สภาไม่รับหลักการ "ร่าง พ.ร.บ.ฉุกเฉิน" ฉบับก้าวไกล "รังสิมันต์" ชงปลดอาวุธ "บิ๊กตู่" ใช้อ้างจับคนเห็นต่าง "อนุชา" ยัน "พ.ร.ก.ฉุกเฉิน" เหมาะสมเป็นธรรมอยู่แล้ว ศาลอาญาใต้ให้ประกัน "ใบปอ-บุ้ง" ทำโพลขบวนเสด็จฯ "ณฐพร” ฟ้อง กกต.ทั้งคณะปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ไม่ยื่นยุบพรรคก้าวไกล ปมหนุนม็อบล้มล้างปกครอง
ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม เวลา 14.30 น. มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ..... ที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กับคณะ เป็นผู้เสนอ วาระแรก ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอรับไปพิจารณาก่อนรับหลักการ และได้ส่งคืนสภาฯ ให้พิจารณา โดยการเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นไปเพื่อแทนที่พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
โดยนายรังสิมันต์อภิปรายว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ที่บังคับใช้อยู่ ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน และให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่บังคับใช้ข้อกำหนดที่ออกมาโดยได้รับการละเว้นการตรวจสอบถ่วงดุล ส่งผลให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) สามารถประกาศขยายระยะเวลาออกไปโดยไม่ถูกคัดค้าน ขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นมาก ดังนั้น การยังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไป จึงคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากรัฐบาลเสพติดอำนาจ จึงยังคงกฎหมายพิเศษฉบับนี้เอาไว้เป็นเครื่องมือเพื่อปกป้องอำนาจของตัวเอง และทำให้สถิติการตั้งข้อหากับประชาชนที่เห็นต่างทางการเมือง ไม่ต่ำกว่า 1,400 คน แต่การอ้าง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ปูพรมหว่านแหได้กลายเป็นประเพณีปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ไปเรียบร้อยแล้ว
"คนมาชุมนุมใส่หน้ากากป้องกันโรคมิดชิดแค่ไหน ก็ประกาศออกลำโพงขยายเสียงไว้ก่อนว่าฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้วเตรียมหยิบปืนกระสุนยางรอยิงต่อเลย นี่จึงเป็นความอันตรายของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฉบับปัจจุบัน ที่ให้อำนาจนายกฯ หลายอย่าง โดยที่ไม่ต้องตรวจสอบอะไรเลย และยกเว้นความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ที่เกิดความมั่นใจผิดๆ แล้วใช้อำนาจผิดๆ ไปลงไม้ลงมือกับประชาชน เราจึงมีความเห็นว่าการใช้กฎหมายดังกล่าวเป็นการใช้โดยผิดวัตถุประสงค์ และรู้ว่าการกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์เป็นการใช้อำนาจอย่างไม่ถูกต้อง ถึงเวลาแล้วที่จำเป็นต้องเพิ่มอำนาจให้กับสภาฯ เพื่อใช้ควบคุมการใช้อำนาจที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด สิ่งที่ผมเสนอผ่านร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ คือการทวงคืนการตรวจสอบถ่วงดุลกลับคืนมา" นายรังสิมันต์ระบุ
ด้าน นางอมรรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็น 1 ใน 3 กฎหมายที่ค้ำยันระบอบประยุทธ์ อีก 2 กฎหมายคือ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 มาตรา 44 ทั้งนี้ รัฐบาลได้อาศัย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นครั้งที่ 19 ที่จะไปสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.65 ซึ่งแน่ใจว่าจะต่อไปเรื่อยๆ จนหมดอายุรัฐบาลนี้
ขณะที่ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า กลไกตามร่าง พ.ร.บ.นี้มีผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพของสถานการณ์ฉุกเฉิน และเห็นว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินฉบับปัจจุบันมีความเหมาะสม และเป็นธรรมอยู่แล้ว รวมทั้งยังมีมาตรการทางกฎหมายที่เบากว่ากฎหมายต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีข้อห่วงกังวลต่อการแก้ไข เพราะสถานการณ์ฉุกเฉินต้องมีความรวดเร็วในการทำให้สถานการณ์คลี่คลายเพื่อไม่ให้กระทบต่อการรักษาประโยชน์ของประเทศ ฉะนั้น จึงเห็นว่ายังไม่ควรรับหลักการร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว และเห็นควรบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฉบับนี้ต่อไป
จากนั้นที่ประชุมลงมติไม่รับหลักการด้วยคะแนน 169 ต่อ 69 เสียง และงดออกเสียง 3 เสียง ซึ่งกว่าจะลงมติได้ ใช้เวลารอสมาชิกแสดงตนเป็นองค์ประชุมกว่า 20 นาที จนในที่สุดครบองค์ประชุม 240 เสียง ซึ่งเกินครึ่งมาเพียง 1 เสียง จากนั้นนายสุชาติได้สั่งปิดการประชุมในเวลา 16.41 น.
ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลอ่านคำสั่งในคำร้องขอปล่อยชั่วคราว น.ส.ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ หรือใบปอ และ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือผักบุ้ง จำเลยที่ 2-3 คดีหมายเลขดำ อ.765/2565 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ กับพวก 8 คน เป็นจำเลยในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และมาตรา 116 ในคดีทำโพลขบวนเสด็จฯ ที่ห้างสยามพารากอน วันที่ 8 ก.พ.65 โดยก่อนหน้านี้จำเลยที่ 2-3 ถูกเพิกถอนการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากผิดเงื่อนไข เเละมีการยื่นประกันหลายครั้ง พร้อมทั้งยื่นอุทธรณ์ เเต่ที่ผ่านมาศาลยกคำร้อง
โดยศาลพิจาณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลย ตีราคาประกันคนละ 500,000 บาท ยึดหลักประกันทำสัญญาประกัน ให้ตรวจคืนหลักประกันเมื่อสัญญาประกันสิ้นสุด ให้ตั้ง น.ส.ชญาภัส เสน่ห์สังคม เป็นผู้กำกับดูแลสอดส่องให้จำเลยปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนดในระหว่างปล่อยตัวชั่วคราว และกำหนดเงื่อนไขตามที่จำเลยเสนอมาตามคำร้อง อาทิ ห้ามออกนอกเคหสถานในช่วงเวลา 19.00-06.00 น. ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร
นายกฤษฎางค์ นุตจรัส กล่าวว่า น.ส.ณัฐนิช ที่มีคดี 112 ที่ศาลอาญาอีกคดี ล่าสุดศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวเเล้ว เท่ากับวันนี้ใบปอได้กลับบ้าน ส่วน น.ส.เนติพรยังมีหมายขังที่ศาลจังหวัดนนทบุรีในคดีสาดพ่นสี ซึ่งทนายความได้ยื่นประกันไปเเล้ว ขณะนี้รอลุ้นคำสั่งศาล
ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้เดินทางมาเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียน นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. กับกรรมการ กกต. ทั้งหมดรวม 8 คน เป็นจำเลยฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เนื่องจากปรากฏหลักฐานการรายงานของตำรวจสันติบาลว่าพรรคก้าวไกลสนับสนุนการชุมนุมที่มีลักษณะล้มล้างการปกครอง น่าจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง มาตรา 45 และ 92 จึงเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต.ที่จะต้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยุบพรรค แต่ไม่ทำหน้าที่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ทอน’ดีดปาก‘แม้ว’ ซัดพูดคลุมเครือไม่มีปม112ตั้งรบ./พิธารับคำท้าพ่อนายกฯ
“ธนาธร” ซัด “ทักษิณ” พูดคลุมเครือ บอกปมตั้งรัฐบาลไม่ได้ไม่เกี่ยวกับ 112
นายกฯชี้FTAเปรูจบปี2568
นายกฯ อิ๊งค์ถก "ประธานาธิบดีเปรู" ผลักดันการเจรจา FTA ให้เสร็จภายในปี 68
‘บิ๊กอ้วน’ยืนยัน ผุดJTCเมื่อไหร่ ถกผลประโยชน์
“ภูมิธรรม” บอกพร้อมเรียกถกแบ่งผลประโยชน์พื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชาทันที
‘สคบ.’สอบอืด คลิปเทวดายื้อ จ่อขยายเวลา!
คกก.สอบคลิปเสียงเทวดา สคบ.จ่อขอขยายเวลาเพิ่ม รอง ผบช.ก.เตรียมบุกเรือนจำ
แจกค่าแรง400รับปีใหม่ ‘อายุ50’ลุ้นได้‘เงินหมื่น’
ซานต้าอิ๊งค์มาแล้ว เตรียมดันค่าแรง 400 บาทเป็นของขวัญปีใหม่
พท.มั่นใจกระแสกวาด200สส.
"พท." ดี๊ด๊า! "ทักษิณ" ปราศรัยอุดรธานีปลุกคะแนนนิยม เชื่อชาวอีสานยังรักเพื่อไทย