ลุ้นศาลชี้ชะตาบิ๊กตู่ ไม่เครียดกางแผนรับมือ ม็อบฮึ่มหมดเวลานายกฯ

3 ป.ปิดห้องคุย “บิ๊กตู่” บอก ครม.ไม่เครียดปม 8 ปี ให้เป็นอำนาจศาล รธน. พร้อมงดจ้อสื่ออ้างเจ็บคอ ก่อนรีบเผ่นออกทำเนียบฯ ก่อนเวลา เลี่ยงเผชิญหน้าม็อบ “วิษณุ” เก็งคำวินิจฉัยออกได้ 3 ทาง ลุ้นไปต่อ ยก ม.158 วรรคสี่ ต้องอิงวรรคหนึ่ง รธน.  “ประวิตร" ปัดตอบพร้อมนั่งนายกฯ รักษาการหรือไม่ “พท.” ชวนพรรคร่วมฝ่ายค้านแต่งชุดดำไว้อาลัยประยุทธ์วันพุธนี้ “ตร.” ตรึงกำลังรอบศาล รธน. ดูแลความปลอดภัย ประชุมปมร้อน 8 ปีนายกฯ 24 ส.ค. “จตุพร” ลั่นยึดสันติ ยังไม่เคลื่อนขบวนไปทำเนียบฯ

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 23 ส.ค. เวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามปกติ ท่ามกลางการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมที่เตรียมเดินทางมาทำเนียบฯเพื่อกดดันให้นายกฯ ลาออกจากตำแหน่งปมวาระ 8 ปี โดยเช้าวันเดียวกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์เดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบฯ เวลา 07.30 น. ซึ่งเร็วกว่าทุกวัน โดยใช้เส้นทางลงทางด่วนยมราชเข้าทางสะพานมัฆวานรังสรรค์ เมื่อมาถึงนายกฯ ได้ขึ้นไปยังห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้าทันที เพื่อเตรียมเอกสารการประชุมครม. 

กระทั่งเวลา 08.53 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย ท่ามกลางความสนใจของช่างภาพสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศที่มาติดตามสังเกตการณ์จำนวนมาก ซึ่งบริเวณโถงกลาง ตึกสันติไมตรี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อนำเสนอนิทรรศการรางวัล Thailand Cybersecurity Excellence Awards 2022 (Prime Minister Awards)

                    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า สิ่งดีๆ ที่เกิดกับประเทศของเรา เพราะฉะนั้นก็ช่วยกันทำต่อไปแล้วกัน นายกฯ ก็พยายามจะทำให้ดีที่สุดในฐานะนายกรัฐมนตรีและเป็นหัวหน้ารัฐบาล ในการให้ทุกกระทรวง ทุกหน่วยงานเดินหน้าได้ในทุกมิติ เพราะปัญหามันเยอะในขณะนี้ ปัญหาภายในก็ลดลงมาสักหน่อย

                    จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินเข้าไปยังห้องรับรองสีเหลือง ตึกสันติไมตรี ซึ่งมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นั่งรออยู่ ก่อนที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะตามเข้าไปหารือด้วย โดยมีรายงานว่าทั้ง 3 คนได้พูดคุยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบัน โดยไม่มีการพูดถึงปมวาระ 8 ปีแต่อย่างใด ทั้งนี้ใช้เวลาพูดคุย 20 นาที ก่อนเข้าห้องประชุม ครม.

ก่อนหน้าจะเข้าห้องรับรองสีเหลือง พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์สั้นๆ เมื่อถูกสื่อถามว่ากังวลกรณีที่ผู้ชุมนุมจะเดินทางมาขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ที่ทำเนียบฯ หรือไม่ โดย พล.อ.ประวิตรส่ายหน้าและยิ้ม พร้อมระบุว่า ไม่กังวล

                    ถามว่า พร้อมหรือไม่ที่หากต้องขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ พล.อ.ประวิตร ซึ่งมีสีหน้ายิ้มแย้มไม่มีท่าทีเคร่งเครียดเดินเข้าห้องประชุมทันที ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว

                    ต่อมาภายหลังการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เดินเข้าไปแถลงข่าวในห้องสีฟ้าตามที่เจ้าหน้าที่แจ้งสื่อก่อนหน้านี้ โดยได้เดินขึ้นห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้าทันที ซึ่งระหว่างเดินผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามกรณีการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี มีความมั่นใจว่าจะได้ไปต่อใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถามดังกล่าวเพียงแต่ยิ้ม เมื่อถามอีกว่าทำไมนายกฯ ไม่ยอมพูดเลย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวขณะเดินก้มหน้าขึ้นบันไดตึกไทยฯ ว่า “เจ็บคอ”

                    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.25 น. นายกฯ ได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล ภายหลังมีการยกเลิกวาระงานในเวลา 15.00 น. อาร์ชบิชอปพอล ชัง อิน-นัม เอกอัครสมณทูตแห่งนครรัฐวาติกันประจำประเทศไทย จะเข้าอำลาในโอกาสพ้นจากหน้าที่ โดยนายกฯ ได้เดินทางกลับบ้านพักทันทีด้วยขบวนรักษาความปลอดภัยปกติ โดยใช้เส้นทางออกประตู 2 ทำเนียบฯ เรียบถนนคลองเปรมประชากรและคลองผดุงกรุงเกษม ผ่านสะพานมัฆวานรังสรรค์และสะพานเทวกรรมรังรักษ์ เพื่อไปยังทางด่วนยมราช ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกับที่เดินทางเข้าทำเนียบฯ ช่วงเช้า ทั้งนี้ คาดว่าเป็นการเลี่ยงเผชิญหน้า ภายหลังกลุ่มผู้ชุมนุมเตรียมเคลื่อนขบวนประชิดพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อกดดันนายกรัฐมนตรีปมวาระ 8 ปี

‘บิ๊กตู่’ไม่เครียดปม 8 ปี

                    มีรายงานว่า ก่อนการประชุม ครม. ที่พล.อ.ประยุทธ์, พล.ล.อ.ประวิตร และพล.อ.อนุพงษ์ เข้าไปห้องสีฟ้า ได้นั่งดื่มกาแฟ และระหว่างพูดคุยได้มีรัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูง ทยอยเดินเข้าไปพบในห้องหลายคน โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้พูดคุยกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลในอิริยาบถที่สบาย ไม่มีท่าทีเคร่งเครียดแต่อย่างใด พร้อมพูดกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลด้วยว่า ขอให้ช่วยกันทำงานต่อไป ส่วนเรื่องระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ให้เป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ จะว่ามาอย่างไรให้เป็นไปตามนั้น และถ้าศาลรัฐธรรมนูญให้ชี้แจง จะให้เป็นหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เป็นผู้ชี้แจง ไม่ว่าจะเป็นการชี้แจงด้วยวาจา หรือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร อย่างไรก็ตาม ในการพูดคุยครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้พูดถึงเรื่องการชุมนุมกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ แต่อย่างใด

ส่วนในที่ประชุม ครม. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้อธิบายเกี่ยวกับประเด็นการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้ที่ประชุมฟังตอนหนึ่งว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะทำให้รู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีแล้วหรือยัง เพราะศาลมี 3 แนวทาง ไม่นอกเหนือจากนี้ คือ 1.นับตั้งแต่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คือ 24 ส.ค.2557 2.นับตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 2560 ประกาศใช้ คือวันที่ 6 เม.ย.2560 และ 3.นับตั้งแต่ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ 2560 คือวันที่ 9 มิ.ย.2562 แต่ศาลอาจวินิจฉัยว่าเพียงว่า พล.อ.ประยุทธ์สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งเป็นไปตามคำร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ถามเฉพาะประเด็นนี้ โดยไม่จำเป็นต้องระบุว่าดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีเมื่อไร หากมีใครสงสัยประเด็นนี้ก็ค่อยไปยื่นให้ศาลวินิจฉัยอีกครั้งหนึ่ง

นอกจากนี้ นายวิษณุยังอธิบายอีกว่า สาระสำคัญเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่ง 8 ปี อยู่ในมาตรา 158 วรรคสี่ รัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ระบุว่า “นายกรัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปีมิได้ ไม่ว่าจะดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่...” แต่การที่จะนับเวลาตามวรรคสี่ ต้องไปดูที่มาตามวรรคหนึ่ง ทำให้รัฐมนตรีหลายคนตีความไปในทิศทางเดียวกันว่าการวินิจฉัยจะเป็นบวก

นายวิษณุให้สัมภาษณ์ว่า ในประชุม ครม. ตนได้ชี้แจงถึงการทำงานของคณะรัฐมนตรี กรณีการดำรงตำแหน่งของนายกฯ หลังประธานสภาฯ ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 22 ส.ค. และศาลรัฐธรรมนูญจะมีการประชุมตามปกติในวันที่ 24 ส.ค. ซึ่งอาจจะมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาหรือไม่รับก็ได้ แต่คิดว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่รับ ทีนี้ถ้ารับก็จะตามมาว่าจะสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวหรือไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ศาลคงไม่สั่งในวันที่ 24 ส.ค. เพราะมีกระบวนการต้องไต่สวน 2-3 วัน และหากสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ก็ต้องหยุด และ พล.อ.ประวิตรจะเป็นผู้รักษาการนายกฯ และทำงานร่วมกับ ครม.ที่เหลืออยู่ ซึ่งในนั้นก็รวม รมว.กลาโหมที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ด้วย แต่ถ้าศาลไม่ได้พูดอะไรก็ไม่ต้องหยุด ก็ปฏิบัติหน้าที่ไปตามปกติจนกว่าศาลจะวินิจฉัย ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ แต่เชื่อว่าจะเร็ว

 “ขอให้ฝ่ายการเมืองและฝ่ายข้าราชการประจำปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ไม่มีอะไรเสี่ยงอะไรผิดกฎหมายทั้งสิ้น ทุกอย่างเดินหน้าตามขั้นตอนปกติ การเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ การเสนองบประมาณ การเสนออะไร กรุณาทำไปตามปกติ ใครที่หยุดแล้วไม่ทำอะไรอาจจะผิดมาตรา 157 ด้วยซ้ำไป” รองนายกฯกล่าว

ถามว่า พล.อ.ประยุทธ์แสดงท่าทีจะแสดงสปิริตอะไรก่อนมีคำวินิจฉัยออกมาหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มีอะไร พอตนชี้แจงเสร็จ นายกฯ ก็บอกไม่ได้กังวลอะไร ขอให้ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ไปตามปกติ ไม่ต้องเป็นห่วงไม่ต้องกังวลอะไร จะเป็นอย่างไรก็ขึ้นกับศาล รวมถึงกำชับให้สภาโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ให้ผ่าน อย่าให้การประชุมล่มลง และกำชับให้ทุกพรรคกำชับ ส.ส.ให้เข้าร่วมประชุมให้ครบจะได้เสร็จ

ฝ่านค้านนัดแต่งดำ 24 ส.ค.

ซักว่ากรณีที่การดำรงตำแหน่งนายกฯของ พล.อ.ประยุทธ์ 5 ปีแรก เป็นการเลือกโดย สนช. ขณะที่ 3 ปีหลังเป็นการโหวตโดยรัฐสภา มีนัยอย่างไรหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า “มีนัย แต่ไม่ขอพูด แล้วแต่ศาลรัฐธรรมนูญ” พอถามว่าเป็นนัยทางบวกหรือลบ นายวิษณุกล่าวว่า "ไม่ทราบ แต่มีนัย ผมพูดได้แค่นี้"

ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีวาระ 8 ปีนายกฯ ประยุทธ์ว่า วันนี้ (23 ส.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ ซึ่งยังเหลือเวลาอยู่ เพราะหากดูเวลาจริงๆ จะครบกำหนดในเวลา 00.00 น. วันที่ 24 ส.ค. ซึ่งหากเข้าวันที่ 24 ส.ค. จะถือว่าเกิน 8 ปี ซึ่งก็หวังว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น

ถามว่าพรรคฝ่ายค้านจะดำเนินการอย่างไรต่อไปหาก พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่มีท่าทีใดๆ นพ.ชลน่านกล่าวว่า จริงๆ เราก็จะรอให้หมดเวลา และดูว่าท่านจะมีการแสดงออกอย่างไรหรือไม่ เพราะที่เราเสนอไป ก็แค่ขอให้ท่านยอมรับในหลักนิติธรรมเท่านั้น คือการปฏิบัติตามกฎหมายที่เขียนไว้ โดยท่านควรเป็นคนตัดสินใจเอง ไม่ควรให้ศาลรัฐธรรมนูญหรือประชาชนเป็นผู้ตัดสิน

“ฝ่ายค้านจะมีการประชุมในวันที่ 24 ส.ค. เวลา 13.30 น. แต่หากศาลมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แม้ไม่มีกฎหมายใดบัญญัติ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่ควรมาปฏิบัติราชการ” นพ.ชลน่านกล่าว

ถามว่า หากต้องมีการเสนอนายกฯ นอกบัญชี พรรค พท.จะเสนอใคร นพ.ชลน่านกล่าวว่า “ผมคิดว่าสู้แล้วเสียที่เราจะไปสนับสนุนกลไกนายกฯ คนนอกให้เกิดขึ้น เนื่องจากเราต่อต้านอยู่แล้ว และต่อให้เราจะเสนอพระอินทร์ก็ไม่ชนะ เทวดาก็อย่าส่งเลย”

นพ.ชลน่านกล่าวว่า วันที่ 24 ส.ค.พรรคร่วมฝ่ายค้านได้มีมตินัดกันสวมชุดดำเพื่อไว้อาลัยให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งจะกลายเป็นนายกฯ เถื่อน แต่สุดท้ายแล้ว พรรคร่วมฝ่ายค้านพรรคอื่นจะแต่งหรือไม่ก็เป็นสิทธิของพรรคอื่น แต่เบื้องต้นพรรค พท.จะแต่ง

ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้จัดวางมาตรการการรักษาความปลอดภัยโดยรอบสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 24 ส.ค. โดยเฝ้าทุกประตูทางเข้า-ออกศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A) เนื่องจากมีรายงานข่าวว่าทางกลุ่มแกนนำม็อบได้เตรียมจัดทำหุ่นตุ๊กตาและป้ายกันแล้ว ซึ่งจะได้นำไปผูกไว้ที่สถานที่สัญลักษณ์ต่างๆ อาทิ ศาลรัฐธรรมนูญ สถานีตำรวจ และเรือนจำ เป็นต้น รวมทั้งในส่วนของสำนักงาน ได้มีการนำแผงเหล็กมากั้นเพื่อแสดงเขตโดยรอบของสำนักงานศาล ที่ไม่อนุญาตให้เข้าในบริเวณดังกล่าว เหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมาที่มีการพิจารณาและอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ การประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 24 ส.ค. จะเริ่มเวลา 10.00 น. ซึ่งการประชุมดังกล่าวเป็นกำหนดการที่สำนักงานกำหนดไว้ล่วงหน้าเพื่อพิจารณาคดีอื่นๆ ส่วนคำร้องของ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่เข้าชื่อยื่นต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์สิ้นสุดในวันที่ 23 ส.ค.นี้หรือไม่ เบื้องต้นทางสำนักงานไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาการพิจารณาไว้ แต่หลังจากได้รับคำร้องมาแล้ว ทางหน่วยงานหรือฝ่ายคดีจะดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดของคำร้องก่อน

จากนั้นจะเสนอเข้าที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาว่าจะรับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ คาดว่าองค์คณะตุลาการจะพิจารณาโดยเร็วที่สุด เนื่องจากเป็นประเด็นที่สำคัญอยู่ในความสนใจของประชาชน อีกทั้งกรณีดังกล่าวเป็นประเด็นทางข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ไม่มีประเด็นอะไรที่ซับซ้อน อย่างไรก็ตาม คาดว่าคำร้องดังกล่าวจะมีการเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับ รวมทั้งพิจารณาคำขอให้มีคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยออกมา

จตุพรลั่นยังไม่บุกทำเนียบฯ

วันเดียวกัน ที่รัฐสภา เวลา 10.00 น. เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย ประมาณ 20 คน เข้ายื่นหนังสือต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อขอให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมีนายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ร่วมยื่นหนังสือด้วย โดยยื่นผ่านนายณัฐกานต์ ชูชนะ เลขานุการคณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับหนังสือแทน

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ตั้งแต่ช่วงเช้าได้เตรียมความพร้อมรับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ประกาศจะเดินทางมาทำเนียบรัฐบาล เพื่อกดดัน พล.อ.ประยุทธ์ ประเด็นดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี โดย บช.น.ได้ปิดถนนหลายเส้นทาง พร้อมทั้ง

นำแผงเหล็กปิดกั้นบริเวณแยกนางเลิ้ง นำตู้คอนเทนเนอร์วางขวางบนสะพานชมัยมรุเชฐและปิดแยกพาณิชยการ ขณะเดียวกันได้นำตู้คอนเทนเนอร์ปิดบริเวณประตูอรทัย ถนนลูกหลวง ริมคลองผดุงกรุงเกษม

ที่อนุสาวรีย์​ประชาธิปไตย เวลา 17.00 น. กลุ่ม "ราษฎรไล่ตู่" และกลุ่มโรนินฝั่งธน ไม่เอาเผด็จการ ร่วมด้วยอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ โดยเวลา​ 17.22 น. กลุ่มราษฎร​มูเตลูได้นำเครื่องเซ่น​ไหว้ประกอบด้วยธูปเทียน​ ดอกดาวเรือง​ และรูป ​พล.อ.ประยุทธ์ รวมถึงนิมนต์​พระ​ร่วมมาทำพิธีสาปแช่ง​ รวมถึงมีการร่ายรำบูชาเทวดาจากผู้ต้องหาคดีมาตรา​ 112 หลังจากนั้นได้มีการจุดประทัด ​เป็นอันจบพิธีสาปแช่ง​

ส่วนที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม.  คณะหลอมรวมประชาชน นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ นัดชุมนุม “หยุด 8 ปีประยุทธ์” ตั้งแต่เวลา 16.00-24.00 น. โดยเวลา 17.00 น. นายจตุพรแถลงว่า ขณะนี้ประจักษ์ชัดว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งในการดำรงตำแหน่งวันสุดท้ายตามรัฐธรรมนูญ 2560 โดยแสดงความคิดเห็นเพียงพยางค์เดียวว่า “เจ็บคอ” ขอบอกกับ พล.อ.ประยุทธ์ว่า ประชาชนเขาเจ็บใจ ถัดจากนี้ไปเรียนไปคณะหลอมรวมประชาชนไม่กดดันการทำงานศาล รธน. บอกไปยัง พล.อ.ประยุทธ์พวกเราไม่กดดัน แต่เรากดดันตัวเองและกดดันประชาชนว่าเราจะทนอยู่ในสภาพนี้อีกต่อไปหรือไม่ ฉะนั้นวันนี้เราจะปักหลักอยู่ที่ลานคนเมืองจนถึงเที่ยงคืน นับถอยหลังเคาต์ดาวน์ส่งท้ายปิดฉากประยุทธ์

"หลังจากเที่ยงคืนวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เหมือนนั่งบนเตาอั้งโล่ ความร้อนจะเกิดขึ้นทุกขณะและจะลามแผดเผาไปถึงที่สุด ดูว่าจะอยู่ได้สักกี่วัน เรายังยึดหลักแนวทางสันติวิธี และจะปฏิบัติอย่างตรงไปตรงมา สรุปว่าวันนี้จะอยู่ที่ลานคนเมืองจนถึงเที่ยงคืน ถ้าไม่มีเหตุสุดวิสัย สถานการณ์แบบนี้ มือที่สามเท่าที่สี่คิดอ่านกันเพียบ ถึงแม้จะมีคนบอกกลุ่มตัวเองแก่แล้ว แต่ทั้งหมดเต็มไปด้วยประสบการณ์ มีพวกพ้องบรรดาการข่าวเพียบ รู้ว่าเขาคิดอ่านกำลังทำอะไร ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นศาลวัดใจให้ พล.อ.ประยุทธ์ในระยะเพียงไม่กี่ชั่วโมงนี้ เพราะหลังเที่ยงคืนคือวิกฤตชาติ" นายจตุพรกล่าว

ส่วนนายนิติธรกล่าวว่า ถ้าศาลรับคำร้องไปแล้ว คิดว่าวันที่ 24 ส.ค. ศาล รธน.น่าจะรับคำร้อง ขอฝากไปยังศาล รธน.หากพิจารณาคำร้องแล้วและรับคำร้องก็ควรพิจารณาให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เพราะวันนี้จริงๆ แล้วเรื่องนี้ไม่มีข้อถกเถียงใดๆทั้งสิ้น แต่เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งอยากอยู่ในอำนาจ ผมต้องการให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์การปกครองบ้านเมือง ถ้าไม่ให้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ เท่ากับว่าเอาข้อยกเว้นมาใช้บังคับเป็นหลักการ

“เรื่องนี้เป็นเรื่องง่าย แค่ทำตามหลักเกณฑ์การปกครองบ้านเมือง ทำง่ายๆ แค่นี้ประเทศไทยก็จะเริ่มนับหนึ่ง ปัดกวาดบ้านเมือง และเริ่มกติกากันใหม่ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ต้องมีการแก้ไข หวังว่าการชุมนุมวันนี้ไม่ต้องชุมนุมกันนานเพื่อไปแก้ปัญหาอื่นของประเทศ สร้างปัญหามา 8 ปี วันนี้เป็นการที่เหมาะสมในการตัดสินใจที่สุด” แกนนำคณะหลอมรวมประชาชนระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อวยทักษิณชนะนายกอบจ.

"ภูมิธรรม" โว พท.ชนะนายก อบจ.อุดรฯ เป็นเรื่องธรรมดา เหตุ ปชช.ยังรัก “ทักษิณ” ชอบผลงานที่ทำมา