ยิ่งใหญ่! “อนุทิน” จัดเต็ม เปิดประชุมระดับสูงด้านสุขภาพ “เอเปก” รัฐมนตรี สธ.ทั่วโลกร่วมงานเพียบ
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2565 ที่โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมระดับรัฐมนตรีสาธารณสุขของเขตเศรษฐกิจเอเปก ภายใต้หัวข้อ “Open to partnership. Connect with the World. Balance Health and the Economy. หรือเปิดกว้างสร้างสัมพันธ์กับภาคี เชื่อมโยงกันกับโลก สู่สมดุลระหว่างสาธารณสุขและเศรษฐกิจ” ซึ่งเป็นการจัดประชุมด้านสาธารณสุขครั้งแรกของประเทศไทย (APEC Health Week) ระหว่างวันที่ 22-26 สิงหาคม 2565 โดยวันนี้เป็นวงเสวนา เพื่อถอดบทเรียนนานาชาติในการรับมือโรคระบาด ขณะที่พรุ่งนี้ จะเป็นการประชุมเพื่อแสวงหาความร่วมมือระหว่างกัน
มีผู้เข้าร่วมประชุมระดับรัฐมนตรีสาธารณสุขจากเขตเศรษฐกิจเอเปก ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ จีนไทเป ไทย สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม เข้าร่วมแบบออนไซต์ และมีจีน จีนฮ่องกง เกาหลีใต้ และรัสเซีย เข้าร่วมในรูปแบบออนไลน์ รวมถึงมีผู้นำระดับสูงของหน่วยงานระหว่างประเทศ อาทิ เลขาธิการอาเซียน ผู้อำนวยการบริหารสำนักงานเลขาธิการเอเปก และมีข้าราชการระดับสูงและภาคเอกชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
นายอนุทินกล่าวว่า ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านต้อนรับผู้บริหารระดับสูงจากนานาชาติมาร่วมประชุมในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการต่อยอดมาจากที่ไทยจะได้เป็นเจ้าภาพจัดงานเอเปก ภายใต้หัวข้อ OPEN CONNECT และ BALANCE ถึงเวลาแล้วที่ผู้คนจะต้องก้าวข้ามวิกฤตโควิด-19 และเปิดรับโอกาสใหม่ๆ เข้ามา ภายใต้การอยู่ร่วมกันกับโรคอย่างเข้าใจ ถึงเวลาที่เราจะต้องกลับไปเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างกันอีกครั้ง พร้อมกับการสร้างสมดุลในเรื่องของสุขภาพและเศรษฐกิจ ซึ่งมา ณ จุดนี้ การก้าวไปข้างหน้าต้องมองให้ครบทั้ง 3 มิติ เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม เราเคยมีบทเรียนจากช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่เราทุ่มเทให้กับเรื่องสุขภาพ จนกระทั่งเกิดความเสียหายอย่างมากต่อระบบเศรษฐกิจ ปัจจุบัน เราต้องกลับมาบาลานซ์ 2 เรื่องนี้ให้ไปด้วยกันได้
การที่ผู้นำด้านสุขภาพของหลายชาติมารวมกันตรงนี้ คือโอกาสที่ดีมาก ในการแบ่งปันข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์ เมื่อครั้งต้องต่อกรกับโควิด-19 และไม่เพียงแต่เรื่องสุขภาพ แต่เรายังต้องหารือเรื่องของเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และสังคมด้วย เพื่อให้การพัฒนานั้น ครอบคลุมในทุกมิติ เราจะทิ้งเรื่องหนึ่ง เรื่องใดไว้ข้างหลังไม่ได้ และเชื่อว่าทุกชาติ ที่มาร่วมแชร์ข้อมูล ต่างมีประสบการณ์ที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่า
“กับประเทศไทย การเกิดขึ้นของ ศบค. ช่วยสร้างประสิทธิภาพในการจัดการ และบูรณาการทุกหน่วยงานให้เป็นไปอย่างคล่องตัว ทันต่อสถานการณ์ นอกจากนั้น เรายังมีระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่เข้มแข็ง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านสาธารณสุข ไปจนถึงพลังของ อสม. และความสำเร็จในการจัดหา และให้บริการวัคซีนอย่างทั่วถึง เหล่านี้คือปัจจัยบวกของไทย ที่เราพร้อมถ่ายทอดให้นานาชาติได้รับทราบ ก้าวต่อไปของการสาธารณสุขไทย คือต้องนำทุกภาคส่วนให้เข้ามามีส่วนร่วมกับการรับมือกับโรคระบาดและโรคอุบัติใหม่ในอนาคต ซึ่งศูนย์ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข และโรคอุบัติใหม่ของอาเซียน (ACPHEED) ที่ตั้งในไทย ก็จะทำหน้าที่นี้ด้วย เพื่อให้ประชาคมอาเซียนมีความมั่นคงทางสุขภาพและเศรษฐกิจต่อไป สำหรับประเทศไทย ระบบสาธารณสุขของเราได้รับการยอมรับ และเป็นจุดแข็งในเรื่องของการดึงดูดการลงทุนจากในประเทศและต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ”.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฉายาสภาเหลี่ยม(จน)ชิน
ถึงคิวสื่อสภา ตั้งฉายา สส. "เหลี่ยม (จน) ชิน" จากการพลิกขั้วรัฐบาลเขี่ย
ตอกฝาโลงกิตติรัตน์ ‘กฤษฎีกา’ชี้ขาดคุณสมบัติ เหตุมีส่วนกำหนดนโยบาย
"กฤษฎีกา" ชี้ชัดสมัย "นายกฯ เศรษฐา" ตั้ง "กิตติรัตน์" เป็นประธานที่ปรึกษาของนายกฯ
‘เท้งเต้ง’ไม่ทน! ชงแก้ข้อบังคับ รมต.ตอบกระทู้
ทนไม่ไหว! “หัวหน้าเท้ง” หารือประธานสภาฯ ขอให้แก้ข้อบังคับการประชุม
แม้วพบอันวาร์กลางทะเล เตือนเสือกทุกเรื่องทำพัง!
ปชน.จี้ถามรัฐบาล “ทักษิณ” มีอำนาจจริงปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่
ให้กำลังใจจนท.ดูแลปีใหม่ เข้มงวด‘ความปลอดภัย’
นายกฯ ให้กำลังใจตำรวจ-กรมทางหลวง ทำงานหนักช่วงปีใหม่
กฤษฎีกาเอกฉันท์โต้งหมดสิทธิ์
กฤษฎีกามติเอกฉันท์ "กิตติรัตน์" ขาดคุณสมบัติ หมดสิทธิ์นั่ง "ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ"