โจรใต้ป่วนหนัก ระเบิดเผาร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมัน 17 จุด ทั่ว 3 จังหวัดชายแดนใต้ หวังทำลายเศรษฐกิจในพื้นที่ รอง ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าเผยที่ผ่านมากลุ่มคนร้ายสะสมอาวุธและวัตถุระเบิดเพื่อเตรียมจะก่อเหตุตั้งแต่ในช่วงเดือนรอมฎอน นายกฯประณาม กำชับล่าตัวคนร้าย ผบ.ทบ.บ่ยั่น เมื่อก่อนมีการก่อเหตุเยอะกว่านี้อีก เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน กระจายกำลังก่อเหตุในช่วงเวลา 00.20 ถึง 00.40 น. วันที่ 17 สิงหาคม วางแผนนัดแนะกระจายกันก่อเหตุร้ายขึ้นในพื้นที่ 6 อำเภอ ประกอบด้วย บาเจาะ, ศรีสาคร, สุไหงโก-ลก, เจาะไอร้อง, รือเสาะ และจะแนะ โดยขว้างและวางระเบิดภายในชั้นวางของในร้านสะดวกซื้อ เซเว่น-อีเลฟเว่น มินิบิ๊กซี และปั๊มจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงจนได้รับความเสียหายรวมทั้งสิ้น 17 จุด
เช่นที่จังหวัดปัตตานี ตำรวจ สภ.หนองจิกได้รับแจ้งเหตุระเบิดและมีเพลิงไหม้ เหตุเกิดภายในปั๊มน้ำมันบางจาก บนถนนสายปัตตานี-หาดใหญ่ แยกดอนยาง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จึงได้ประสานไปยังเทศบาลตำบลบ่อทองและอำเภอหนองจิกเร่งเข้าดับเพลิง และเหตุเพลิงไหม้ร้านมินิบิ๊กซีใน อ.ทุ่งยางแดง
จังหวัดยะลา ที่ร้าน 7-11 ปตท.ยะหา เขตเทศบาลเมืองยะหา อ.ยะหา แรงระเบิดทำให้เกิดเพลิงไหม้ร้านมินิบิ๊กซี สาขารามัน เขตเทศบาลเมืองรามัน ต.กายูบอเกาะ อ.รามัน, ร้าน 7-11 ในพื้นที่ บ.บันนังสตา ม.2 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา แรงระเบิดทำให้เกิดเพลิงได้รับความเสียหายเล็กน้อย โดยรถดับเพลิงของ อบต.บันนังสตาดับเพลิงไว้ได้ และร้าน 7-11 ในพื้นที่ บ.เนียง ม.4 ต.เปาะเส้ง อ.เมืองยะลา แรงระเบิดทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้รับความเสียหาย
จังหวัดนราธิวาส ที่ อ.เจาะไอร้อง เกิดเพลิงไหม้ร้าน 7-11 และร้านมินิบิ๊กซี ซึ่งอยู่ติดกันในพื้นที่ บ.เจาะไอร้อง ม.1 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ได้รับความเสียหาย, อ.บาเจาะ ร้าน 7-11 ภายในปั๊ม ปตท.บาเจาะ ริมถนนเพชรเกษม, อ.ศรีสาคร ร้าน 7-11 ภายในปั๊ม ปตท.ศรีสาคร เทศบาลตำบลศรีสาคร และ อ.สุไหงโก-ลก ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ภายในปั๊ม ปตท.ปาเสมัส
เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 7 ราย ร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รอง ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า การก่อเหตุครั้งนี้ ที่ผ่านมากลุ่มคนร้ายได้พยายามสะสมอาวุธและวัตถุระเบิดเพื่อเตรียมจะก่อเหตุตั้งแต่ในช่วงเดือนรอมฎอนที่ผ่านมา ได้มีการโจมตีสถานีตำรวจน้ำที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ลอบวางระเบิดป้อมจุดตรวจปาลัส อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ล่าสุดครั้งนี้ที่ปั๊มน้ำมันบางจาก อ.หนองจิก ที่คนร้ายได้เข้าโจมตีเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็น 1 ใน 17 จุดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยภาพรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลาหลังเที่ยงคืน คนร้ายได้ก่อเหตุพร้อมกันทั้ง 3 จังหวัด ปัตตานี 2 จุด, ยะลา 6 จุด และนราธิวาส 9 จุด โดยทั้ง 17 จุดเป็นร้านสะดวกซื้อเซเว่นฯ 11 จุด, ร้านบิ๊กซีมินิมาร์ท 4 จุด, เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ 1 จุด และปั๊มน้ำมัน 1 จุด ซึ่งปั๊มน้ำมันน่าจะได้รับความเสียหายมากที่สุด ซึ่งทั้ง 17 จุดคนร้ายได้แต่งกายอำพรางคล้ายผู้หญิง ใช้รถ จยย.เป็นพาหนะ ก่อเหตุโดยการใช้ระเบิดเพลิงปาเข้าไปภายในร้านสะดวกซื้อ บางส่วนก็ได้นำระเบิดเข้าไปวางในร้าน
ขณะที่ปั๊มน้ำมันบางจาก คนร้ายได้ลอบวางระเบิดที่รถบรรทุกน้ำมันที่จอดไว้ใกล้กับหัวจ่ายน้ำมัน ทำให้เกิดเหตุระเบิดจนสร้างความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งทาง แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้หน่วยเร่งดำเนินการตามขั้นตอน โดยเฉพาะการนิรภัยพื้นที่ให้มีความปลอดภัย ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบหาวัตถุพยานเพื่อที่จะดำเนินการต่อกลุ่มคนร้าย
จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ยังไม่สามารถที่จะสรุปปัจจัยที่เป็นมูลเหตุจูงใจว่าก่อเหตุ แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพูดคุยสันติสุข ประเด็นทางการเมือง หรือความขัดแย้งอื่นๆ ซึ่งต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกในรอบด้าน สิ่งที่เป็นเรื่องเร่งด่วนขณะนี้คือการรวบรวมวัตถุพยานเพื่อดำเนินการกับคนร้าย และเร่งสำรวจความเสียหายทุกพื้นที่เพื่อทำการช่วยเหลือเยียวยา ถึงแม้ว่าคนร้ายจะพยายามก่อเหตุสร้างสถานการณ์ก็ตาม ทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังยึดมั่นในแนวทางสันติในการแก้ปัญหา และการบังคับใช้กฎหมาย สำคัญคือเรื่องปรับแผนในการใช้กำลังจรยุทธ์เข้าพื้นที่ล่อแหลมและเสี่ยงภัยให้มากขึ้น และการพูดคุยเพื่อสันติสุขก็ยังเดินทางต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ได้ตรวจพบภาพข่าวการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงและการเตรียมวัตถุระเบิด รวมทั้งคนร้ายได้ก่อเหตุสร้างสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังเสร็จสิ้นเดือนรอมฎอน พบว่าคนร้ายได้ก่อเหตุและพยายามสร้างสถานการณ์หลายเหตุการณ์ จนนำไปสู่การติดตามบังคับใช้กฎหมายเป็นเหตุให้คนร้ายเสียชีวิตหลาย นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมตัวกลุ่มคนร้ายและตรวจยึดวัตถุพยานได้เป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 1-2 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา นอกจากจะยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเข้าพรรษาสันติสุขตามข้อเสนอของคณะพูดคุยฝ่ายไทยแล้ว พบว่าคนร้ายมุ่งสร้างสถานการณ์ด้วยการลอบยิงและลอบวางระเบิดต่อเป้าหมายอ่อนแอเชิงสัญลักษณ์ ระบบสาธารณูปโภคมากขึ้น และล่าสุดได้มุ่งโจมตีต่อเป้าหมายระบบเศรษฐกิจ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประณามผู้ก่อเหตุ กำชับเจ้าหน้าที่ให้เร่งสอบสวนหาสาเหตุ และแรงจูงใจการก่อเหตุ พร้อมให้ขยายผลไปยังผู้ร่วมก่อเหตุ และยังฝากความห่วงใยไปยังเจ้าหน้าที่และทุกภาคส่วน ย้ำให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง ที่สำคัญต้องดูแลรักษาความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ เพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น
พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. (มค.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานการก่อเหตุของกลุ่มคนร้ายก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้จากหน่วยงานในพื้นที่แล้ว สาเหตุในเบื้องต้นการก่อเหตุของกลุ่มคนร้ายในครั้งนี้ เพื่อต้องการแสดงศักยภาพตอบโต้หน่วยงานด้านความมั่นคง ได้บูรณาการปฏิบัติการเชิงรุกเข้าตรวจค้นจับกุมตัวบุคคลตามหมายจับ รวมถึงการที่วิสามัญฯ ตัวแกนนำรายสำคัญ รวมถึงถูกกดดันอย่างต่อเนื่อง
ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่า เราเพิ่มการดูแลอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ส่วนที่มองว่าการก่อเหตุเพื่อกดดันรัฐบาลหลังมีการพูดคุยเพื่อสันติภาพเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมานั้น ตนมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเดิมๆ อยู่แล้ว เป็นเหตุเดิมๆ เพียงแต่สถานการณ์ส่วนใหญ่ดีขึ้นเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่าเกิดเหตุช่วงปลายรัฐบาลเพื่อบั่นทอนเสถียรภาพรัฐบาลนั้น พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า ก็เกิดทุกช่วงอยู่แล้ว เพียงแต่อยู่ที่ว่าจังหวะการก่อเหตุ ถามย้ำว่าเกิดเหตุกว่า 17 จุด ผบ.ทบ.ตอบกลับว่า อ๋อ 17 จุด ซึ่งเมื่อก่อนมีการก่อเหตุเยอะกว่านี้อีก
ถามว่ามีจุดอ่อนอะไรที่ทำให้เกิดการก่อเหตุได้ ผบ.ทบ.ยืนยันว่า คงไม่มี เพราะคนที่ตั้งใจจะก่อเหตุก็ต้องหาจังหวะและช่วงเวลาอยู่แล้ว ซึ่งทุกฝ่ายก็ทำดีอยู่แล้วในการช่วยกันป้องกัน เหตุการณ์ต่างๆ ถึงดีขึ้นเรื่อยๆ เหตุการณ์นี้ก็ไม่มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บเล็กน้อยคนเดียว
อย่างไรก็ตาม ผบ.ทบ.ปฏิเสธที่จะตอบถึงแนวทางการพูดคุยสันติภาพฯ โดยระบุว่า ไม่ทราบ เพราะตนไม่ได้อยู่ในคณะพูดคุยและกระบวนการพูดคุย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตั้งกก.สอบผกก.บางซื่อ ทนายปาเกียวเล็งทิ้งตั้ม
“ดีเอสไอ” เตรียมสรุปสำนวนคดี 18 บอสดิไอคอนเสนออัยการคดีพิเศษภายใน 20 ธ.ค.นี้
นิกรหักเพื่อไทย เตือนส่อผิดกม. ให้กมธ.ตีความ
“นิกร” หักข้อเสนอ “ชูศักดิ์” เลยช่วงเวลาแปลงร่างประชามติเป็นกฎหมายการเงินแล้ว
‘สนธิ’ลั่นการเมืองใกล้สุกงอม!
“อุ๊งอิ๊ง” เมินปม กกต.สอบครอบงำต่อ เด็ก พท.ยันเป็นการดำเนินการตามปกติ
จ่อส่งคดีหมอบุญให้DSI
ตร.สอบปากคำอดีตภรรยา-ลูกสาว “หมอบุญ” เพิ่มเติม
ทักษิณรอดคลุมปี๊บ! ส้มเหลวปักธงอุดรธานี ‘คนคอน’ตบหน้า‘ปชป.’
เลือกตั้ง อบจ. 3 จังหวัด “เพชรบุรี-อุดรธานี-นครศรีธรรมราช” ราบรื่น
‘ยิ่งลักษณ์’ กลับคุก ‘บิ๊กเสื้อแดง’ รู้มา! ว่าไปตามราชทัณฑ์ไม่ใช้สิทธิพิเศษ
“เลขาฯ แสวง” ยันเดินหน้าคดี “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างการปกครองต่อ เพราะใช้กฎหมายคนละฉบับกับศาล รธน. "จตุพร" ลั่นยังไม่จบ! ต้องดูสถานการณ์เป็นตอนๆ ไป