ผู้สูงอายุเฮ! ครม.คืนเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุ 28,345 ราย วงเงิน 245 ล้านบาท หลังระเบียบ กผส. และ มท.ขัดรัฐธรรมนูญ "กบน." ยังตรึงดีเซลลิตรละ 35 บาท สวนทางฐานะกองทุนน้ำมันติดลบ 1.18 แสนล้านบาท "สุพัฒนพงษ์" เลื่อนมาตรการอุ้มค่าไฟเข้าครม. อ้างรอมหาดไทยชงเรื่อง
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติในหลักการการคืนเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุที่ได้นำเงินมาคืนทางราชการแล้ว จำนวน 28,345 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 245,243,189.70 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2565) พร้อมมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และกระทรวงการคลัง หาแนวทางการจ่ายเงินคืนให้แก่ผู้สูงอายุรับเบี้ยยังชีพซ้ำซ้อนกับสวัสดิการอื่น และได้นำเงินมาคืนให้ทางราชการ รวมทั้งแจ้งให้มีการถอนฟ้องหรือระงับการบังคับคดีในกรณีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้มีการดำเนินคดีเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 1 เดือน นับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (23 สิงหาคม 2565)
ทั้งนี้ คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) ได้มีคำวินิจฉัยว่า เงื่อนไขที่กำหนดว่าผู้สูงอายุที่จะได้รับเบี้ยยังชีพต้องไม่เป็นผู้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์จากหน่วยงานของรัฐ เป็นเงื่อนไขที่ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ.2546 และการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุที่ไม่สอดคล้องกับเงื่อนไขดังกล่าว จึงเป็นการจ่ายเงินให้โดยชอบ ในกรณีที่ผู้สูงอายุนำเงินมาคืนราชการ หน่วยงานที่รับเงินไว้มีหน้าที่ต้องจ่ายเงินคืนให้ผู้สูงอายุ
ดังนั้น ระเบียบของคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) และระเบียบของกระทรวงมหาดไทยที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามระเบียบของ กผส.นั้น ที่กำหนดเงื่อนไขว่าต้องไม่เป็นผู้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ ถือว่าไม่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 48 วรรค 2
ด้านนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน กล่าวก่อนการประชุม ครม. ถึงมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าเพื่อบรรเทาผลกระทบให้ประชาชน ที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติเห็นชอบไปเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ว่า ยังไม่ได้เสนอให้เข้าที่ประชุม ครม.พิจารณาเห็นชอบในครั้งนี้ เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ต้องเสนอเรื่องผ่านกระทรวงมหาดไทย โดยจะเสนอเข้า ครม.ภายในสัปดาห์หน้า เนื่องจากค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) จะเริ่มอัตราใหม่ในเดือน ก.ย. ส่วนมาตรการบรรเทาผลกระทบด้านราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ซึ่งเป็นส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มแก่ผู้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คาดว่าจะไม่มีปัญหา เพราะมาตรการจะสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.
วันเดียวกัน นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้พิจารณาทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ โดยมีมติให้คงราคาน้ำดีเซลไว้ที่ลิตรละ 34.94 บาท เพื่อช่วยประคองผลกระทบด้านค่าครองชีพของประชาชน ถึงแม้ว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดีเซลในตลาดโลกยังมีความผันผวน
ส่วนประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน วันที่ 21 สิงหาคม 2565 ยังติดลบ 118,010 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 76,741 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 41,269 ล้านบาท.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทอน-เท้งไม่กล้าแตะแม้ว ร้องกกต.ซื้อเสียง52เรื่อง
“อิทธิพร” ยืนยันความพร้อมเลือกตั้งสมาชิก-นายก อบจ.
งบปี69ยึด3เป้า ย้ำขรก.ใช้คุ้มค่า คัด‘ปธ.ธปท.’อืด
นายกฯ มอบนโยบายจัดทำงบปี 69 วาง 3 เป้าหมาย ไม่ลดสัดส่วนนักลงทุน-ไม่เพิ่มงบ-ไม่เพิ่มอัตรากำลัง
สภาไฟเขียว‘สุราชุมชน’ ตีปี๊บซอฟต์พาวเวอร์ไทย
มติสภาเอกฉันท์ 415 เสียง ไฟเขียว "กม.สุราชุมชน" เปิดโอกาสเกษตรกรรายย่อยผลิต-มีเครื่องกลั่นสุรา
อิ๊งค์หวิดโดนตุ๋น/3ทุนใหญ่งาบ
อึ้ง! "นายกฯ อิ๊งค์" หวิดโดนคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงิน
ลากทักษิณขึ้นเขียง แพทยสภาเปิดวอร์รูมตรวจเวชระเบียนชั้น14เร่งจบมี.ค.
แพทยสภาเข็นนักโทษเทวดาขึ้นเขียง “หมออมร” เปิดวอร์รูมนัดแรกตรวจเอกสารลับ
27ม.ค.โอนเงินหมื่นเฟส2 คลังยันคุยธปท.ดันศก.โต
นายกฯ สรุปทิศทางทำงบปี 69 ย้ำต้องตอบโจทย์พัฒนาประเทศ