เกม3ป.ยื้อเลือกตั้ง! จตุพรอัดเล็งจัดม็อบกลางกรุงไล่/จับตา‘บิ๊กตู่’ประชุมครม.

"บิ๊กป้อม" นั่งหัวโต๊ะ ครม.ครั้งแรก 30 ส.ค.นี้ จับตา "บิ๊กตู่" เข้าร่วมด้วย "อนุทิน" เผยยังไม่มีสัญญาณปรับครม. ทำงานยังไม่สะดุด "องอาจ" เชื่อรัฐบาลอยู่ครบวาระ รอกระชับอำนาจให้เรียบร้อย "พท." เย้ยรัฐบาลเป็ดง่อย จี้ "ประยุทธ์" พูดคำว่าผมพอแล้ว "ชนะศักดิ์"    อัดอย่าทำตัวเป็นศาลตัดสินนายกฯ เอง "วัชระ" ปูด "ป้อม" โทร.คุย "โทนี่" ตลอดนี่แหละพี่ใหญ่ตัวจริง คณะหลอมรวมฯชุมนุมต่อ "จตุพร" ชำแหละเกม 3 ป.ออกแบบไม่ให้มีการเลือกตั้งทำให้ กม.ลูกออกไม่ทัน ปลุก ปชช.-นักการเมืองไล่ 3 ป.พ้นการเมือง 

เมื่อวันอาทิตย์ ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม  ว่าในวันที่ 29 ส.ค. เวลา 08.00 น. กระทรวงกลาโหมจัดพิธีเปิดงานนิทรรศการอุปกรณ์ป้องกันประเทศ (Defense & Security 2022) ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยในกำหนดการ มีคณะ รมว.กลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ เดินทางเข้าร่วมงานด้วย ทั้งนี้ การจัดนิทรรศการดังกล่าว ทุกปี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ จะเดินทางไปเป็นประธานเปิดงาน อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นคาดว่าในปีนี้ พล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางไปร่วมงานและเป็นประธานเปิดงาน

งานดังกล่าวมี รมว.กลาโหมและผู้นำหน่วยงานทางด้านในกลุ่มประเทศอาเซียนและจากภูมิภาคต่างๆ ของโลก รวมถึงจากสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้าร่วมด้วย นอกจากนั้นยังมีหน่วยงานและบริษัทอาวุธยุทโธปกรณ์ชั้นนำของโลก ร่วมแสดงผลิตภัณฑ์ งานการวิจัยพัฒนายุทโธปกรณ์ในงานนี้ด้วย

ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 30 ส.ค.นี้ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร รักษาราชการแทนนายกฯ จะทำหน้าที่ประธานการประชุมเป็นครั้งแรก โดยเป็นที่น่าจับตาว่า พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ รมว.กลาโหม จะเดินทางเข้าร่วมประชุมด้วยหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ทำหน้าที่รายงานวาระของกระทรวงกลาโหมให้ที่ประชุม ครม.รับทราบมาโดยตลอด

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการปรับ ครม.ว่า คนที่จะปรับ ครม.ได้มีแต่นายกฯ  ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการส่งสัญญาณจากทั้งพล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตร ซึ่งโดยปกติเมื่อจะมีการปรับ ครม. จะมีการส่งสัญญาณมาก่อน

 เมื่อถามว่า จะมีการปรับตำแหน่งรัฐมนตรีในส่วนของพรรคภูมิใจไทย แทนนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) พรรคภูมิใจไทยมีความเป็นมืออาชีพ  เราไม่ทำอะไรให้วุ่นวาย มีแต่ทำให้สงบ  เรารู้แล้วว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นไม่เกินเดือน มี.ค.66 เราคิดว่าขอทำงานดีกว่า

