พระราชทาน ขวัญกำลังใจ ‘มทภ.4’ฮ.ตก

แม่ทัพภาค 4 และทหารที่บาดเจ็บจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ลงจอดฉุกเฉินที่  อ.เทพา อาการดีขึ้นและปลอดภัยทุกนาย   เตรียมเคลื่อนย้ายซาก ฮ. ไปเก็บที่กองพันซ่อมบำรุงทหารบกค่ายลพบุรีราเมศวร์ในอีก 1-2 วันนี้ และเร่งสำรวจให้ความช่วยเหลือเจ้าของสวนยางที่ได้รับความเสียหาย ได้ต้นละ 2 พัน

ความคืบหน้าเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กของ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ลงจอดฉุกเฉินกลางสวนยางพาราพื้นที่หมู่ 1 บ้านคลองยอ ต.วังใหญ่ อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2565 ขณะออกเดินทางจากค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไปยังค่ายสิรินธร จ.ปัตตานี และเครื่องเกิดขัดข้องต้องลงจอดฉุกเฉิน และทำให้ทั้งแม่ทัพภาคที่ 4 ทหารติดตามนักบินและช่างเครื่องบาดเจ็บรวม 7 นาย ส่วนเฮลิคอปเตอร์ฟาดกับต้นยางพลิกตะแคงข้างเสียหายหนัก

ล่าสุด วันที่ 16 ก.ค. บริเวณจุดที่เฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กลงฉุกเฉินนั้น ทางเจ้าหน้าที่นิรภัยการบินของกองทัพบกได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบทางด้านเทคนิคของเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กลำนี้แล้ว เพื่อสอบสวนวิเคราะห์หาสาเหตุที่ต้องลงฉุกเฉิน นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 เข้าร่วมตรวจสอบเก็บหลักฐานบริเวณจุดเกิดเหตุด้วย รวมทั้งมีการเตรียมแผนการกู้เฮลิคอปเตอร์ลำนี้ออกจากจุดเกิดเหตุ

โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทางทหาร ช.พัน 15 ค่ายลพบุรีราเมศวร์ ซึ่งเป็นทหารช่าง และทหารกองพันซ่อมบำรุงทหารบก ได้ระดมเครื่องจักรเข้ามาเคลียร์พื้นที่เส้นทางเข้า-ออก รวมทั้งนำรถเครน รถบรรทุก เข้ามาเตรียมพร้อมยังจุดเกิดเหตุเพื่อยกและลำเลียงเฮลิคอปเตอร์ออกจากพื้นที่ หลังจากที่เสร็จสิ้นกระบวนการตรวจสอบของฝ่ายนิรภัยการบินกองทัพบก โดยจะใช้วิธีถอดแยกชิ้นส่วนออกและนำไปเก็บไว้ที่ศูนย์ซ่อมบำรุงที่กองพันซ่อมบำรุงทหารบก จ.ลพบุรี คาดว่าอาจจะต้องใช้เวลาอีกราว 1-2 วันหลังจากนี้ในการเคลื่อนย้ายออกจากจุดเกิดเหตุ โดยระหว่างนี้ทางทหารหน่วยเฉพาะกิจสงขลา 40 ได้ส่งกำลังมาเสริมดูแลปลอดภัยและความเรียบร้อยจนกว่าจะจบภารกิจ

นอกจากนี้ ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา ได้เข้าเสริมภารกิจด้วยการนำเครื่องปั่นไฟ อุปกรณ์ส่องสว่าง และเครื่องจักรเล็กมาร่วมด้วยจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจกู้เฮลิคอปเตอร์ลำนี้ 

ส่วนความคืบหน้าอาการของทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 7 นาย ล่าสุดทางโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ได้รายงานว่า  พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ อายุ 59 ปี ผู้ป่วยบาดเจ็บกระดูกอุ้มเชิงกรานหัก ผ่าตัดใส่เหล็กดามที่กระดูกเชิงกรานเรียบร้อยแล้ว  และเย็บแผลที่แขนขวาตรงบริเวณข้อมือ ให้ยาแก้ปวดชนิดฉีดทางหลอดเลือดดำทุก 6 ชั่วโมง หัวใจเต้นปกติดี ใส่ท่อเครื่องช่วยใจ หายใจได้ดี ใส่สายสวนปัสสาวะ งดน้ำงดอาหาร ให้น้ำเกลือ และไม่มีไข้

ส่วนทหารบนเครื่องอีก 6 นาย ซึ่งมีนักบิน 2 นาย, ช่างเครื่อง 2 นาย, นายทหารคนสนิท (ทส.) 1 นาย และช่างภาพอีก 1 นาย ทุกคนอาการปลอดภัยเช่นเดียวกัน ประกอบด้วย ส.ท.พีระวิทย์ โอสถเจริญ อายุ 27 ปี, ร.ท.ณัช โลหากาศ อายุ 30 ปี, พ.ต.ประสาร ด้วงชาญ อายุ 39 ปี, จ.ส.อ.พิษณุ พันเต อายุ 38 ปี, จ.ส.อ.ธีรพงษ์ คูหาแก้ว อายุ 32 ปี และ ร.อ.วิสารท์ ชูสังกิจ อายุ 35 ปี โดยทุกนายขณะนี้รู้สึกตัวดี และส่วนใหญ่บาดเจ็บตามลำตัวและแขนขาจากแรงกระแทก

ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  โปรดเกล้าฯ ให้นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เชิญแจกันดอกไม้พระราชทานมามอบให้แก่แม่ทัพภาคที่ 4 และทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และหลังจากนั้น ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นำกระเช้าของขวัญไปเยี่ยมแม่ทัพภาคที่ 4 และทหารทุกนายที่ได้รับบาดเจ็บด้วย

ด้านการให้ความช่วยเหลือประชาชนและชาวสวนยางในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ เบื้องต้นทางหน่วยเฉพาะกิจสงขลาได้ออกสำรวจ และพบว่ามีผู้ได้รับผลกระทบรวม 7 ราย และมอบเงินช่วยเหลือให้รายละ 5,000 บาท ส่วนต้นยางพาราเสียหายไปจำนวน 35 ต้น ซึ่งจะชดเชยให้ครบตามจำนวนต้นละ 2,000 บาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเสียหายทั้งทรัพย์สินและในการประกอบอาชีพกรีดยางพารา.