หรือกระทําการใดอันทําให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํากิจกรรมของพรรคการเมือง ในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ฯ หาก กกต.วินิจฉัยว่าเป็นการครอบงำหรือชี้นำ ก็อาจนำไปสู่การยุบพรรคการเมืองดังกล่าวได้ ตาม ม.92(3) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560"

ภายหลังเข้าให้ถ้อยคำต่อ กกต.กว่า 1 ชม. นายศรีสุวรรณเปิดเผยว่า ตนได้กล่าวหานายทักษิณที่ได้วิดีโอคอลเข้ามาในงานเลี้ยง และนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ที่เป็นเจ้าของสถานที่จัดเลี้ยง ซึ่งถือว่าทั้ง 2 คนเป็นบุคคลนอก ไม่ใช่สมาชิกพรรคเพื่อไทย ตามมาตรา 29 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ส่วนพรรคเพื่อไทยถูกร้องเรียนตามมาตรา 28 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ยืนยันการที่ กกต.เรียกเข้าให้ถ้อยคำไม่ถือว่าเร็ว ช้าไปด้วยซ้ำ ทั้งนี้เมื่อ กกต.ได้สอบเบื้องต้นแล้ว จะตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อแสวงหาพยานหลักฐานอื่นเพิ่มเติมต่อไป

ที่รัฐสภา นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ รับหนังสือจากกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยแห่งประเทศไทย เพื่อคัดค้านการแก้ไขมาตรา 112 และ 116 โดย นพ.ระวีกล่าวว่า ในอดีตผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยเป็นกลุ่มคนที่ไม่เอาสถาบัน แต่ในปัจจุบันนี้เมื่อได้มาใช้ชีวิตในสังคมปกติ ได้มองเห็นว่าสิ่งที่เราคิด สิ่งที่เราทำในอดีตมันไม่สอดคล้องกับสภาพสังคมไทย เราเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันหลัก เพื่อสร้างความมั่นคงของประเทศในทุกๆ ด้าน

ด้านนายกฤษฎีกา มณีมัย ผู้ประสานงานผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยภาคใต้ กล่าวว่า วัตถุประสงค์หลักที่มาวันนี้เพื่อประกาศจุดยืนปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่ถูกกลุ่มนักการเมือง พรรคการเมือง และกลุ่มนักศึกษาที่มีความเห็นต่างจาบจ้วง คิดจะล้มล้างสถาบัน ซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยวและเป็นศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทย

พท.ดันแก้ กม.ที่ล้นเกิน

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่มีการเสนอให้สภาเป็นทางออกแก้ไขมาตรา 112 ว่า วันนี้ทุกฝ่ายจะต้องรับฟังความเห็นของประชาชนและสังคมให้มากขึ้น ดังนั้นไม่แปลกที่วันนี้อาจจะมีความเห็นต่างกันในการขอแก้ไข ม.112 เนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญและอ่อนไหว ซึ่งต้องใช้เวลาและรับฟังเสียงของประชาชนว่าสังคมต้องการอย่างไร และไปในแนวทางใด ซึ่งจำเป็นจะต้องมีเวทีกลางในการเปิดรับฟังความเห็นหรือไม่ เพราะวันนี้ไม่มีเวที ทุกคนสามารถแสดงความเห็นได้ตามสื่อต่างๆ หรือจากเสียงของประชาชนโดยตรง เมื่อพิจารณาถึงความจำเป็นที่แท้จริงแล้วก็ให้มาคุยกันในสภา เพื่อให้เกิดผลึกร่วมกันแล้วเดินในขั้นต่อไป แต่ผู้ที่ได้รับผลกระทบเฉพาะหน้าในกลุ่มที่ถูกดำเนินคดีก็ต้องหาทางช่วยเหลือและดูแลก่อน ซึ่งอาจจะยังไม่ถึงขั้นการแก้กฎหมาย

ที่ทำการพรรคเพื่อไทย กลุ่มพลเมืองเพื่อผู้ต้องขังทางการเมือง นำโดยนายรัศม์ ชาลีจันทร์ อดีตข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ นายสุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาองค์กรสิทธิมนุษยชนนานาชาติฮิวแมนไรต์วอตช์ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซลูกนัท นักวิชาการ และนักกิจกรรมทางการเมือง ยื่นหนังสือถึงพรรคเพื่อไทย โดยมี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ผู้อำนวยการพรรคร่วมรับหนังสือ

กลุ่มพลเมืองฯ ออกแถลงการณ์ ขอผลักดันให้ผู้ต้องขังทางการเมืองได้รับสิทธิประกันตัว เนื่องจากถูกดำเนินคดีและจับกุมคุมขังจากการใช้กฎหมายอาญา มาตรา 112 และมาตรา 116 รวมถึง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และกฎหมายอื่นๆ ซึ่งมีคดีกว่า 159 คดีที่ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 โดยผู้ต้องขังทั้งหมดยังไม่ได้รับการไต่สวน แต่กลับถูกคุมขังก่อนพิจารณาคดีโดยไม่ได้รับสิทธิประกันตัว จึงเรียกร้องพรรคการเมืองผลักดันให้เกิดความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้กระบวนการยุติธรรม ศาล ตุลาการ ไม่ตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

ส่วน นพ.ชลน่านกล่าวว่า พร้อมรับข้อเสนอของกลุ่มพลเมืองฯ ไปหาแนวทางแก้ปัญหา โดยนำเข้าสู่การแก้ไขตามระบอบประชาธิปไตย เราจะดำเนินการ 3 ข้อ คือ 1.จะตั้งคณะทำงานขึ้นมาชุดหนึ่ง คือคณะทำงานเพื่อผู้ต้องขังทางการเมือง ซึ่งมี นพ.ทศพร เสรีรักษ์ เป็นประธาน เพื่อทำงานคู่ขนานกันไป 2.วันที่ 9 พ.ย.จะเสนอญัตติเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ เพื่อพิจารณา ศึกษา ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกระบวนการบังคับใช้กฎหมายที่ล้นเกิน และขัดหลักนิติธรรม ต่อผู้ต้องขังทางการเมือง โดยดึงตัวแทนภาคประชาชนเข้ามาเป็น กมธ.ในสัดส่วนร้อยละ 20 ของโควตาพรรคเพื่อไทย และ 3.สภาต้องมีข้อสรุปที่เกี่ยวข้องกับพันธสัญญาที่เรามีกับนานาประเทศตามหลักสากล

จากนั้นกลุ่มพลเมืองฯ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการและกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันให้ผู้ต้องขังทางการเมืองได้รับสิทธิประกันตัว

จวกใช้เด็กเป็นเครื่องมือ

วันเดียวกัน ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่องการส่งเสริมความรู้ทางการเมือง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ของ กมธ.การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว.เป็นประธาน กมธ.ที่พิจารณาเสร็จแล้ว

โดยนายเสรีกล่าวรายงานว่า สิ่งที่เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันคือ มีสถานการณ์ทางการเมืองที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้แก่ประชาชนทั้งรุ่นปัจจุบัน และเยาวชนคนรุ่นใหม่เกิดขึ้น แต่กลับไม่เกิดการเรียนรู้และเข้าใจ ทำให้การแสดงออกขาดจิตสำนึกร่วมกัน ในการที่จะให้ความรู้ความเข้าใจ หรือจะให้การเมืองเดินไปข้างหน้าอย่างสร้างสรรค์ ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ทำให้เห็นการเมืองที่ไม่รักชาติ เล่นการเมืองกันแบบเลอะเทอะ โดยเอาเด็กเยาวชนมาเป็นเครื่องมือต่อสู้เรียกร้องทางการเมือง ปลูกฝังทางการเมืองให้เด็กรุ่นใหม่ๆ เรียนรู้ไปในทางที่ผิดพลาด คลาดเคลื่อนไปจากการเมืองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง

"การอยู่ร่วมกันในทางการเมืองนั้นไม่ใช่ของคนรุ่นใหม่ แต่เป็นของคนทุกคนที่เป็นเสียงส่วนใหญ่ในประเทศ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ตัดสินใจร่วมกัน นี่คือวิถีทางการเมืองที่ควรจะเป็นและถูกต้อง ไม่เช่นนั้นก็มีการเสนอความคิดผิดๆ ทำให้เด็กรุ่นใหม่ฮึกเหิม เรียกร้องในสิ่งที่แตกต่างไปจากคนทั่วไปเขาคิด ก่อให้เกิดความคิดที่แตกต่างและแตกแยกของคนทุกๆ รุ่น" นายสรีระบุ

ทั้งนี้ มี ส.ว.แสดงความเห็นสนับสนุน พร้อมเสนอแนะด้วยว่า พรรคการเมืองหรือสถาบันทางการเมือง ควรมีส่วนร่วมในการสนับสนุนให้ประชาชนมีความเข้าใจที่ถูกต้อง

หลังพิจารณาเสร็จสิ้น นายเสรีกล่าวว่า หากสภาให้ความเห็นชอบแล้ว ขอเสนอให้ส่งรายงานฉบับนี้ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการข้อเสนอของ กมธ.ด้วย

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวถึงการดำเนินการทางด้านกฎหมายนับตั้งแต่มีการชุมนุมทางการเมือง ก.ค.63 จนถึงปัจจุบัน มีคดีทั้งสิ้น 782 คดี สอบสวนเสร็จสิ้นและสั่งฟ้องไปแล้ว 385 คดี อยู่ระหว่างสอบสวน 397 คดี ส่วนการชุมนุมวันนี้คาดว่าจะกระทบกับการจราจร 2 จุด จุดที่ 1 คือหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ถนนงามวงศ์วาน สะพานข้ามแยกบางเขน สะพานข้ามแยกพงศ์เพชร จุดที่ 2 แยกใต้ด่วนดินแดง กรณีมีการรวมตัวของกลุ่มทะลุแก๊ส ถนนวิภาวดีฯ ถนนอโศกมนตรี ถนนพหลโยธิน ถนนประชาสงเคราะห์ และขอย้ำเตือนว่าถึงแม้กรุงเทพฯเป็นพื้นที่สีฟ้านำร่องด้านการท่องเที่ยว แต่ยังห้ามการชุมนุมรวมตัวเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินและ พ.ร.บ.โรคติดต่อ

“การชุมนุมมีเด็กและเยาวชนจำนวนมากที่ถูกล่อลวง ยุยงชักจูงให้มาร่วมชุมนุมกระทำความผิด เตือนไปยังผู้ปกครอง ผู้นำชุมชน ครูอาจารย์ช่วยแนะนำแนวทางที่ถูกต้องด้วย” โฆษก บช.น.กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ล่า ‘หมอบุญ’ เมียแค้นเอาคืน

ออกหมายจับ "หมอบุญ" พร้อมพวก 9 คน ร่วมหลอกลวงประชาชนร่วมลงทุนธุรกิจ รพ.ขนาดใหญ่หลายโครงการ เสียหายกว่า 7,500 ล้านบาท