รัฐบาลเคราะห์ซ้ำ ศาลฎีกาสั่ง “กนกวรรณ” รมช.ศึกษาฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ หลัง ป.ป.ช.ยื่นคำร้องคดีฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงรุกที่ป่าเขาใหญ่ พร้อมนัดพิจารณาคดีครั้งแรก 5 ต.ค.นี้ "ครูเหน่ง" โทร.ให้กำลังใจ "ครูโอ๊ะ" บอกเรื่องเก้าอี้ให้ "บิ๊กป้อม" ตัดสินใจ อนุทินเชื่อ ศธ.ยังทำงานต่อได้
เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ศาลฎีกาได้มีคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ คมจ.2/2565 ระหว่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ร้อง นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้คัดค้าน เรื่อง การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง (ชั้นรับคำร้อง)
โดยคดีนี้ ป.ป.ช.ยื่นคำร้องว่า วันที่ 14 ก.พ.2545 ผู้คัดค้านดำเนินการขอออกโฉนดที่ดินในพื้นที่หมู่ที่
15 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี เนื้อที่ 30-2-80.5 ไร่ โดยอ้างว่าซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวมาจากนายทิว มะลิซ้อน เมื่อปี 2533 แต่นายทิวไม่มีตัวตน ทั้งไม่เคยมีการเข้าทำประโยชน์ในที่ดินที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และแนวเขตป่าไม้ถาวรป่าเขาใหญ่ ทำให้รัฐสูญเสียที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติให้แก่ผู้คัดค้าน การออกโฉนดที่ดินเลขที่ 41158 ต.เนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี จึงมิชอบด้วยกฎหมาย และเป็นความเสียหายร้ายแรง ผู้คัดค้านยังคงยึดถือครอบครองที่ดินต่อเนื่องตลอดมาจนกระทั่งเข้าดำรงตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการ ขอให้ศาลฎีกามีคำพิพากษาหรือคำสั่งว่าผู้คัดค้านฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ให้ผู้คัดค้านหยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ศาลฎีการับคำร้องจนกว่าจะมีคำพิพากษา ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้าน และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกิน 10 ปี ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 235 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 87 และมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ.2561 ข้อ 8 และข้อ 11, 17 ประกอบข้อ 27
ศาลฎีกามีคำสั่งให้รับคำร้องของผู้ร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย ส่งสำเนาพร้อมเอกสารประกอบให้ผู้คัดค้าน หากจะคัดค้านให้ยื่นคำคัดค้านภายใน 14 วัน นับแต่วันรับสำเนาคำร้อง และสั่งให้ผู้คัดค้านหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษาตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 81 ประกอบมาตรา 87 วรรคสาม และระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาว่าด้วยการพิจารณาพิพากษาคดีเกี่ยวกับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง พ.ศ.2561 ข้อ 12 วรรคสอง นัดพิจารณาครั้งแรกวันที่ 5 ต.ค. เวลา 09.30 น.
ภายหลังศาลฎีกาได้มีคำสั่งดังกล่าว บรรยากาศหน้าห้องทำงานของนางกนกวรรณเป็นไปอย่างเงียบเหงา เนื่องจากนางกนกวรรณและทีมงานไปปฏิบัติหน้าที่หลายแห่ง และทีมงานยังไม่ได้มีการเริ่มเก็บของภายในห้องแต่อย่างใด โดยคนใกล้ชิดระบุว่านางกนกวรรณมีกำหนดการทำงานส่วนใหญ่ไปราชการที่ต่างจังหวัดถึงเดือน ก.ย. แต่หลังจากที่ศาลมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็คงต้องยุติบทบาทดังกล่าวลง
ด้าน น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ได้โทร.ไปพูดคุยและให้กำลังใจนางกนกวรรณเป็นการส่วนตัวแล้ว ซึ่งเท่าที่ดูนางกนกวรรณค่อนข้างมีกำลังใจที่ดี ขั้นตอนจากนี้ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย ซึ่งในส่วนของ ศธ.เองก็ต้องไปดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องว่าต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง เพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ดังนั้นจึงต้องดำเนินการทุกอย่างด้วยความรอบคอบ ส่วนการทำงานต่างๆ ที่นางกนกวรรณดูแลอยู่ ทั้งในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.), สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ก็คงต้องสานต่อไป ตรงนี้ไม่ค่อยกังวล เชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้ต่อเนื่องไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน
"ที่ผ่านมานางกนกวรรณก็ถือว่าทำงานในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดี ส่วนจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี จะพิจารณา แต่เบื้องต้นยังถือว่านางกนกวรรณยังไม่พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. เพียงแต่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่" น.ส.ตรีนุชกล่าว
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข และในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวในเรื่องนี้ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ขอให้เคารพการตัดสินใจของศาล โดยวันนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับนางกนกวรรณเป็นการส่วนตัว เนื่องจากติดประชุมเอเปกและยุ่งกับการรับแขกทั้งวัน
“โควตารัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยที่ว่างเว้นนั้น ขอหารือภายในพรรคก่อน ซึ่งเก้าอี้ รมช.ศึกษาธิการที่ว่างเว้นลง ยังมีรัฐมนตรีอีก 2 คนในกระทรวงศึกษาธิการทำหน้าที่ได้ ขณะเดียวกันการจะปรับ ครม. เป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ในการแต่งตั้ง หลังจากนี้ผมจะโทร.หานางกนกวรรณเพื่อพูดคุยให้กำลังใจ ในฐานะเพื่อนร่วมพรรคที่มีความสนิทกัน”นายอนุทินกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘จุรินทร์’ เผย8ปัจจัย การเมืองปี68เดือด!
"จุรินทร์" เปิด 8 ปัจจัยการเมืองปี 2568 จับตามีคดีความที่มีผู้ร้องไปยื่นร้องนายกฯ และผู้เกี่ยวข้องไว้ที่ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีเรื่องที่ค้างอยู่อย่างน้อย
‘จ่าเอ็ม’ ผวาขออารักขา
กัมพูชาส่งตัว "จ่าเอ็ม" ให้ไทยแล้ว นำตัวเข้ากรุงสอบเครียดที่ สน.ชนะสงคราม แจ้งข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เจ้าตัวร้องขอเจ้าหน้าที่คุ้มครองเป็นพิเศษ
เป็นแม่ที่ดีหรือยัง! ‘อิ๊งค์’ เปิดอกวันเด็กสมัยก่อนไม่มีไอแพดโวยถูกบูลลี่
"นายกฯ อิ๊งค์" เปิดงานวันเด็กคึกคัก! เด็กขอถ่ายรูปแน่น พี่อิ๊งค์ล้อมวงเปิดอกตอบคำถามเด็กๆ มีพ่อเป็นต้นแบบ เผยวัยเด็กไม่มีไอแพด โทรศัพท์ ไลน์ พี่มีลูกสองคน
‘บิ๊กอ้วน’ เอาใจทอ. เคาะซื้อ ‘กริพเพน’
ปิดจ๊อบภายในปีนี้! "บิ๊กอ้วน" ไฟเขียว ทอ.เลือก "กริพเพน" มั่นใจคนใช้เป็นคนเลือก รออนุมัติแบบหลังทีมเจรจาออฟเซตกับสวีเดนจบ แจงทูตสหรัฐแล้ว ไทยยันไม่มีนโยบายกู้เงินซื้ออาวุธตามข้อเสนอขายเอฟ
กฤษฎีกายี้กม.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
จับตา ครม.ถกร่าง กม.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ 13 ม.ค.นี้
กสม.ตบปากทักษิณ ซัดปราศรัยเหยียดเชื้อชาติ/‘พท.’ชง‘ลูกอิ๊งค์’คุยพ่อลดดีกรี
"ประธาน กกต." ลั่นพร้อมดูแลเลือกตั้งนายก อบจ. 1 ก.พ.แล้ว