โยกใหญ่‘มท.-ผู้พิพากษา’ ต่ออายุกุลิศปลัดพลังงาน

รัฐบาลจัดทัพข้าราชการประจำ ครม. เคาะตามที่มหาดไทยเสนอ  โยกใหญ่ 37 เก้าอี้ “แมนรัตน์” ผู้ว่าฯ สระบุรีคว้าอธิบดีกรมการปกครอง “ชยาวุธ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ผู้ว่าฯ สมุทรสงครามขึ้นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น พร้อมสับโยกเก้าอี้พ่อเมืองใหญ่ “กุลิศ” นั่งแท่นปลัดพลังงานอีก 1 สมัย

เมื่อวันอังคารที่ 23 สิงหาคม น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอ แต่งตั้งข้าราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทยให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 37 ราย ประกอบด้วย 1.นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นรองปลัด มท. 2.นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นรองปลัด มท. 3.นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นรองปลัด มท. 4.นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าฯ สระบุรี เป็นอธิบดีกรมการปกครอง 5.นายอรรชิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัด มท. เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน 6.นายชยาวุธ จันทร รองปลัด มท. เป็นอธิบดีกรมที่ดิน 7.นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี เป็นอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง 8.นายขจร ศรีชวโนทัย ผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

9.ร.ท.ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ตรวจราชการ มท. เป็นผู้ว่าฯ กาญจนบุรี 10.นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าฯ นครพนม เป็นผู้ว่าฯ กำแพงเพชร 11.นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าฯ ชัยภูมิ เป็นผู้ว่าฯ ขอนแก่น 12.นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าฯ หนองคาย เป็นผู้ว่าฯ จันทบุรี 13.นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ อุทัยธานี เป็นผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา 14.นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ตรวจราชการ มท. เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี 15.นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ตรวจราชการ มท. เป็นผู้ว่าฯ ชัยภูมิ 16.นายวิสาห์ พูลศีริรัตน์ ผู้ตรวจราชการ มท. เป็นผู้ว่าฯ ชุมพร 17.นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัด มท. เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ 18.นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าฯ อุดรธานี เป็นผู้ว่าฯ นครราชสีมา 19.นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ตรวจราชการ มท. เป็นผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช 20.นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าฯ จันทบุรี เป็นผู้ว่าฯ นนทบุรี 21.นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าฯ ลพบุรี เป็นผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา 22.ว่าที่ ร.ต.ณรงค์ โรจนโสทร ผู้ตรวจราชการ มท. เป็นผู้ว่าฯ พะเยา

23.นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าฯ สตูล เป็นผู้ว่าฯ พังงา 24.นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด เป็นผู้ว่าฯ พิษณุโลก 25.นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ เป็นผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด 26.นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ตรวจราชการ มท. เป็นผู้ว่าฯ ระยอง 27.นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าฯ นครนายก เป็นผู้ว่าฯ ลพบุรี 28.นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ตรวจราชการ มท. เป็นผู้ว่าฯ ลำปาง 29.นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ตรวจราชการ มท. เป็นผู้ว่าฯ ลำพูน  30.นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าฯ พังงา เป็นผู้ว่าฯ สตูล 31.นายผล ดำธรรม ผู้ว่าฯ อุตรดิตถ์ เป็นผู้ว่าฯ สระบุรี 32.นายสุพจน์ ยคสิงห์คำ ผู้ตรวจราชการ มท. เป็นผู้ว่าฯ สิงห์บุรี 33.นายพิจิตร บุญทัน ผู้ตรวจราชการ มท. เป็นผู้ว่าฯ สุรินทร์ 34.นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าฯ ชัยนาท เป็นผู้ว่าฯ อ่างทอง 35.นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ เป็นผู้ว่าฯ อุดรธานี 36.นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าฯ แพร่ เป็นผู้ว่าฯ อุตรดิตถ์ และ 37.นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าฯ ยโสธร เป็นผู้ว่าฯ อุบลราชธานี ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2565 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง

นอกจากนั้น ครม.ยังมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ให้นายกุลิศ สมบัติศิริ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งปลัดกระทรวงพลังงาน ต่อไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2565 ถึงวันที่ 30 ก.ย.2566 รวมทั้งมีมติอนุมัติตามที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติเสนอแต่งตั้งนายวีรศักดิ์ ทิพย์มณเฑียร ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาระบบงานการข่าว (นักการข่าวทรงคุณวุฒิ) กลุ่มงานที่ปรึกษา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2565 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง

ครม.ยังมีมติอนุมัติตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญสังกัดสำนักงาน ก.พ. สำนักนายกฯ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง 2 ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง และเพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่เกษียณอายุ คือ 1.ร.ต.ท.หญิงสุทธิมา พิพัฒน์พิบูลย์ ที่ปรึกษาระบบราชการ (นักทรัพยากรบุคคลทรงคุณวุฒิ) ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ ก.พ. ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป และ 2.นายสุวัฒน์ เอื้อเฟื้อ ที่ปรึกษาระบบราชการ (นักทรัพยากรบุคคลทรงคุณวุฒิ) ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ ก.พ. โดย ครม.ยังอนุมัติตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอแต่งตั้ง น.ส.วิริยา เนตรน้อย ที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ (นักพัฒนาระบบราชการทรงคุณวุฒิ) ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ ก.พ.ร. ทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2565 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง

ครม.ยังมีมติอนุมัติตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ (สศช.) แต่งตั้ง น.ส.วรวรรณ พลิคามิน ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ สศช. เพื่อแทนผู้เกษียณอายุราชการ นอกจากนั้น ครม.ยังมีมติอนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เสนอแต่งตั้งนายวิรัตน์ ธัชศฤงคารสกุล ที่ปรึกษาด้านการลงทุน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการบีโอไอ เพื่อทดแทนตำแหน่งที่จะว่าง ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2565 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง

ทั้งนี้ ครม.มีมติเห็นชอบตามที่ มท.เสนอการแต่งตั้งนายวิบูลย์ วงสกุล ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) โดยได้รับค่าตอบแทนคงที่ในปีแรกอัตราเดือนละ 250,000 บาท และให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไป แต่ไม่ก่อนวันที่ ครม.มีมติ ส่วนสิทธิประโยชน์อื่นให้เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบ  และเห็นชอบตามที่ มท.เสนอการต่อสัญญาจ้างนายชีระ วงศบูรณะ ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย (อจน.) โดยให้ได้รับค่าตอบแทนคงที่ในปีแรกอัตราเดือนละ 274,000 บาท ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.2566 เป็นต้นไป ส่วนสิทธิประโยชน์อื่นที่ผู้รับจ้างจะได้รับให้เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังเห็นชอบแล้ว

มีรายงานว่า เมื่อ 22 ส.ค. ที่ศาลฎีกา น.ส.ปิยกุล บุญเพิ่ม ประธานศาลฎีกา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.) ครั้งที่ 20/2565 โดยมีวาระเห็นชอบบัญชีเเต่งตั้งโยกย้ายผู้พิพากษาวาระ 1 ต.ค.2565 จำนวน 3 บัญชีรายชื่อ ประกอบด้วย 1.บัญชีผู้พิพากษาวุโส (เพิ่มเติม) 5 รายชื่อ 2.บัญชี 4 ชั้น 4 สับเปลี่ยนตำเเหน่ง 130 รายชื่อ 3.บัญชี 5 ชั้น 3 สับเปลี่ยนตำเเหน่ง 3 รายชื่อ โดยบัญชี 4 ชั้น 4 สับเปลี่ยนตำเเหน่งมีรายชื่อที่น่าสนใจ ดังนี้ 1.นายนาวี สกุลวงศ์ธนา ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ (เยาวชน) ไปเป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ (คดีเเรงงาน) 2.นายชนาธิป เหมือนพะวงศ์ เลขานุการศาลอุทธรณ์ ไปเป็นรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา คดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง 3.นายเรืองสิทธิ์ ตันกาญจนานุรักษ์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาเเละการค้าระหว่างประเทศกลางไปเป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 4.นายธีรทัย เจริญวงศ์ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกา ไปเป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ 5.นายมุขเมธิน กลั่นนุรักษ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะแผนกคดีค้ามนุษย์ อดีตมือทำคดีปิดเว็บไปเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา โดยจะมีการประชุม ก.ต.เพื่อพิจารณาเเต่งตั้งโยกย้ายบัญชีรายชื่อที่ยังค้างอยู่อีกครั้งในวันที่ 29 ส.ค.2565.