ไม่หยุด!ม็อบนัดชุมนุมใหญ่28ส.ค.

"จตุพร" ยันชุมนุมใหญ่​ 28 ส.ค.​ จี้ "มีชัย" พูดความจริง​ต้นตอวิกฤตการเมือง​ "ทนายนกเขา" ทำทียุส่ง "ป้อม" ยุบสภา พิสูจน์ 3 ป.ไม่ได้ขัดแย้งจริง  "สนธิญา" ร้อง ปอท.เอาผิดเพื่อไทย ปลุกกระแสโซเชียล "นายกฯ เถื่อน"

ที่สถานีโทรทัศน์พีซทีวี ซอยนวลจันทร์  คณะหลอมรวมประชาชน นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา​ แกนนำกลุ่ม แถลงข่าวกรณีคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญให้ พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์​โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี​ โดยนายนิติธรกล่าว​ว่า ​ ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง และมีคำสั่งให้พล.อ.ประยุทธ์หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเหตุผลนั้นหยิบยกมาจากหลักรัฐศาสตร์และการเคลื่อนไหวทางสังคม แสดงว่าศาลมองเห็นเค้าลางจุดมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ​ ตนเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมช่องทางไว้เรียบร้อยแล้ว จะยื่นวันนี้ก็ได้ ตอนนี้ขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประวิตร​ วงษ์​สุวรรณ​ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี มองอย่างไรกับเรื่องนี้ เพราะมีอำนาจเต็มทุกประการในการยุบสภา ต้องไปดูว่าความขัดแย้งของ 3 ป.มีจริงหรือไม่

นายนิติธรยังกล่าวอีกว่า ให้จับตาความสัมพันธ์ของ 3 ป. ที่อาจจะไม่มีความขัดแย้งกันจริงตามที่หลายคนเข้าใจ และมีสื่อพยายามปั่น เพราะอำนาจของ 3 ป. ได้วางโครงสร้างการบริหารกระจายอำนาจไว้หมดแล้ว หาก ป.ใด ป.หนึ่งไม่จับมือเดินไปด้วยกัน วันนั้นจะทำให้อำนาจขาด และประเทศเกิดความเสียหาย สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้อาจเป็นเพียงเล่ห์กลที่หวังจะตบตาฝ่ายการเมืองและประชาชน ขณะเดียวกันให้จับตาอำนาจของ พล.อ.ประวิตร​ รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่อาจตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะการยุบสภา ที่สุดแล้วอำนาจก็ยังกลับไปอยู่ในมือของ 3 ป.และทหาร

ด้านนายจตุพรกล่าวว่า วัตถุประสงค์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ปล่อยวาง แต่พร้อมสู้ทุกกรณี ฝากถึง พล.อ.ประยุทธ์ให้ดูปรากฏการณ์ที่ตัวเองยึดอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้ดี ทุกอย่างนำพาให้ท่านสู่อำนาจในลักษณะนี้ สุดท้ายนำพาประเทศมาสู่วิกฤตทางการเมือง​ ทั้งนี้คณะหลอมรวมประชาชนจะชุมนุมต่อในวันที่ 28 ส.ค.นี้ เพราะเชื่อว่าวิกฤตทางการเมืองยังจะมีขึ้น ยืนยันว่าคณะหลอมรวมประชาชนยังมีการกดดันต่อไป โดยเฉพาะการทำหน้าที่ของ พล.อ.ประวิตร

นายจตุพรกล่าวว่า วิกฤตการเมืองที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากการตัดสินใจของกลุ่มอำนาจการเมืองกลุ่มหนึ่ง โดยเฉพาะ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ที่เป็นคนกุม และร่างรัฐธรรมนูญทุกฉบับตั้งแต่ปี 2534 และรัฐธรรมนูญทุกฉบับที่นายมีชัยร่าง ทำให้เกิดวิกฤตทางการเมือง โดยเฉพาะร่างรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ต้องถกเถียงกันเรื่อง วาระนายกรัฐมนตรี 8 ปี ตนอยากให้นายมีชัยออกมาเปิดปากพูดความจริง ว่าแท้จริงแล้วประเทศชาติตอนนี้เกิดวิกฤตอะไร และเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เลือกระหว่างจะเดินเส้นทางทรราช หรือจะเลือกความสง่างาม

ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายสนธิญา สวัสดี เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.หญิงพรสถิตย์ บุราณรัตน์ รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. นำหลักฐานการโพสต์ในเพจของพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ตรวจสอบว่าเป็นการกระทำผิด 1.พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2.การกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 3.การกระทำผิดกฎหมายอาญา มาตรา 116 มาตรา 108 และมาตรา 110 กรณีการกล่าวหาว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ เถื่อน ซึ่งการกระทำดังกล่าวของหลายกลุ่ม จึงเป็นเรื่องที่กระทำผิดต่อกฎหมายดังกล่าวข้างต้น จึงมาร้องเพื่อ บก.ปอท.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการ กทม. เพื่อให้ดำเนินการแจ้งความเอาผิดแกนนำม็อบต่างๆ กว่า 15 กลุ่มที่มีการจัดชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อวันที่ 23-24 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่จัดการชุมนุมนอก 7 พื้นที่ที่ กทม.กำหนดให้ชุมนุมได้ตามประกาศของ กทม.เมื่อ 23 มิ.ย.65 จึงเข้าข่ายฝ่าฝืนข้อกำหนด ที่ออกตามความใน ม.9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 (ฉบับที่ 47) ของ หน.ศบค. ลงวันที่ 27 ก.ค.65 และประกาศของ ผบ.ทสส. ฉบับที่ 15 ลงวันที่ 1 ส.ค.65 ที่ผ่านมา มีอัตราโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับที่ กทม.อนุญาต ยกเว้นกลุ่มของนายจตุพร พรหมพันธุ์ กลุ่มเดียวเท่านั้น นอกจากนั้นยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.116 และความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง 2535 อีกด้วย ซึ่งเป็นหน้าที่และอำนาจของผู้ว่าราชการ กทม. หากเพิกเฉยก็อาจเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า การจราจรโดยรอบทำเนียบรัฐบาล เต็มไปด้วยความคล่องตัว เนื่องจากทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้เปิดเส้นทางจราจรให้เป็นปกติ ตั้งแต่ แยกนางเลิ้ง แยกพาณิชยการ แยกสวนมิสกวัน แยกมัฆวานฯ และแยกเทวกรรม แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงวางตู้คอนเทนเนอร์สแตนด์บายไว้ พร้อมมีการวางลวดหนามบนตู้ และใช้ต้นไม้บังสายตาไว้ ที่บริเวณถนนพระราม 5 ตั้งแต่ศาลกรมหลวงชุมพร ถึงสะพานอรทัย ทั้งนี้ ทำให้การจราจรถนนพิษณุโลกถนนราชดำเนิน และถนนนครสวรรค์เป็นไปโดยปกติ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง