แนะอยู่ในบ้านเลี่ยงนํ้าท่วม ‘ชัชชาติ’รับหนักสุดลุยเต็มที่

"ชัชชาติ" ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม ยอมรับหนักสุดตั้งแต่เป็นผู้ว่าฯ กทม. เร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าช่วยเหลือประชาชน รองผู้ว่าฯ กทม.แนะใครอยู่บ้านได้สะดวกที่สุด หนังกลางแปลงยังฉายเหมือนเดิม ด้าน "วิโรจน์" ออกโรงช่วยผ่าตัดงบสภาเล็กช่วยแก้ปมงานระบายน้ำ กรมอุตุฯ เตือนฝนหนักซ้ำ นายกฯ สั่งเตรียมแผนเผชิญเหตุ    

เมื่อเวลา 23.30 น. คืนวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ไลฟ์สดผ่านเพจเฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ระหว่างลงพื้นที่ไปยังถนนประชาสุข ซึ่งเป็นจุดน้ำท่วมขังซ้ำซากแห่งหนึ่งของ กทม. หลังฝนตกอย่างหนัก โดยพบขยะอุดตันตามท่อระบายน้ำ และเจ้าหน้าที่ของ กทม.กำลังนำเครื่องสูบน้ำมาช่วยระบายน้ำเพื่อลดระดับน้ำบนพื้นผิวถนน จากนั้นเวลา 05.30 น. ได้ลงพื้นที่ซอยสุขุมวิท 67 ซึ่งพบว่ายังมีน้ำท่วมหนักเป็นบางจุด โดยนายชัชชาติกล่าวว่า "น้ำท่วมหนักเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่เป็นผู้ว่าฯ ไม่เป็นไร เดี๋ยวลุยเต็มที่"

นายชัชชาติเปิดเผยว่า คลองแสนแสบมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 1 เมตรภายใน 2 ชั่วโมง ดังนั้นทุกหน่วยงานอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการระบายน้ำ แต่ยังเป็นปัญหาอยู่ เพราะปริมาณน้ำในแม่น้ำสูงกว่าประตูระบายน้ำ ส่งผลให้เปิดประตูน้ำไม่ได้ จึงต้องใช้ปั๊มเพื่อสูบน้ำออก ยืนยันว่าน้ำกำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่สำคัญคือต้องวางแผนในการจัดการกับขยะไม่ให้อุดท่อระบายน้ำภายหลังถูกน้ำฝนพัด จึงต้องขอให้ประชาชนจัดการขยะบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งจุดที่มีการให้นักโทษมาช่วยลอกท่อยังช่วยได้อยู่ โดยเฉพาะพื้นที่ห้วยขวาง ดังนั้นจะเดินหน้าโครงการต่อไป

ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวต่อว่า ยังต้องเร่งแก้ไขปัญหาการเดินทางสัญจรของพี่น้องประชาชนให้ราบรื่น มีรถยนต์อำนวยความสะดวกที่เพียงพอ หากหน่วยงานไหนมีรถยนต์อำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้ ก็ต้องเตรียมพร้อมเข้าช่วยเหลือ โดยจะประสานกองทัพขอรถทหารมาช่วยพาประชาชนกลับบ้าน จึงอยากจะแนะนำให้ประชาชนรีบกลับบ้าน เพราะคาดว่าเย็นนี้ฝนจะตกหนักมาซ้ำเติมสถานการณ์อีกแน่นอน และคาดว่าจะเป็นแบบนี้ไปอีก 3-4 วัน ยืนยันไม่รู้สึกกดดัน เพราะได้เตรียมพร้อมตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง และถึงจะไม่ได้ลงไปทุกจุดด้วยตนเองก็มีทีมงาน รวมถึงผู้อำนวยการเขตที่คอยลงพื้นที่ดูแลอยู่แล้ว และเจ้าหน้าที่หลายหน่วยทำงานโดยไม่ต้องสั่งการ และตนก็รู้สึกเป็นห่วงประชาชนที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว

 “เรื่องนี้เป็นข้อเท็จจริงที่เรามาทำหน้าที่ใน กทม. และปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ จะทำให้เต็มที่ และผมคิดว่าเป็นบทเรียนว่าตรงไหนเป็นจุดที่อ่อน ที่มีน้ำท่วมขัง และต้องรู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน โดยฝ่ายที่อยู่หน้างานก็ต้องเตรียมการ แต่การลงพื้นที่จะเห็นปัญหาละเอียดขึ้น” นายชัชชาติกล่าว

นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “วันนี้คิดว่าน้ำระบายเร็วกว่าเดิม หากใครอยู่บ้านได้วันนี้น่าจะสะดวกที่สุด ส่วนกรุงเทพกลางแปลงนั้นยังมีตามแผนเดิม เพราะทีมงานเตรียมจอหนัง ภาพยนตร์ กิจกรรม และร้านค้า เตรียมกันไว้พร้อมแล้ว ที่แรก (1) ตลาดบางแคภิรมย์ จัดในร่ม มีที่จอดรถ วันนี้เรื่อง Fast & Furious ที่ที่สอง (2) สวนเบญจกิติ เป็นที่กลางแจ้ง จอหนัง ร้านค้าและทีมเตรียมพร้อมหมดแล้วเช่นกันครับ อยากให้เลี่ยงใช้รถส่วนตัว เพราะน่าจะเดินทางยาก เราเตรียมรถบัสไว้ขนส่งคนหากกรณีฝนตกแล้วเดินทางลำบาก วันนี้ฉายเรื่องมหานครครับ"

ทางด้านนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ขอเป็นกำลังใจให้พี่ชัชชาติ ท่านผู้ว่าฯ กทม. น้ำท่วม กทม. เป็นปัญหาที่เราทุกคนต้องช่วยกัน”

ขณะที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ภาพป้ายหาเสียงของนายชัชชาติ นโยบายลอกท่อ-เลิกท่วม พร้อมคลิปน้ำท่วมซอยทองหล่อ ถนนสุขุมวิท ระบุว่า "ทอง​หล่อ​น้ำท่วมหนักในรอบสิบปี แต่คงไม่มีใครถูกตำหนิ เพราะมีผู้ว่าฯ เก่งโคตรๆ"

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีต ส.ส. พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ว่า เนื่องจากปีนี้สภาพอากาศโลกมีความแปรปรวนเป็นพิเศษ และปัญหาน้ำท่วมแบบที่เกิดในวันนี้อาจไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของปีนี้ เพราะอย่าลืมว่าเราเพิ่งผ่านวันเข้าพรรษามาแค่ไม่กี่วัน หัวใจของปัญหาน้ำท่วมที่ต้องเร่งแก้ไข นอกจากเส้นเลือดใหญ่หรือเส้นเลือดฝอยแล้ว สิ่งที่สำคัญที่เปรียบประหนึ่งกระดูกสันหลังก็คือ การจัดสรรงบประมาณของ กทม. ว่าถูกจัดสรร และนำไปใช้ได้อย่างตรงจุดหรือไม่ พร้อมตั้งข้อสังเกตงบประมาณสำนักระบายน้ำปี 66 จำนวน 7,704.48 ล้านบาท ที่ผู้ว่าฯ คนก่อนทำทิ้งไว้ 

"ขณะนี้ กทม.กำลังพิจารณาข้อบัญญัติงบประมาณ 66 ส.ก.ก้าวไกลทุกคนทำการบ้านงบที่เกี่ยวข้องกับงานระบายทั้งในส่วนของเขตและสำนักการระบายน้ำอย่างเต็มที่ เพื่อให้มั่นใจว่า กทม.จะมีงบประมาณที่เพียงพอสำหรับการแก้ปัญหาน้ำท่วมของกรุงเทพฯ ให้ทุเลาลงให้ได้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่ามีโครงการการก่อสร้างจำนวนมาก แต่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ตามแผน ทำให้ล่าช้า ไม่สามารถหาผู้รับจ้างได้ แต่ก็ตั้งงบประมาณในส่วนนี้คาเอาไว้เสมอ คิดแต่การทำโครงการใหญ่ที่มีผลกระทบสูงแต่ไม่มีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ เสียเงินจำนวนมากไปกับการจ้างที่ปรึกษาในการก่อสร้าง แถมที่ผ่านมาการตรวจรับงานก็มีปัญหางานด้อยคุณภาพ" นายวิโรจน์ระบุ

ทางด้านกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเรื่อง "ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 21-24 ก.ค.2565)" ฉบับที่ 5 ระบุว่า ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วย

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ฉบับที่ 21/2565 เรื่อง “เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน” การประเมินสถานการณ์น้ำจากฝนคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ ว่าจะมีปริมาณฝนตกสะสมต่อเนื่อง อาจส่งผลให้เกิดน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจจะได้รับผลกระทบ ได้กำชับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและน้ำท่วมขังในช่วงวันที่ 21-25 ก.ค.2565 

"เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ   ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสม และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำให้ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและความสามารถในการใช้งานของอ่างเก็บน้ำ อาคารบังคับน้ำ รวมทั้งให้ติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซมแนวคันบริเวณริมแม่น้ำต่างๆ ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญให้กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างสม่ำเสมอ พร้อมเร่งระบายน้ำในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังอยู่เดิม เพื่อเตรียมพร้อมรับน้ำหลากและป้องกันน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นอีก ขอให้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีด้วย" นายธนกรกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘แพทองโพย’ขาลง!

"นิด้าโพล-ดุสิตโพล" สะท้อนตรงกัน   "นายกฯ อิ๊งค์" ขาลง! คะแนนนิยมลด สวนทางผลงานรัฐบาลเพิ่ม

กกต.หายห่วง! ชูเลือกตั้งอบจ. รู้สึก ‘ปลอดภัย’

"แสวง" ปลุกเจ้าหน้าที่ กกต.! ยันไม่ได้รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยหลังจากที่ได้ลงตรวจเยี่ยมการสมัครรับเลือกตั้งที่ปราจีนบุรี ไม่คิดว่าผู้สมัครนายก อบจ.คนไหนจะสร้างความรุนแรง

ประเดิม 10 วันอตร. ตาย 52

ประเดิม 10 วันอันตราย เกิดอุบัติเหตุ 322 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 318 คน ผู้เสียชีวิตแล้ว 52 ราย สาเหตุส่วนใหญ่ขับรถเร็ว