 “การปรับครั้งนี้ยังไม่มีฮัลโหลๆ มา ผมได้แต่ให้กำลังใจ ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ รวมถึงนางกนกวรรณ ทั้งนี้ การปรับเปลี่ยนตำแหน่งรัฐมนตรี คงต้องดูสถานการณ์ก่อน เรื่องแบบนี้วางแผนไม่ได้ เล่นแบบวันต่อวัน ถ้าเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการก็คิดหนัก แต่นี่เป็นตำแหน่ง รมช. เชื่อว่า คงไม่มีอะไรสะดุดอะไร เพราะมีรัฐมนตรีทำหน้าที่อยู่แล้ว” นายอนุทินกล่าว

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกระแสข่าวการยุบสภาว่า การยุบสภาเป็นเรื่องของผู้มีอำนาจจะตัดสินใจ ขณะนี้อำนาจการยุบสภาอยู่ในมือของ พล.อ.ประวิตร รักษาราชการนายกรัฐมนตรี เมื่อพิจารณาสถานการณ์ในปัจจุบัน พบว่าสภากับรัฐบาลไม่มีปัญหาขัดแย้งกัน ขณะที่กฎหมายสำคัญคืองบประมาณก็ผ่านสภาแล้ว นายกฯ ก็ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และไม่มีปัญหาภายในพรรคร่วมรัฐบาล รัฐบาลก็คงต้องการทำหน้าที่ให้ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปกให้ดีที่สุด พร้อมทั้งใช้เวลาที่เหลืออยู่ก่อนที่สภาจะครบวาระในเดือน มี.ค.ปีหน้า เพื่อแต่งตั้งโยกย้าย กระชับอำนาจให้เรียบร้อย เชื่อว่าการยุบสภายังไม่น่าเกิดขึ้นในขณะนี้ เชื่อว่ารัฐบาลจะบริหารราชการแผ่นดินไปจนครบวาระ

พท.ย้ำ 'ประยุทธ์' ลาออก

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวการยุบสภาและการปรับ ครม.ในช่วงนี้ว่า ในการปรับครม. มองว่าเป็นไปได้ยาก โดยมารยาทคนที่เป็นนายกฯ รักษาการ คงจะมีคำสั่งที่จบจริงๆ หากยังไม่สั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์  ไปต่อหรือไม่ไปต่อ เชื่อว่าคนเป็นนายกรักษาการจะต้องรอ เพราะหากศาลสั่งให้พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อและกลับมา แต่คนรักษาการไปปรับ ครม. มันก็ไม่ถูก โดยมารยาทจะไม่ทำ เว้นแต่ศาลสั่งชัดเจนแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ไปต่อ เชื่อว่าเขาจะปรับ ส่วนการยุบสภาก็ไม่น่ามีเหตุผล เพราะ พล.อ.ประวิตรที่เป็นนายกฯ รักษาการ ก็คงอยากเป็นนานๆ เท่าที่จะนานได้ แต่หากยุบสภาพรรคเพื่อไทยพร้อมอยู่แล้ว พร้อมมานานแล้ว และเชื่อว่าพร้อมกว่าทุกพรรคด้วย

ที่พรรคเพื่อไทย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ แต่กระแสกดดันให้นายกฯ ลาออกจากตำแหน่งยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องว่า สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ควรทำคือการปล่อยวาง ตั้งสติ ตั้งใจศึกษาหลักธรรม อริยสัจ 4 ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ให้เข้าใจถ่องแท้ ต้องหยุดคิดเข้าข้างตัวเองว่า ประเทศไปต่อไม่ได้ถ้าขาด พล.อ.ประยุทธ์ ความจริงคือประเทศไปได้ และไปได้ดีกว่า ถ้าถึงขั้นแอบดอดไปเข้าประชุม ครม.ในขณะถูกสั่งให้หยุด จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ในทางเสียหายขนาดไหน พล.อ.ประวิตร แม้จะอยากรักษาการเพื่อหวังเป็นตัวจริงในอนาคต แต่เชื่อว่าไปต่อลำบาก

นายอนุสรณ์กล่าวว่า แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะให้โอกาส พล.อ.ประยุทธ์ สามารถทำคำชี้แจงไปยังศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันเพื่อแก้ข้อกล่าวหา แต่พล.อ.ประยุทธ์จะเอาอะไรไปชี้แจง และจะชี้แจงเพื่ออะไร ในเมื่อใครก็รู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 57 จนถึงวันที่ 24 สิงหาคม 65 เป็นนายกฯ 8 ปี ที่รัฐธรรมนูญเขียนห้ามไว้ แค่ พล.อ.ประยุทธ์พูดคำว่าผมพอแล้ว ขอลาออก เปิดทางให้สภาได้โหวตเลือกนายกฯ ในบัญชีเข้ามาทำหน้าที่ และเมื่อกฎหมายเลือกตั้งพร้อม ก็ประกาศยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนได้เลือกตั้งใหม่

  นายอนุสรณ์เปิดเผยด้วยว่า คณะกรรมการสื่อสารการเมืองพรรค พท. จัดเสวนาหัวข้อ 8 ปี ประยุทธ์ พอเถอะครับ ประเทศไทยต้องไปต่อ เวลา 10.00-11.00 น. วันที่ 30 ส.ค.2565 ที่ห้องสมุด Think Lab พรรคเพื่อไทย

น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคพท. กล่าวว่า บัดนี้ผู้นำรัฐบาลเปลี่ยนมือจากน้องเล็ก มาเป็นพี่ใหญ่ ที่ดูเหมือนจะไม่เคยรู้อะไรเลย จะบริหารประเทศอย่างไร จะแก้ปัญหาที่หมักหมมมาตลอด 8 ปีได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่น่าห่วงกังวลและสิ้นหวังอย่างยิ่ง ทั้งพี่ใหญ่ น้องกลางและน้องเล็ก กอดคอร่วมหัวจมท้ายกันมานานกว่า 8 ปี ครม.หรือรัฐบาลขณะนี้เปรียบได้กับ เป็ดง่อยพิกลพิการ ทำอะไรไม่ได้ องค์ประกอบของ ครม.ก็ขาดวิ่น มีรูโหว่เต็มไปหมด ไม่ต่างจากกระชังก้นรั่ว ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ปล่อยให้รัฐมนตรีช่วยว่างอยู่ 2 ตำแหน่งมาเกือบ 1 ปีเต็ม ล่าสุดศาลฎีกามีคำสั่งให้นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ รมช.ศึกษาธิการอีก วันที่ 14 ก.ย.56 มีกรณีที่นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย จะถูกศาลรธน.วินิจฉัยให้พ้นจาก รมต.หรือไม่ เพราะถูกร้องว่าเคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา เพราะเกี่ยวพันกับการฮั้วประมูล 

นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คนของพรรคเพื่อไทยไม่ต้องทำตัวเป็นศาลเสียเอง ต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อน ส่วนนายกฯ ประยุทธ์จะมีข้อมูลไปชี้แจงศาลหรือไม่  ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะคนอย่างนายอนุสรณ์คงไม่ได้เป็นคนที่รู้ทุกเรื่อง ดังนั้นไม่ควรออกมาวิพากษ์วิจารณ์ให้ประชาชนเข้าใจผิดได้ หากพรรคเพื่อไทยเชื่อว่าศาลจะใช้เวลาพิจารณาไม่นาน ก็ควรที่จะรอและให้เป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งนายกฯ เองก็พร้อมที่จะยอมรับคำตัดสินของศาลอยู่แล้ว แต่ยืนยันว่า นายกฯ จะไม่ลาออกก่อนจากตำแหน่งอย่างแน่นอน

นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรค ปชป. กล่าวถึงกรณี น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา พาดพิงถึงนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนายก อบจ. เพราะพัวพันกับเรื่องฮั้วประมูลว่า เป็นการหมิ่นประมาทนายนิพนธ์อย่างชัดเจน เพราะไม่ได้เกี่ยวพันกับการฮั้วประมูลตามข้อกล่าวหา แต่นายนิพนธ์คือผู้รักษาผลประโยชน์ของทางราชการ ที่ไม่จ่ายเงินให้บริษัทตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในขณะนั้น  ส่วนที่กล่าวหา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ รักษาการนายกรัฐมนตรี ว่าไม่รู้อะไรเลยนั้น เรื่องนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย ไม่บอก น.ส.ตรีชฎาบ้างหรืออย่างไรว่านายทักษิณโทร.คุยกับ พล.อ.ประวิตรเป็นประจำ การกล่าวหาว่าไม่รู้อะไรเลยนั้น เป็นการเข้าใจ พล.อ.ประวิตรผิดไป

"เพราะนี่แหละคือพี่ใหญ่ตัวจริงเสียงจริงของคณะ 3 ป. และของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ดังนั้นจึงขอแนะนำว่า การทำหน้าที่รองโฆษกพรรค ต้องขยันทำการบ้านเพื่อให้แม่นในข้อเท็จจริง อย่าปล่อยไก่ไปไม่เป็นเหมือนสมัยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็น รมช.พาณิชย์ ซึ่งปัจจุบันมาเป็นผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย เจ้าของคำพูดเผาไปเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้รับผิดชอบอะไรเลย" นายวัชระกล่าว

ม็อบจี้ 'บิ๊กป้อม' ปลด 'บิ๊กตู่'

ที่ลานคนเมือง คณะหลอมรวมประชาชน จัดเวทีปราศรัยหยุดอำนาจ 3 ป. นับหนึ่งประเทศไทย โดยนายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ ปราศรัยว่า เรียกร้องไปยัง พล.อ.ประวิตร รักษาการนายกฯ หากไม่มีนอกมีใน วันที่ 29 ส.ค.เปิดทำเนียบฯ ให้ปลด พล.อ.ประยุทธ์ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงสปิริตให้ประชาชนเห็น ประวิตรไม่เอาน้องป๊อกน้องตู่แล้ว ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้สมศักดิ์ศรี เดินไปกับประชาชน ทั้งที่ถูกให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังอยู่ใน ครม.ชุดนี้ เพราะมีตำแหน่ง รมว.กลาโหม อย่าตอบแค่ว่าไม่รู้ๆ ตราบใดที่ยังมีการสืบทอดอำนาจ เชื่อว่าจะไม่มีการเลือกตั้ง

นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า เราไม่ได้เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออก หรือให้ พล.อ.ประวิตรยุบสภา แต่คือการหยุดอำนาจ 3 ป. เฉกเช่นเดียวกันกับ 3 ทรราชปี 2516 สถานการณ์ขณะนี้ แบบที่ถูกออกไว้มีความประสงค์ที่ชัดเจนคือ จะไม่ให้มีการเลือกตั้งโดยใช้วิธีดีเลย์ แท็กติก โดยเฉพาะเรื่องรัฐธรรมนูญ คณะ 3 ป.ออกแบบไม่ให้ประเทศไทยมีการเลือกตั้งอย่างง่ายดาย หรือไม่มีการเลือกตั้งเลย อายุในสมัยประชุมนี้จะสิ้นสุดเดือนกันยายน และเว้นวรรคไปอีก 2 เดือนเศษ เหลือการประชุมสมัยสุดท้าย ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 100 หารขัดรัฐธรรมนูญต้องกลับมาใหม่คือ 500 หาร 500 หารก็จะถูกยื่นตีความใหม่ ท้ายที่สุดจะเลยอายุของสภาคือวันที่ 24 มี.ค.66 เมื่อไม่มีสภาผู้แทนราษฎรแล้ว รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่า กฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งมีฐานะเป็น พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ และจะต้องตราเป็น พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญเท่านั้น จะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เมื่อตราเป็นพระราชกำหนดไม่ได้ ซึ่งระเบียบต่ำกว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ฉะนั้นการเลือกตั้งจะไม่เกิดขึ้น

"เกม 3 ป.เขาฉลาดกว่าคุณหลายเท่า เขาออกแบบเพื่อไม่ให้มีการเลือกตั้งและครองอำนาจต่อไป เมื่อไม่มีกฎหมายลูกการเลือกตั้งก็จัดการไม่ได้ คณะ 3 ป.ไม่ประสงค์ที่จะสละอำนาจ แต่ประสงค์ที่จะสืบทอดต่อไป ประยุทธ์พัก ประวิตรอยู่ต่อ  หลายคนบอกว่า 3 ป.ทะเลาะกัน แล้วเคยเห็นไหมว่า 3 ป.ทะเลาะกันให้เห็นหรือไม่ คนไทยเข้าใจว่าเขาทะเลาะกันก็สะใจ ความจริงอำนาจหลุดมือประยุทธ์ก็มาใส่มือประวิตร ถ้าหลุดมือประวิตรก็ไปใส่มืออนุพงษ์ อยู่เท่านี้ ดังนั้นต้องจัดการ 3 ป.ให้หลุดพ้นทางการเมือง วันนี้เราต้องการนับหนึ่งประเทศไทยกันใหม่ จึงบอกว่าหยุดอำนาจ 3 ป.เพื่อประเทศไทย ถ้าตราบใด 3 ป.ยังอยู่ในอำนาจ การเลือกตั้งจะไม่เกิด 8 ปีนั้นเพียงพอแล้ว ขอเชิญประชาชนเจ้าของอำนาจประชาธิปไตยและนักการเมืองอย่าโง่ซ้ำซาก ให้มาร่วมกับประชาชน ต้องไล่ 3 ป.บนกระดานการเมืองไทย ด้วยการหยุดอำนาจ 3 ป.เพื่อนับหนึ่งประเทศไทย” นายจตุพรกล่าว

นายจตุพรยังกล่าวถึงการชุมนุมในครั้งต่อไปว่า มีความคิดเข้าไปจัดกิจกรรมกลางใจเมือง ไม่ว่าจะเป็นจุดภูมิศาสตร์ รั้วมหา'ลัย หรือตามภูมิภาค และสัปดาห์หน้าจะเข้าไปจัดกิจกรรมในใจกลางเมือง จะเป็นจุดใดจะแถลงให้ทราบต่อไป

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล”เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ม็อบต่อต้าน 8 ปี นายกรัฐมนตรี” สำรวจระหว่างวันที่ 24-26 ส.ค.2565 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ทั่วประเทศ 1,312 หน่วยตัวอย่าง เมื่อถามถึงความกังวลว่าจะเกิดวิกฤตการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองจากการชุมนุมต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในประเด็นวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ ไม่เกิน 8 ปี พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 47.48 ระบุว่าไม่กังวลเลย รองลงมา ร้อยละ 21.19 ระบุว่าค่อนข้างกังวล, ร้อยละ 19.13 ระบุว่าไม่ค่อยกังวล, ร้อยละ 10.90 ระบุว่ากังวลมาก และร้อยละ 1.30 ระบุว่าไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ   

ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อผู้ชุมนุมต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ ในประเด็นวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ ไม่เกิน 8 ปี จะสามารถกดดันให้นายกฯ ลาออกหรือยุบสภา พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 52.06 ระบุว่าจะไม่สามารถกดดันให้นายกฯ ลาออกหรือยุบสภา รองลงมา ร้อยละ 19.89 ระบุว่าจะสามารถกดดันให้นายกฯ ลาออก, ร้อยละ 15.25 ระบุว่าจะสามารถกดดันจนนายกฯ ต้องยุบสภา.